17 พ.ค. 2023 เวลา 08:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทำไมหลังเลือกตั้ง หุ้นลงทุกวัน

“ความไม่ชัดเจน เป็นสิ่งที่นักลงทุนกลัวที่สุด” ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ได้กล่าวประโยคนี้ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับเพจ BillionMoney
2
แม้ว่าในตอนแรก ผลการเลือกตั้งออกมาแล้วว่า ก้าวไกล จะได้ที่นั่ง ส.ส. อันดับ 1 และ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศว่าพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาล โดยมีตัวเขาเองเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่มีอะไรให้น่ากังวล
แต่ในตอนนี้.. ตลาดหุ้นอาจจะไม่ได้คิดว่ามันจะชัดเจนแบบนั้น..
1
เพราะตั้งแต่การเลือกตั้งเสร็จสิ้น ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่องทุกวัน ร่วงลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค หรือทั่วโลก อย่างชัดเจน
2
วันจันทร์ที่ 15 พ.ค. SET -19.97 จุด
วันอังคารที่ 16 พ.ค. SET -1.54 จุด
ครึ่งเช้าวันพุธที่ 17 พ.ค. SET -17.45 จุด
ถ้าให้ไปเจาะดูรายตัว ในหุ้นที่ถูกขายหนัก ๆ จะเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากความไม่ชัดเจนจากนโยบายด้านพลังงาน ของ พรรคก้าวไกล เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจที่ได้รับสัมปทาน เช่น โทรคมนาคม รวมไปถึงกลุ่มที่มีบริษัทใหญ่เป็นผู้นำเดี่ยวในอุตสาหกรรมนั้น..
ตัวอย่าง ราคาของหุ้นเหล่านี้ ณ ครึ่งเช้าวันพุธที่ 17 พ.ค. เมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่แล้ว
กลุ่มโรงไฟฟ้า
GULF -9%
GUNKUL -9%
BGRIM -6%
GPSC -5%
2
กลุ่มหุ้นเครือซีพี
CPALL -6%
CPF -4%
3
กลุ่มโทรคมนาคม
ADVANC -3%
INTUCH -6%
TRUE -9% ทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่ควบรวมกับ DTAC
4
นอกเหนือไปจากเรื่องนี้ ตลาดยังมีความกังวลอีกเรื่องหนึ่งซ่อนอยู่ และความกังวลนี้น่าจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ
ก้าวไกล อาจไม่สามารถ ตั้งรัฐบาลได้ เพราะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะไม่โหวตสนับสนุน ให้ทิม พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี
10
ถ้าให้นับเสียง ส.ส. ในสภา ตอนนี้รวมคะแนนเสียงได้ 309 เสียง แต่สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน จะรวมเสียง ส.ว. เข้ามาด้วย และการจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ จะต้องใช้เสียงมากถึง 376 เสียง
4
ตอนนี้ ตลาดกำลังเริ่มกังวลว่าถ้ายังดึงดันกันอยู่แบบนี้
การที่พรรคก้าวไกล ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ อาจเป็นโอกาสให้พรรคลำดับที่ 2 ซึ่งก็คือเพื่อไทย ได้จัดตั้งรัฐบาลแทน
และนั่นหมายความว่าจะทำให้ คนที่โหวตเลือกพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่งจะไม่พอใจกับผลการจัดตั้งรัฐบาล
ซึ่งถ้าดูจากการโหวตในบัญชีรายชื่อ (Party List) พรรคก้าวไกลได้คะแนนมากถึง 14,136,838 คะแนน
4
ซึ่งความไม่พอใจเหล่านี้อาจจะก่อให้เกิดการขัดแย้งทางสังคมได้ และในกรณี Worst Case หากความไม่พอใจเหล่านี้ ยกระดับขึ้นเป็นการชุมนุม
เรื่องนี้คงเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ที่นักลงทุนที่พอมีกำไรอยู่แล้วระดับหนึ่ง ก็อาจเลือกขายหุ้นออกมาก่อน และนั่นก็อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หุ้นตกลงมาทุกวันหลังจากรู้ผลการเลือกตั้ง
1
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ?
1
เรื่องแรกเลย คือ ถ้า ส.ว. ยังยืนยันที่จะไม่โหวตสนับสนุนให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล พรรคก้าวไกลก็จำเป็นต้องหาเสียง ส.ส. ให้ครบ 376 เสียงในสภาล่าง
การที่จะทำให้ครบ 376 เสียง ภายใต้เงื่อนไขของก้าวไกล ก็อาจจำเป็นต้องร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ได้เสียงมากพอ ที่จะไม่พึ่งพา ส.ว.
3
แต่หากมีพรรคภูมิใจไทยเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย การเจรจาต่อรองตำแหน่งในรัฐบาลก็คงเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักสำหรับพรรคก้าวไกล
1
ซึ่งหากพรรคก้าวไกลยังหาเสียงมาเพิ่มให้ถึง 376 เสียงไม่ได้ ก็อาจเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างที่ได้กล่าวขั้นต้น
สิ่งที่เป็นคำถาม สำหรับนักลงทุน ที่ต้องชั่งน้ำหนักในตอนนี้ก็คือ
- จะมี ส.ว.จำนวนแค่ไหนที่โหวตสนับสนุนให้พรรคก้าวไกล
- พรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสเข้าร่วมกับพรรคก้าวไกลได้จริงหรือไม่
- ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล อะไรจะเกิดขึ้น
ถ้ายังหาคำตอบที่ชัดเจนต่อคำถามไม่ได้ ผลออกมามันก็เป็นแบบที่เกิดขึ้นใน 3 วันนี้ นั่นก็คือ ไม่มีวันไหนเลย ที่ตลาดหุ้นไม่ลง..
โฆษณา