14 พ.ค. 2023 เวลา 14:47 • ความคิดเห็น

ตัวตนที่หล่นหาย

- เคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ มีความสุขกับสิ่งที่กำลังทำไหม แล้วเราทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร ความจริงแล้วเรารู้จักตัวเราดีแค่ไหน รู้จักความชอบของตัวเองต่อเรื่องต่างๆ ดีแค่ไหน
- ตอนเป็นเด็กเราสามารถบอกความต้องการของเราออกมาอย่างง่ายดายว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อยากไปที่ไหน อยากทำอะไร แต่ว่าพอเริ่มโตขึ้นในหลายสถานการณ์เรากลับไม่สามารถบอกกับใครต่อใครได้ว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร บางคนถึงขั้นกลายเป็นมนุษย์อะไรก็ได้เวลาอยู่กับคนที่ไม่สนิท
- เราอยู่ในโลกที่โอบล้อมไปด้วยสูตรสำเร็จต่างๆ วิธีที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ค่านิยมของสังคม ไลฟ์โค้ช (Life Coach) รวมถึงคนรอบตัวมากมายที่หวังดีกับเรา ซึ่งมาพร้อมกับคำแนะนำต่างๆ ในการใช้ชีวิต
- มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เรามักจะพยายามกันอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง และไม่อยากที่จะรู้สึกแปลกแยกจากสังคมที่เราอยู่ ดังนั้นเราจึงฟังเสียงของสังคมรอบข้างและพยายามทำตามค่านิยมของสังคม จนกระทั่งวันนึงมันกลายเป็น “ความปกติ” ของเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบางคนก็นำความปกติของตัวเองไปยัดเยียดให้คนอื่นโดยไม่รู้ตัวผ่านรูปแบบของคำแนะนำหรือความหวังดี
- ลองสังเกตดูว่าเมื่อเราอยู่ในสังคมแบบไหนนานๆ เข้า เราจะมีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติและมีพฤติกรรมคล้ายกับคนในสังคมที่เราอยู่ ซึ่งเราจะซึมซับทัศนคติและพฤติกรรมเหล่านั้นโดยที่เราไม่รู้ตัว
- ถ้าอยู่ในช่วงวัยเรียนเรากับกลุ่มเพื่อนของเราจะมีทัศนคติและพฤติกรรมไปในทางเดียวกัน บางคนเรียนหมอโดยที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราอยากเป็นหมอหรือเปล่า แต่เพื่อนในกลุ่มสอบเข้าหมอกันหมดเลยสอบตามเพื่อน หรือต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทย์-คณิต ตามความต้องการของครอบครัว เพราะเห็นว่าเรียนสายนี้แล้วสอบเข้าคณะไหนก็ได้ในชั้นมหาวิทยาลัย โดยที่จริงๆ แล้วเราอาจไม่ได้ชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เลย
- หรือเมื่ออยู่ในวัยทำงานสถานที่ทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และเพื่อนร่วมงานถือเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของเรา ทั้งเรื่องของการแต่งงาน การมีลูก การบริหารเงิน ทัศนคติทางการเมือง หรือแม้กระทั่งการซื้อบ้านและรถ คนบางคนอาจตัดสินใจซื้อรถโดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้รถด้วยซ้ำ แต่ซื้อรถเพราะค่านิยมของสังคมรอบตัว
- จนบางทีเราอาจจะลืมไปแล้วว่าเราเคยเป็นคนแบบไหน
- ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เราลืมตัวตนของเราไป
- ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เราไม่มีแม้แต่เวลาที่จะทบทวนตัวเองว่าเราต้องการอะไรในชีวิตกันแน่
- ความเห็นส่วนตัวของเรา “คำแนะนำคือคำแนะนำ อย่าให้คำแนะนำของคนอื่นมากำหนดชีวิตเรา” เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะตัดสินใจว่าจะทำตามคำแนะนำนั้นหรือไม่ “คือตัวเรา” และตัวเราเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจนั้น เมื่อตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วก็ไม่ควรที่จะไปโทษคนอื่นเช่นเดียวกัน อย่าให้เสียงที่อยู่รอบตัวมาเปลี่ยนตัวตนคุณ จนทำให้คุณเสียความเป็นตัวของตัวเองไป
- เมื่อโตขึ้นแต่ละคนจะมีภาระหน้าที่และความจำเป็นในชีวิตที่แตกต่างกัน จนทำให้บางครั้งเราไม่มีเวลาที่จะหยุดนิ่งเพื่อพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา บางครั้งเราอาจทำบางสิ่งบางอย่างไปตามครรลองของสังคมโดยที่เราไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันนึงที่เราตระหนักได้ว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดอาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการก็ได้ บางทีความต้องการของเราอาจเรียบง่ายเพียงแค่ได้นอนตื่นสายและมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้มีรายได้และชื่อเสียงที่มากขึ้น แต่ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว
- สำหรับเราแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรผิดอะไรถูกขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้นว่าจะใช้ชีวิตแบบไหนที่เมื่อถึงวันนึงเรามองย้อนกลับมาแล้ว เราจะไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา
- ช้าลงบ้างก็ได้ หมั่นตรวจสอบเส้นทางชีวิตของเรา เพื่อที่จะได้มีเวลามาทบทวนตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ตอนนี้เรามีความสุขกับปัจจุบันไหม แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อให้เราสามารถเป็นตัวของตัวเองและมีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น ในขณะที่ก็สามารถรับผิดชอบกับภาระหน้าที่ต่างๆ ได้
- จงใช้ชีวิตของเราเพื่อตัวเรา ไม่ใช่ใช้ชีวิตเพื่อความฝันหรือความต้องการของใครอื่น
- หากคุณไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ต้องการอะไรในชีวิต หนึ่งในวิธีที่จะตรวจสอบได้ว่าเราให้ความสนใจในเรื่องใดเป็นพิเศษ สามารถดูได้จากอัลกอรอทึมในหน้า Explores ของ Instagram ลองสังเกตดูจากตรงนี้ก่อนก็ได้ แล้วค่อยมาดูว่าชีวิตของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร
- วันนี้เราได้เก็บกู้ตัวตนและเป้าหมายในการใช้ชีวิตของเรากลับมาได้แล้ว
- แล้วคุณล่ะหาตัวตนและเป้าหมายในการใช้ชีวิตของคุณเจอรึยัง
- ขอให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ อาจมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่เราจะไม่เสียดายกับเวลาชีวิตที่ค่อยๆ หมดลง
14.5.2566
มนุษย์กินพืช
โฆษณา