Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อาจวรงค์ จันทมาศ
•
ติดตาม
14 พ.ค. 2023 เวลา 03:35 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
อนุรักษ์นิยม vs เสรีนิยม แก่นความเชื่อที่ฝังรากลึกในสมอง
(เรียบเรียงโดย ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์)
อุดมการณ์ทางการเมือง มีอยู่หลายสำนักความเชื่อ หลายฝักฝ่าย และที่ดูจะเป็นขั้วตรงข้ามอันสุดโต่งทั้งยังเป็นประเด็นถกเถียงร้อนแรงในสังคมมาอย่างช้านาน หนีไม่พ้นชุดความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยม กับเสรีนิยม
กล่าวโดยคร่าวๆ อนุรักษ์นิยม (conservatism) มุ่งเน้นไปที่การเก็บรักษาและปกป้องประเพณี ข้อปฏิบัติ สถาบัน และคุณค่าเดิมเอาไว้ ในขณะที่เสรีนิยม (liberalism) จะเน้นไปที่สิทธิเสรีภาพของปัจเจกและความเท่าเทียม
2
สหรัฐอเมริกาแม้จะเป็นประเทศที่ระบบเศรษฐกิจเดินหน้าด้วยระบบเสรีนิยมอย่างเต็มสูบ แต่ในแง่ของอุดมการณ์ทางการเมืองนั้นมีการต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงระหว่างอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมจนเป็นที่สนใจของนักวิชาการว่าชุดความคิดเหล่านี้ ถือกำเนิดขึ้นมาจากไหน เป็นผลมาจากการหล่อหลอมทางสังคมล้วนๆ ไหม หรือมีรากฐานมาจากชีววิทยา พันธุกรรม และโครงสร้างทางสมองร่วมด้วย
1
ประเด็นทางการเมืองไม่ได้ร้อนแรงอยู่แค่ในสภาหรือบนท้องถนน แต่ในห้องแล็บ นักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งอยากรู้ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองเกี่ยวข้องกับสมองของเราอย่างไรบ้าง จนเกิดเป็นงานวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์การเมือง (political neuroscience) ขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ทีมนักวิจัยนำโดยซอ อึน ยัง (Seo Eun Yang) สกายเลอร์ แครนเมอร์ (Skyler Cranmer) จากภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต และเจมส์ วิลสัน แห่งภาควิชาจิตเวชศาสตร์ โรงเรียนแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก ร่วมกันระบุผ่านงานวิจัยของพวกเขาว่า อุดมการณ์ทางการเมืองนั้นฝังรากลงในสมองลึกกว่าที่เคยคิดกัน
สกายเลอร์ แครนเมอร์ (Skyler Cranmer) จากภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต
“เราสามารถบอกได้เลยไหมว่าใครเป็นอนุรักษ์นิยมใครเป็นเสรีนิยมด้วยการสแกนสมอง ผมตอบเสียงดังฟังชัดเลยว่า 'ได้' "สกายเลอร์กล่าว
1
คณะนักวิจัยระดมผู้เข้าร่วมทดสอบจากโครงการสำรวจความผาสุกแห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตตกว่า 174 คน อายุระหว่าง 18-40 ปี เป็นชาย 61 คน หญิง 113 คน มาเข้าเครื่องสแกนสมองด้วยแม่เหล็ก (functional magnetic resonance imaging หรือ fMRI) เป็นเวลา 1.5 ชั่วโมง ระหว่างนั้นอาสาสมัครจะต้องอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร
หน้าจอแสดงผล เครื่องสแกนสมองด้วยแม่เหล็ก (functional magnetic resonance imaging หรือ fMRI) ที่มา : Wikipedia
และต่อด้วยการทำแบบทดสอบด้านต่างๆ เช่น ความไวในการตอบสนอง การตัดสินใจ ความเห็นอกเห็นใจ ความจำ และอื่นๆ รวมแปดด้าน ซึ่งเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แล้วผู้เข้าร่วมวิจัยยังได้ตอบแบบสอบถามถึงอุดมการณ์ทางการเมือง บ้านเกิด ความเชื่อของพ่อแม่ ศาสนา และรายได้ของครอบครัว เป็นต้น
ทีมนักวิจัยจะนำข้อมูลจากการสแกนสมองและประวัติส่วนตัวมามาหาความสัมพันธ์กับอุดมการณ์ทางการเมืองเบื้องต้น รวมถึงอาศัยพลังประมวลผลของโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ร่วมกับเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับประมวลผลข้อมูลของระบบประสาทโดยเฉพาะมาสร้างอัลกอริทึมสำหรับ “ทำนาย” อุดมการณ์ทางการเมืองโดยอาศัยเพียงจากการทำงานของสมองเท่านั้น
ส่วนต่าง ๆ ของสมองที่เกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ทางการเมือง
ผลการวิเคราะห์พบว่าแบบทดสอบทั้งแปดมีความสัมพันธ์กับอุดมการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบวัดที่มีแรงจูงใจเป็นตัวเงิน (แบบหลอกๆ) จะสัมพันธ์กับอุดมการณ์ทางการเมืองแบบสุดโต่ง และคะแนนจากแบบวัดความเห็นอกเห็นใจกับความจำ สัมพันธ์กับอุดมการณ์แบบกลางๆ เป็นพิเศษ
"เรายังต้องศึกษาวิจัยให้ลึกขึ้นไปอีกเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการตัดสินใจที่มีรางวัลเป็นเดิมพันกับความคิดทางการเมืองแบบสุดขั้ว ส่วนผลการทดลองว่าด้วยแบบทดสอบความเห็นอกเห็นใจ อาจเป็นเพราะงานการเมืองเป็นเรื่องของอารมณ์" วิลสันกล่าว
ในส่วนของการสร้างแบบจำลองเพื่อทำนายอุดมการณ์ทางการเมือง คณะนักวิจัยพบว่าข้อมูลจากการสแกนสมองขณะทำกิจกรรมทั้งหมดทำนายได้ถูกต้อง 72% และเมื่ออาศัยข้อมูลอุดมการณ์ทางการเมืองของพ่อแม่ และประวัติอื่นๆ จากแบบสอบถาม สามารถใช้ทำนายได้ที่ความถูกต้องประมาณ 74%
ท้ายสุด เมื่อวิเคราะห์กายวิภาคของสมองออกมาอย่างละเอียด คณะนักวิจัยพบว่าการทำงานของสมองส่วนอะมิกดาลา ฮิปโปแคมปัส และบริเวณสมองส่วนหน้าด้านล่าง สัมพันธ์กับอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลชุดก่อนหน้า เนื่องจากสมองทั้งสามส่วนนี้ทำงานเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก ความจำ และการประมวลผลทางภาษา
ส่วนต่างๆ ของสมอง ที่มา : https://images.app.goo.gl/pLD7UY8mVcvSVB8B6
ผลการทดลองเหล่านี้ชี้ว่า แม้ในยามที่เราไม่ได้แสดงทัศนคติทางการเมืองอะไรออกมา แต่ในสมองของเราก็มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไปตามอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยึดถือกันอยู่
คณะนักวิจัยซึ่งยึดถือจรรยาบรรณและตีความข้อมูลจากเท่าที่มีอยู่เป็นสำคัญ ยอมรับว่าแม้จะพบความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของสมองกับอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง แต่อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล เราเชื่ออุดมการณ์ทางการเมืองก่อนแล้วสมองเปลี่ยน หรือเพราะสมองเราเป็นอย่างนี้ เราจึงเชื่อแบบนี้ งานวิจัยนี้ยังให้คำตอบไม่ได้
อย่างน้อยที่สุด คงเป็นการดีที่เราเข้าใจตัวเราเองและคนอื่นในสังคมมากขึ้นว่า ความคิด ความอ่าน การตีความและการรับรู้ข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมาก เป็นผลพวงที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนระหว่างชีววิทยาพื้นฐานและการหล่อหลอมเลี้ยงดูจากครอบครัวและสังคม เราสมาทานความเชื่อใด และคิดว่ามันเปลี่ยนแปลงได้ยากแค่ไหน คนที่ยึดถือความเชื่อไม่ตรงกับเรา ก็ไม่ง่ายเช่นกันที่ความเชื่อเขาจะเปลี่ยนแปลง
สุดท้ายแล้ว เปลือกนอกแม้ทั้งสองฝั่งจะแสดงออกต่างกันสุดขั้ว แต่เนื้อในคือความเป็นมนุษย์ที่มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตและการรับรู้เหมือนๆ กัน
อ้างอิง
https://academic.oup.com/pnasnexus/article/1/3/pgac066/6590843
https://neurosciencenews.com/politics-brain-scans-20728/
11 บันทึก
33
20
11
33
20
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย