12 พ.ค. 2023 เวลา 10:05 • ไลฟ์สไตล์

วัดป่าสวนโมก

ความบังเอิญในโลกนี้ไม่มีอยู่จริง
การที่ได้บังเอิญขับรถผ่านไปวัดของหลวงพ่อที่ฉันศรัทธามาตั้งแต่เด็ก ย่อมไม่ทำให้ฉันคิดว่าจะเป็นความบังเอิญไปได้ ยิ่งในความเป็นสายมูอย่างฉันยิ่งทำให้คิดไปว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนน่าจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่ดลจิตดลใจให้ขับรถมาถึงที่นี้ ผ่านจุดนี้และได้แวะเวียนมาที่แห่งนี้
#ความบังเอิญในโลกนี้ไม่มีอยู่จริง
วัดป่าสวนโมกหรือวัดธารน้ำไหล เป็นวัดที่หลวงพ่อพระพุทธทาสซึ่งเป็นพระนักปราชญ์ชาวพุทธที่ฉันเคารพนับถือมาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่มีปัญหาชีวิต มีความทุกข์ร้อนใจ ก็จะต้องเปิดฟังธรรมมะของท่านพระพุทธทาส ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เรียนมหาวิทยาลัย ก็มีเทปกับแผ่นซีดีธรรมะของท่านมาได้ฟัง สมัยนี้ง่ายหน่อยก็เปิดฟังจากยูทูปได้เลยและเวปไซต์ของที่วัดก็รวบรวมคำสอนของท่าน
พระพุทธทาสมาไว้ให้เราได้ศึกษาเรียนรู้กัน
วันนี้หลังจากที่ได้คุยกับน้องสาวว่าจะขับรถลงไปที่ภูเก็ตแต่เพื่อไม่ต้องไปเช่ารถที่ภูเก็ตเลยตัดสินใจว่าขับรถลงไปจากกรุงเทพเสียเอง เพียงแต่อาศัยว่าขับเฉพาะในช่วงกลางวัน แวะพักเทียวไปตามทางและหยุดพักนอนโรงแรมช่วงกลางคืน
ในการตัดสินใจว่าจะหยุดพักที่สุราษฎร์ธานี ในขณะที่แวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ปั้มแห่งหนึ่ง จู่ๆก็มีความคิดว่าน่าจะแวะไปไหว้พระวัดที่สุราษฎร์ธานีสักแห่ง จึงได้ค้นหาวัดในสุราษฏร์ที่น่าสนใจปรากฎว่า วัดป่าสวนโมกอยู่ใกล้เพียง 10 กม. จากปั้มที่ฉันจอดแวะพัก และในขณะนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายโมงกว่า
เพื่อจะให้ถึงสุราษฎร์ก่อนค่ำ ก็เป็นไปได้ที่จะแวะไปสำรวจวัดป่าสวนโมกก่อนสัก 1-2 ชม.
ประตูทางเข้าวัดป่าสวนโมก
หลังจากจอดรถด้านหน้าวัด ฉันก็มองเห็นต้นไม้พงหญ้าจากนอกรั้ววัด เสียงนกร้อง และลมพริ้วใบไม้ไหว ก็ทำให้เริ่มสัมผัสถึงความสงบ “เสียงของพระพุทธทาสที่ก้องกังวานอยู่ในหัว ในทุกครั้งที่เปิดฟัง เสียงไก่ขันจากคลิปธรรมะยังก้องอยู่ในหัว” มีกลุ่มคน เดินสวนออกมาจากในวัด 3-4 คน ภายในวัดเต็มไปด้วยต้นไม้สูง ร่มรื่นและร่มเย็นประหนึ่งว่าตัดขาดจากโลกภายนอกไปเสียเลย
สวนและทางเดินภายในวัด
พอเดินพ้นเข้ามาในวัดความเงียบสงบก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งวัด แทบจะไม่ได้มีผู้คนอยู่ที่วัดแห่งนี้เลย ด้านซ้ายมีน้องหมาเดินไป เดินมาอยู่2-3 ตัว ด้านขวามีน้องไก่นอนอยู่ ด้านซ้ายมีแผนที่คร่าวๆของวัด อธิบายบริเวณต่างๆ ของวัด ฉันเดินไปที่ศาลา ภาพหลวงพ่อพระพุทธทาสหนังหันหลังที่คุ้นชินก็ตั้งตระหงานอยู่ด้านหน้า พร้อมกับแผ่นกระดานที่เล่าเรื่องราวของหลวงพ่อจากอดีตถึงปัจจุบัน แผนผังของป่าสวนโมก และคำสอนที่ท่าถ่ายทอดไว้
รูปวาดหลวงพ่อพระพุทธทาส
แผนที่และประวัติพระพุทธทาส
เดินออกมาด้านข้างก็จะมีแผ่นกระดาษ และแผ่นหินที่สลักคำสอนต่างๆของท่านพระพุทธทาสไว้บริเวณรอบๆวัดให้ผู้คนที่มาเยี่ยมชมได้เรียนรู้และได้อ่านคำสอนของท่านไปด้วย
ป้ายวัดและคำอธิบายแผนผังวัด
ป้ายคำสอนพระพุทธทาส
เมื่อเดินเข้ามาด้านในอีกชั้นหนึ่งก็ปรากฎลานม้าหินขัด วางเรียงกันอยู่โดยรอบ มีอาคารเหมือนเป็นกุฏิวัดอยู่ด้านหลัง
ด้านหน้ามองเห็นลานดินที่มีแท่นพระพุทธรูปอยู่ด้านหน้าและมีคนนุ่งชุดขาวกวาดลาดดินอยู่ 2 คน ใต้ร่มไม้ใหญ่ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ร่มเย็นยิ่งนัก ความสงบก็เข้ามาเยือนผู้คนที่เยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้
ลานม้าหินขัด
กุฏิวัดและที่นั่งพระพุทธทาสที่บรรยายธรรม
สักพักก็มีหลวงพ่อเดินมาจากด้านหน้า ฉันยกมือไหว้นมัสการหลวงพ่อ หลวงพ่อสอบถามว่ามาครั้งแรกเหรอโยม ฉันตอบท่านไปว่าพึ่งมาครั้งแรกค่ะ
หลวงพ่อจึงอธิบายให้ฟังว่า ด้านลานม้าหินขัดนี้เป็นบริเวณที่หลวงพ่อพระพุทธทาสมานั่งบรรยายธรรมให้สาธุชนได้รับฟังกัน ณ.ลานม้าหินขัด
ป้ายด้านหน้าบอกพระอาจารย์นั่งรอทุกคนมากี่ปีแล้ว ตอนนี้ท่านไม่มาไม่นั่งคอยแล้ว ท่านไปนอนคอยแล้ว
และรูปถ่ายในอดีตที่หลวงพ่อพระพุทธทาสนั่งอยู่ที่ม้านั่งรอวันที่เรามาเยี่ยมเยือน
ภายในจิตใจของฉันตอนนี้ประหนึ่งว่าได้มาเยี่ยมเยือนในวันที่หลวงพ่อท่านนั่งรอบรรยายธรรมอยู่ตรงนั่ง รอเหล่าสาธุชนทั้งหลายมารวมตัวกัน เพื่อรับฟังธรรมะจากหลวงพ่อพระพุทธทาส
แต่หลวงพ่อมรณภาพไปตั้งแต่ปี 2536 ปีนี้ 2566 แล้ว ฉันมาช้าไป 30ปี มิเช่นนั้นก็จะยังได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อพระพุทธทาส แต่การที่ได้มาเยือนถึงถิ่น กลับได้รับความสงบร่มเย็น เข้าไปถึงด้านในหัวใจ การมาครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ลานดิน
หลังจากได้ซาบซึ้งถึงความสงบและเต็มอิ่มจากการได้ซึมซับ ความมีอยู่ของพระพุทธทาสแล้ว ฉันจึงเดินต่อไป
ด้านในจะเป็นลานดิน ลานกิจกรรมที่มีแท่นพระพุทธรูปอยู่ด้านหน้า ภายใต้ร่มไม้ทำให้สถานที่แห่งนี้สงบร่มเย็นและสัมผัสได้ถึงความสงบจนอยากจะมาปฏิบัติธรรมสักอาทิตย์เลยทีเดียว ลานดินที่ดูน่าจะมาเดินจงกรมหรือทำกิจกรรมได้เบื้องหน้ามีแท่นนั่งอาสนะสำหรับพระสงฆ์ที่จะเป็นผู้บรรยายธรรม และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่
โรงมหรสพ
เดินเข้ามาอีกนิดก็จะเจอโรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งจะมีศิลปะจากศิลปินจากที่ต่างๆ นำมาจัดแสดงพร้อมทั้งธรรมะ แฝงอยู่ในรูปภาพเหล่านั้น
การได้หลงเข้ามาในแหล่งอารยธรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมะปุจฉา และ คติธรรมต่างๆ ทำให้การขับรถมาวันนี้ดูมีความหมายมากกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา
รวมถึงทำให้จิตใจเบิกบานตื่นรู้ และเหมือนโดนสะกิดว่าให้ตื่นรู้ได้แล้ว มัวหลงไหลอะไรอยู่ หลงในมายา หลงในโลกมนุษย์ ถึงแม้นจะเป็นเพียงปุถุชนเราก็สามารถตื่นในธรรมะได้ เพียงแต่สะดับรับฟังคำสอนของท่าน เปิดใจ เปิดความคิดให้เห็นแจ้งเห็นจริงในชีวิต เห็นโลกในแบบที่มันเป็น และอุเบกขากับเรื่องที่ไม่ควรนำมาใส่ใจ
ภายในโรงมหรสพ
ศิลปะและคำสอนธรรมะ
คำคมพระพุทธทาส
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือประโยคนี้
“ไม่ทำตามที่สอน อย่ามาอ้อนเรียกอาจารย์”
ช่าวเป็นวลีที่สมกับท่านอาจารย์พระพุทธทาสเด็ดขาดเฉียบคมและแฝงซึ่งความหมายอันลึกซึ้ง
โอกาสหน้า #ป.ปลาพาไปเที่ยวไปกินไปมู
จะได้มีโอกาสนำเอาคำสอนของท่านมาเขียนถึงบ้างซึ่งจะนำไปเขียนในอีกเพจ #ธรรมะสอนใจ
ติดตามกันใน blockdit นะว่า ป.ปลาพาไปเที่ยวไปกินไปมู
กันที่ไหนต่อ
โฆษณา