22 พ.ค. 2023 เวลา 05:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ถึงเวลาคว้า B-FUTURE ไม่พลาดการลงทุนแห่งอนาคต

หากยังจำกันได้การปรับเพิ่มดอกเบี้ยสหรัฐฯ แบบก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา ทำให้บรรดาเหล่าหุ้น Growth Stocks ร่วงระนาว และส่งผลกระทบต่อกองทุน B-FUTURE เช่นกัน เพราะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์การลงทุนเพื่อก้าวไปสู่อนาคต ครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้าน AI ธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ที่ได้ประโยชน์จากพลังการบริโภคของคนจีน และธุรกิจพลังงานสะอาด
และแม้ว่าเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่ตลาดก็คาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยอย่างร้อนแรงลงต่อเนื่อง หลังจากที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟด เป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 10 นับตั้งแต่ที่ปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2022 และทำให้ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยขึ้นไปอยู่ที่ 5-5.25% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเมื่อเฟดลดความร้อนแรงในการขึ้นดอกเบี้ยลง แนวโน้มผลการดำเนินงานของกองทุน B-FUTURE ก็จะกระเตื้องขึ้นตามไปด้วย
วันนี้ BBLAM จะชวนมาอัปเดตกลยุทธ์ลงทุนและผลการดำเนินงานของกองทุน B-FUTURE สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2023 จาก 3 ผู้จัดการกองทุนหลัก ซึ่ง B-FUTURE กระจายการลงทุนในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. กองทุน Allianz Global Investors - Artificial Intelligence สัดส่วนลงทุน 46.42% 2. กองทุน Fidelity Funds - China Consumer Fund สัดส่วนลงทุน 19.72% และ 3. กองทุน Pictet - Clean Energy - I USD สัดส่วนลงทุน 8.52%
เริ่มจากกองทุน Allianz Global Investors - Artificial Intelligence ที่ B-FUTURE ลงทุนอยู่เกือบครึ่งพอร์ต ด้วยความที่กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริการทางการสื่อสาร ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนได้แรงหนุนจากการลงทุนใน ZoomInfo Technologies ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บนคลาวด์สำหรับการขายและการตลาด ซึ่งสามารถสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นมาได้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
แม้จะยังมีแรงกดดันจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ Tesla อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพราะความกังวลของนักลงทุน หลังจากที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท ได้เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ ซึ่งผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่นว่าการที่ Tesla ยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และจะสามารถปรับอัตรากำไรได้หากต้นทุนการผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โรงงานใหม่เริ่มดำเนินการผลิตและมีรายได้จากซอฟต์แวร์มากขึ้น เนื่องจากทั่วโลกกำลังปรับตัวเพื่อเข้าสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ตามมาด้วยกองทุน Fidelity Funds – China Consumer Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะเติบโตสอดคล้องไปกับกำลังซื้อของชาวจีน ตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรจีน ที่จำนวนชนชั้นกลางสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว ในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมและบริการทางการเงิน โดยเฉพาะธุรกิจประกันชีวิตที่คนจีนเริ่มตื่นตัวให้ความสำคัญกับการทำประกันมากขึ้น ส่งผลต่อยอดขายหรือมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สุดท้ายคือกองทุน Pictet-Clean Energy Transition ที่ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างโดดเด่นของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ จากการปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีของหลาย ๆ กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งในด้าน AI และการพัฒนาของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ล้วนต้องพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์แทบทั้งสิ้น ซึ่งหากพิจารณาจาก Valuation แล้วจะพบว่าหุ้นกลุ่มนี้ราคายังไม่แพงและมีโอกาสสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว
ได้เห็นพื้นฐานกองทุนที่ B-FUTURE ลงทุนอยู่แบบนี้แล้ว บอกได้เลยว่าสบายใจกับการเติบโตที่ชัดเจนในอนาคต หากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมแล้วจะยิ่งพบว่า แรงกดดันที่หุ้น Growth Stocks เคยเผชิญในปีที่ผ่านมา เริ่มได้รับปัจจัยเชิงบวกแล้วในเวลานี้ ทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ที่ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศและล่าสุดยังได้ประโยชน์จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะดัชนี NASDAQ จากความคาดหวังว่าการขยายตัวของผลประกอบการจะกลับมาดีขึ้นได้เมื่อภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในอนาคต
ส่วนแรงกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสรัฐฯ ในปีนี้ก็ไม่ได้เร็วและแรงเหมือนปีก่อน แถมจะเริ่มนิ่งและอาจปรับลดลงได้ในอนาคต ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นแรงส่งให้ประตูแห่งโอกาสการลงทุนใน กองทุน B-FUTURE เปิดออกอีกครั้ง รับการเติบโตของธุรกิจที่กองทุนลงทุนเป็นเทรนด์ของการพัฒนาในอนาคต เห็นแบบนี้แล้วคงจะมองได้ในทิศทางเดียวกันว่า นี่แหละคือจังหวะที่ดีของการลงทุนใน B-FUTURE เลยก็ว่าได้
สนใจข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม คลิก:
คำเตือน: การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF/SSF
ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
#BBLAM #กองทุนรวม #ลงทุน #ลงทุนในกองทุนรวม #BFUTURE #AI #ปัญญาประดิษฐ์ #เทคโนโลยี #หุ้น #หุ้นสหรัฐ
โฆษณา