10 พ.ค. 2023 เวลา 03:20 • การตลาด

ชวนส่อง 7 เทรนด์ E-Commerce ที่น่าจับตามองในปี 2023

วันนี้จะพาไปดูแนวโน้มของตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ในปี 2023 กันค่ะ ปัจจุบันอีคอมเมิร์ซได้เปลี่ยนวิธีการช้อปของผู้คนไปอย่างมาก ทำให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลกมีมูลค่าประมาณ 16.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตประมาณ 27.43% ตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2028
ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ แบรนด์จำนวนมากกำลังลงทุนอย่างหนักเพื่อให้ร้านค้า แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซได้รับประโยชน์สูงสุด และเติบโตเหนือคู่แข่ง ไปดูกันค่ะว่าเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่กำลังจะเป็นที่นิยมในปีนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. Video shopping: การชอปปิงผ่านวิดีโอคอนเทนต์วิดีโอได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับแบรนด์ในการเข้าถึง และมีส่วนร่วมกับผู้ชมทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยการชอปปิงผ่านวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็น Long Form Video , Shorts Video หรือ Live Stream เพราะลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกสะบาย ไม่ต้องออกจากบ้านไปเลือกซื้อเอง
2. New payment options: ตัวเลือกการชำระเงินแบบใหม่ๆตัวเลือกการชำระเงินใหม่ๆ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากขึ้น เพราะสามารถชำระเงินได้รวดเร็วและง่ายขึ้น ขณะที่กำลังชอปปิงออนไลน์ สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกระเป๋าเงิน หรือ Wallet มือถือ เช่น Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นจึงใช้อุปกรณ์ของตัวเองในการชำระเงิน นอกจากนี้แนวโน้มการชำระเงินอีคอมเมิร์ซอีกแบบหนึ่ง คือ การยอมรับรูปแบบการสมัครสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าซ้ำ ๆ โดยไม่ต้องป้อนรายละเอียดการชำระเงินด้วยตัวเองทุกครั้งที่สั่งซื้อ ทำให้ติดตามการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
3. Mobile Shopping: การชอปปิงบนมือถือการชอปปิงผ่านมือถือเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คิดเป็น 53% ของยอดขายอีคอมเมิร์ซในปี 2021 และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นในปี 2023 และนี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับธุรกิจที่สามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของผู้บริโภคที่ชอบชอปปิงบนมือถือได้
ปัจจัยสำคัญอีกข้อที่ทำให้การชอปปิงผ่านมือถือประสบความสำเร็จ ก็คือการให้ตัวเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัย เพราะผู้บริโภคต้องการความอุ่นใจเมื่อซื้อของออนไลน์
4. Social commerce: โซเชียลคอมเมิร์ซโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น TikTok, Facebook , Instagram ,Twitter, รวมไปถึง YouTube เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้โดยตรงและเป็นส่วนตัว นอกจากนี้โซเชียลคอมเมิร์ซยังช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งสามารถใช้เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้าและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้
และยังมีองค์ประกอบหลักบางอย่างของกลยุทธ์โซเชียลคอมเมิร์ซที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ การใช้ประโยชน์จาก Influencer หรือความร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ ไปจนถึงการให้ข้อเสนอพิเศษ การสร้างโปรแกรมสมาชิก การให้ส่วนลด
5. Inflation and tight budgets: เงินเฟ้อและงบประมาณที่ตึงตัวในปี 2566 อาจจะต้องเจอกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งอาจนำไปสู่การซื้อสินค้าน้อยลง ทำให้รายได้ของผู้ค้าปลีกออนไลน์ลดลง อาจนำไปสู่พฤติกรรมของลูกค้าที่อ่อนไหวต่อราคามากขึ้น เช่น ไม่กล้าที่จะซื้อสินค้าราคาแพง หรือสินค้าที่มีความฟุ่มเฟือย ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการ และงบประมาณของผู้บริโภค
6. Personalization: การปรับเปลี่ยนในแบบของส่วนบุคคลในปี 2023 Personalization จะกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุด การปรับให้เป็นส่วนตัวช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่สามารถปรับแต่งตามความสนใจ ความต้องการ และความชอบของพวกเขาได้ และแบรนด์สามารถเสนอการปรับเปลี่ยนในแบบของส่วนบุคคล โดยใช้ข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเพื่อสร้างความภักดีต่อลูกค้าได้
7. AR, VR & Generative AI: แสดงตัวอย่างสินค้าเสมือนจริง ช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อ.เทคโนโลยี AR, VR จะสามารถลดการคืนสินค้าได้ เพราะลูกค้าได้ดูตัวอย่างสินค้าที่ตัวเองเลือกอย่างถูกต้องก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อตัดสินใจซื้อ ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าผ่านร้านค้าเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องออกไปเลือกซื้อเอง
และเครื่องมือเหล่านี้ที่สร้างขึ้นโดย Generative AI จะสามารถเปลี่ยนวิธีการที่ผู้ใช้โต้ตอบกับแบรนด์อีคอมเมิร์ซ โดยเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าที่หาไม่ได้จากที่ไหนนั่นเองค่ะ
ข้อมูลจาก: alibaba, everydaymarketing.
โฆษณา