20 พ.ค. 2023 เวลา 06:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ

7 Years inThe Market

บทเรียน 7 ปีในตลาดหุ้น (SW2023)
ดัชนีตลาดหุ้นไทย 1500-1700
ผมมีหุ้นในพอร์ต 8 ตัว
COM7 เขียวมั่นคงยาวนาน 1 ตัว
ส่วนที่เหลือทุกตัวเเดงยาวนาน 7 ตัว
บทเรียนคืออะไร
COM7 รายได้เติบโต กำไรเติบโต ปันผลเพิ่ม
เริ่มซื้อสะสมเมื่อตลาดหุ้นวิกฤติทั้งตลาดโลกเเละตลาดหุ้นไทย จากจุดต่ำสุดตลาดหุ้นฟื้นตัวหุ้นเเทบทุกตัวจะฟื้นขึ้นตามกัน จึงเข้าซื้อให้มากที่สุดเมื่อดัชนีต่ำสุด เมื่อมีเงินสดจึงทะยอยซื้อสะสมเรื่อยมา ไม่ขายในระหว่างทางเลยเป้าหมายหยุดซื้อคือเมื่อดัชนีตลาดหุ้นใกล้ถึงจุดสูงสุดเดิม หยุดซื้อเเล้วสะสมเงินสดรอเท่านั้น ไม่ต้องซื้ออีก
COM7 เขียวมาตลอดทางจากจุดต่ำสุดจนถึงจุดสูงสุดตามดัชนีที่ 80% แม้จะมีช่วงที่ราคาหุ้นตกบ้างขึ้นบ้างเเต่ผลคือในพอร์ตยังเขียว 40-80% ตลอด ไม่เคยติดลบ เเละเรายังได้ปันผลที่ดีเนื่องจากซื้อหุ้นในราคาต่ำมาตลอดทาง เราจึงไม่หวั่นไหวเเม้ตลาดผันผวน บทเรียนนี้คือ จงซื้อหุ้นที่ดีให้มากพอในจุดวิกฤติสุดแล้วถือยาว
หุ้นตัวอื่นในพอร์ตเเม้เป็นหุ้นที่ดีแต่เเดงทั้ง 7 ตัว
เกิดจากการซื้อหุ้นที่ดีหลายตัวเเล้วเเต่พอได้หุ้นเขียวก็ขายทำกำไร แต่นำเงินมาซื้อหุ้นตัวใหม่ที่ราคาขึ้นมาเเล้วตามดัชนีตลาดที่ขึ้นมาตลอดทาง ซื้อๆขายๆมาตลอดตามข่าวเเละตามความเชื่อ และเมื่อดัชนีขึ้นมาที่จุดสูงสุดใหม่ก็พบว่า ราคาหุ้นในพอร์ตเป็นราคาปกติ fair price หรือเป็นราคาเเพงด้วยซ้ำ ราคาหุ้นที่ซื้อขายในดัชนีสูงสุดปกติ 1600-1700 จุดนั้นไม่เเน่นอนว่าจะขึ้นต่อหรือจะตกลง นั่นคือเสี่ยงโยนหัวก้อยคือเราไม่ได้เปรียบเลย
ณ จุดยอดดอย หุ้นพร้อมจะตกลงทุกเมื่อ
เเม้หุ้นที่เราเลือกนั้นเป็นธุรกิจที่ดีมาก เเต่ราคาที่เราซื้อนั้นเเพงมากเเล้ว “หุ้นดีเเต่ราคาไม่ได้” เราหลงทางหรือถูกข้อมูลบางอย่างบังตาจึงเข้าซื้อ บางครั้งหุ้นกลุ่มนี้อาจเขียว 5-10% หรือเเดง 10-40% ด้วยซ้ำ หุ้นเเดงบ่อยเราจึงตกในวังวนความปวดใจลุ้นให้หุ้นเขียวรอขาย
ทั้งที่จริงเเล้วเราเป็นนักลงทุนจึงไม่ควรซื้อที่จุดสูงสุดนี้เเล้ว บทเรียนคือ เราต้องสะสมเงินสดรอซื้อรอบใหม่ในวิกฤติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดัชนีอาจตกจาก 1600 ลงไป 900-1000 จุด อาจเป็น 4-5 ปี หรือ 8-10 ปี ไม่มีวครรู้เเน่ชัดเเต่เชื่อว่าจะมาเเน่
โฆษณา