18 พ.ค. 2023 เวลา 09:29 • ท่องเที่ยว
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เดินทางไป St.Petersburg ด้วยรถไฟตู้นอน 🇷🇺

เราวางแผนเดินทางจากมอสโกต่อไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ต่ออีก 3 วัน โดยรถไฟตู้นอน 🚂🚂🚂🚂
2
จากบทความตอนที่แล้ว 10 สถานที่เด็ดห้ามพลาด ในมอสโก 3 วัน
ติดตามได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/645b903051e907835d301f3c
รถไฟตู้นอนที่รัสเซียนั้นคลาสสิกมาก เราใช้บริการรถไฟ ยี่ห้อ Grand Express เป็นแบบ Business First Class คือเป็นห้องมีประตูปิดมิดชิดล็อกได้ มีที่นอน นอนได้ 2 คน (ไม่ต้องปีน) ใครสนใจ ลองเข้าไปที่ https://www.russianrail.com/train/grand-express
รถไฟแบบนี้ให้บริการเฉพาะรอบกลางคืนเท่านั้น รถไฟออกเที่ยงคืนกว่า ไปถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประมาณ 9 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง หลับเต็มอิ่มพอดี
1
ที่นี่มีรถไฟหลายยี่ห้อมาก
ภายในห้องโดยสารค่อนข้างสะดวกสบายพอสมควร มีปลั๊กไฟ หมอน ผ้าห่ม รองเท้าแตะ และแปรงสีฟัน
กระเป๋าเดินทางของเราเก็บใต้ที่นั่งได้เลย (ควรเตรียมของใช้จำเป็นใส่กระเป๋าเล็กไว้จะสะดวกกว่า)
2
ส่วนประตูเมื่อปิดแล้วจะล็อกเอง ต้องมีบัตร Key Card สำหรับเปิดจากด้านนอก ค่อนข้างปลอดภัย
แต่ละตู้โดยสารจะมีห้องน้ำเล็กๆ ที่ท้ายตู้ ค่อนข้างสะอาด (อาบน้ำไม่ได้) - สรุปคือไม่ได้อาบน้ำทั้งตอนเย็นและเช้านะ อย่าลืมเตรียมกระดาษเปียกไปด้วยแล้วกัน
ทางเดินไปห้องน้ำ
เราตื่นประมาณ 6 โมง เพื่อเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟัน และเก็บของ เราต้องพร้อมเมื่อรถไฟถึงชานชาลา ที่ Moskovskiy Station ที่ St.Petersburg
1
ภาพในห้องโดยสาร
ประมาณ 7 โมงเช้าจะมีเจ้าหน้าที่มาเสิร์ฟอาหารเช้าถึงหน้าห้องเลย มันน่ารักสไตล์รัสเซียเลย
1
อาหารเช้า ขนมปัง นม โยเกิร์ต ชาร้อน
ชมพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนถึงสถานี
เส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberia) เส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก น่าจะเป็นเส้นทางในฝันของใครอีกหลายๆ คน รวมถึงเราเองด้วย
1
แผนที่ทางรถไฟ ทรานส์ไซบีเรีย ที่สถานีรถไฟ
มหาวิหารเซนต์ไอแซค (St. Isaacs Cathedral)
วันที่ 1 - จากสถานีรถไฟเราไปแวะดื่มกาแฟก่อน เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเปิดของ มหาวิหารเซนต์ไอแซค (St. Isaacs Cathedral) ที่กำลังจะไปเป็นที่แรกนั้น ซึ่งจะเปิดเวลา 10:30 น.
1
มหาวิหารเซนต์ไอแซค ถือเป็นวิหารออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่และงดงามที่สุดในโลก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมไบเซนไทน์และกรีก ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศส โอกุสต์ เดอ มงแฟร์ร็อง (เป็นนักออกแบบคนโปรดของนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส)
วิหารนี้ตั้งชื่อตามชื่อนักบุญไอแซค ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช
และวิหารนี้ยังเป็นสถานที่จัดพิธีอภิเษกสมรสของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชและพระนางแคทเธอรีนอีกด้วย
2
St. Isaacs Cathedral
ดั้งเดิมนั้น พระเจ้าปีเตอร์มหาราข สั่งให้สร้างขึ้น เป็นอาคารไม้ แต่ไฟไหม้เสียหายไป พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ที่ 1 ให้ก่อสร้างขึ้นใหม่ ใช้เวลาถึง 40 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1818-1858 โดยใช้เสาหินแกรนิต และหินอ่อน ที่มีน้ำหนักเป็นตันๆ ในการก่อสร้าง เป็นการก่อสร้างที่ยากมากในสมัยนั้น
2
เสาหินแกรนิต
โมเดลให้เห็นวิวัฒนาการการก่อสร้าง
ปัจจุบันทำเป็นพิพิธภัณฑ์และไม่มีจัดพิธีทางศาสนาแล้ว ภายในตกแต่งงดงามมาก ประดับตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์สีทองสวยงาม หลังคาโค้ง และภาพวาดสีสวยสดงดงามที่เกี่ยวกับ การฟื้นคืนชีพของพระเยซู ภาพบนสรวงสวรรค์
1
โดมภายนอกมีบันไดขึ้นไปชมวิวเมืองด้านบนได้ สวยงามมาก
ภาพบนเพดานโค้ง
เข้ามาอลังการมาก
อนุเสาวรีย์พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 - ตรงข้ามวิหาร
พิพิธภัณฑ์เรือ Aurora
เดินทางต่อ - ไปชมพิพิธภัณฑ์เรือ Aurora ที่แปลว่าเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ
เรือ Aurora เป็นเรือ Cruiser หรือเรือลาดตระเวน ที่ได้เข้าไปร่วมรบในยุคของสงครามรัสเซีย - ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War) ช่วงปี ค.ศ. 1904-1905 ก่อนสงครามโลกอีก เป็นเรื่องที่จักรวรรดิรัสเซียมีปัญหากับญี่ปุ่น และต่อมาเกิดการสู้รบกันที่ช่องแคบสึชิมะ หรือ Battle of Tsushima และจักรวรรดิรัสเซียได้พ่ายแพ้สงครามในครั้งนี้
3
ซึ่งเรื่องนี้ลุกลามไปจนทำให้ราชบัลลังก์ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ต้องล่มสลายกันเลยทีเดียว
2
Aurora Cruiser
จากเรือรบเดินไปชมวิวแม่น้ำเนวา ที่ไหลไปสู่อ่าวฟินแลนด์ ในทะเลบอลติก
1
แม่น้ำเนวา
Zoological Museum
ตอนบ่ายฝนเริ่มตกเลยเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์สัตววิทยา (Zoological Museum) รัสเซียเขาจัดพิพิธภัณฑ์ที่ให้ข้อมูลวิชาการมีรายละเอียดดีมาก ถ้าเด็กนักเรียนได้มาชมได้ความรู้ดีมากๆ
1
จากนั้นเข้าโรงแรมพักผ่อนเพราะเดินทางมายังไม่ได้อาบน้ำเลย และรถที่นี่ค่อนข้างติดเหมือนกันต้องวางแผนการเดินกันด้วยนะ
กระดูกแมมมอธ
วิหารปีเตอร์แอนด์พอล (Peter and Paul)
ที่ฝังพระศพพระเจ้าปีเตอร์มหาราชและพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชวงค์โรมานอฟ
วันที่ 2 - วันนี้บรรยากาศครึ้มๆ และมีฝนตกลงมาปรอยๆ ทำให้บรรยากาศดูเศร้าๆ นิดหน่อย เนื่องจากเช้านี้เราจะไป ที่วิหารปีเตอร์แอนด์พอล (Peter and Paul) ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพพระเจ้าปีเตอร์มหาราชและพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชวงค์โรมานอฟ
1
วิหารปีเตอร์แอนด์พอลตั้งอยู่บนเกาะกระต่าย (Zayachy Island) เป็นชื่อเล่นที่เขาเรียกัน
ดั้งเดิมเขตพื้นที่ตรงเกาะกระต่ายเป็นของสวีเดน และสวีเดนกำลังสร้างเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้รบชนะและยึดครองดินแดนของสวีเดนมาได้ และได้สร้างเป็นวิหาร Peter and Paul ทำให้วิหารนี้มีหอระฆังที่สูงที่สุดในเมือง สูงถึง 122.5 เมตร
2
วิหาร Peter and Paul
มองเห็นแต่ไกล - ฝนตกครึ้มทั้งวัน
ภายในตกแต่งสวยงามสมพระเกียรติ เป็นที่ฝังพระศพราชวงศ์โรมานอฟ รวมถึงพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 พร้อมทั้งพระมเหสีและพระราชธิดา
1
หากใครได้ดูหนังเรื่อง The Crown จะมีฉากตอนที่ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ได้เสด็จมาร่วมพิธีฝังพระศพพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่วิหารแห่งนี้ด้วย เนื่องจากเจ้าชายฟิลิป พระสวามี ถือเป็นพระญาติกับราชวงศ์โรมานอฟ
1
ภายในวิหาร Peter and Paul
แท่นพระศพ
เดินไปต่ออีกอาคารจะเป็นการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของราชวงศ์โรมานอฟ
มงกุฎราชวงศ์โรมานอฟ - ของจัดแสดง
โบสถ์หยดเลือด (Church of Saviour on the Spilled Blood)
ช่วงสายไปชม โบสถ์หยดเลือด (Church of Saviour on the Spilled Blood) มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับ St.Basils Cathedral วิหารที่มีรูปคล้ายหัวหอมในมอสโก มีสีสันสดสวยงาม แต่เนื่องจากวันนี้ฝนตกถ่ายรูปไม่ค่อยได้
1
โบสถ์หยดเลือด สร้างตรงจุดที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์ ขณะที่กำลังทรงรถม้ามาริมคลอง โดยชาวบ้านที่ไม่พอใจพระองค์ ทำการระเบิดพลีชีพวิ่งเข้าใส่ขบวนเสด็จ ทำให้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 สิ้นพระชนม์ตรงริมคลองนั้น
1
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้เป็นบุตร จึงสร้างโบสถ์ให้พระราชบิดา โดยสร้างครอบจุดที่สิ้นพระชนม์ ทำให้ฐานของโบสถ์ต้องล้ำเข้าไปในคลอง
ตอนช่วงสงคราม โบสถ์นี้ได้ถูกใช้เป็นที่รักษาพยาบาล มีความเสื่อมโทรมมากและภายหลังได้ทำการฟื้นฟูตกแต่งจนงดงาม
เสียดายที่ฝนตกตลอดและไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมด้านในเนื่องจากมีเวลาจำกัด และที่นี่รถค่อนข้างติด เราต้องทำเวลาหน่อย
1
โบสถ์หยดเลือด
พระราชวังฤดูหนาว
The Sate Hermitage Museum
ช่วงบ่ายเราไปชมพระราชวังฤดูหนาว หรือ Winter Palace (The State Hermitage Museum) พระราชวังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเนวา ปัจจุบันทำเป็นพิพิธภัณฑ์ และถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลป์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ที่กรุงปารีส
2
พระราชวังฤดูหนาว ดั้งเดิมเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์โรมานอฟ ช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1732-1917
พระราชวังมีการก่อสร้างดัดแปลงไปตามยุคตามสมัยมาถึง 4 ครั้ง เคยถูกไฟไหม้อย่างหนักมาแล้วรอบหนึ่ง และเสียหายหนักจากการปฏิวัติ
1
พระราชวังมีสถาปัตยกรรมแบบบาโรก ตัวอาคารมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งเป็นการแสดงถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิรัสเซียในสมัยนั้น ภายในอาคารมีห้องถึง 1500 ห้อง
1
ปัจจุบันจัดแสดงศิลปะต่างๆ งานศิลป์ที่จัดแสดงส่วนใหญ่เป็นของสะสมของ พระนางแคทเธอรีนผู้ทรงอำนาจมากในสมัยนั้น มีทั้งภาพวาดที่มาจากฝีมือศิลปินที่มีชื่อเสียงทั่วทุกมุมโลก บางภาพหาดูได้ยากมาก
พระราชวังฤดูหนาว - ริมแม่น้ำเนวา
พระราชวังฤดูหนาว - ริมแม่น้ำเนวา
เสาหิน Alexander Column ด้านหน้าพระราชวัง สร้างขึ้นหลังจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 รบชนะกองทัพนโปเลียน
1
วันอาทิตย์นองเลือด - Bloody Sunday
ตามที่เล่าไปเรื่องเรือ Aurora ที่กองทัพเรือรัสเซียพ่ายแพ้ให้กับญี่ปุ่น ยามนั้นเศรษฐกิจของประเทศเสียหายหนักมาก ทำให้ประชาชนไม่พอใจและต้องการเรียกร้องให้พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติเพราะไม่สามารถบริหารประเทศได้
1
ประชาชนมาประท้วงหน้าพระราชวังฤดูหนาวแห่งนี้ และเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นโดยทหารยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง ที่มีทั้งผู้หญิงและเด็ก บาดเจ็บล้มตายกันหลายร้อยราย
1
ทำให้เกิดการปฏิวัติในเวลาต่อมา และจากนั้นราชวงศ์โรมานอฟก็ล่มสลาย
1
ตั๋วเข้าชมพระราชวัง
พอได้ตั๋วพร้อมหูฟังคำบรรยาย ก็เข้าชมกันเลย การเข้าชมนั้นใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมงได้ อาจจะได้ดูไม่ครบเพราะมีห้องจัดแสดงมากมายหลายห้อง
1
ห้อง Peter the Great Hall
ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากมายมารวมกันที่นี่
Cupid and Psyche
ห้องสวยงาม ราวกับการ์ตูนในเรื่อง Anastasia อนาสตาเซีย
นาฬิกานกยูงทองคำ ที่จะขยับปีกให้ชมตามเวลา
ช่วงค่ำเราไปรับประทานอาหารค่ำที่ พระราชวังนิโคลัส ซึ่งเป็นวังของพระโอรสของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1
เมื่อก้าวเข้าไปภายในวัง เหมือนเราถูกย้อนยุคไปสมัยโรมานอฟ มีเจ้าชายเจ้าหญิงมาต้อนรับ พร้อมเสียงเพลงบรรเลงเพลงรื่นเริง
1
อาหารค่ำจัดมาแบบยุโรป สวยงามหรูหรา รสชาติดี มีเครื่องดื่มให้เราเลือกได้ตามชอบ และตอนจบมีสาวรัสเซียมาเต้นเพื่อโชว์ผ้าพันคอพื้นเมือง ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ
พระราชวังนิโคลัส
เจ้าบ้านมาต้อนรับ
อาหารค่ำหรูหรา อร่อยด้วย
หลังมื้อค่ำมีจัดแสดงระบำรัสเซียต่อ ก่อนกลับโรงแรมไปพักผ่อน
ตั๋วเข้าชมระบำรัสเซีย
พระราชวังฤดูร้อน - Peterhof Palace
แวร์ซายแห่งรัสเซีย
วันที่ 3 - วันนี้เป็นวันสุดท้าย ช่วงเช้าจะไปชมพระราชวังฤดูร้อน (Peterhof Palace) เป็นพระราชวังที่ถือว่าเป็น แวร์ซายแห่งรัสเซีย
1
พระราชวังนี้อยู่ริมทะเลบอลติก พระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เนื่องจากทรงสนพระทัยความงามของพระราชวังแวร์ซาย และประสงค์ให้สร้างพระราชวังให้งดงามแบบแวร์ซายบ้าง จึงได้สร้างพระราชวังฤดูร้อนอันงดงามแห่งนี้
1
พระราชวังนี้โดดเด่นเรื่องของน้ำพุ ในสวนแต่ละจุดของพระราชวัง มีทั้งรูปปั้นสีทองอร่าม สวยงาม รวมถึงน้ำตกที่สวยงาม
1
Peterhof Palace
เส้นทางนี้เป็นเป็นเส้นทางออกทางทะเลบอติก และยังเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ที่เสด็จมายังพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ ในสมัยที่ท่านเสด็จประพาสรัสเซีย ในปี 1897 อีกด้วย
1
ภายในจัดแสดงเป็นห้องต่างๆ ได้งดงามมาก ห้องนั่งเล่น ห้องรับรองแขก ห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร ห้องแต่งตัว
ช่วงบ่ายมีแวะซื้อของฝากกันเล็กน้อย ก่อนเตรียมไป Airport เพื่อบินตรงไปดูไบ และเปลี่ยนเครื่องกลับกรุงเทพฯ
1
เราจากลา St.Petersburg ...เป็นทริปที่น่าประทับใจและเป็นทริปที่เราได้เรียนรู้ที่นอกจากความงามของสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา กว่าจะเป็นประเทศรัสเซียได้ในทุกวันนี้
แนะนำให้ดูหนังเรื่อง ซาร์ นิโคลัส ที่ 2 (Tsar Nicholas II) ไปก่อนจะทำให้อินไปกับการชมพระราชวังอย่างมากเลย
2
ติดตามบทความ 10 สถานที่เด็ดห้ามพลาด ในมอสโก 3 วัน
โฆษณา