21 พ.ค. 2023 เวลา 12:29 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานเรื่องที่1:ความทรงจำในช่วงฤดูฝน

ความทรงจำของพวกคุณคืออะไรกันล่ะ
การเล่นสนุก การมีเพื่อน เรื่องสุข เรื่องเศร้า หรืออะไรก็ตามแต่ นั่นแหละคือความทรงจำของพวกคุณทุกคน
ผมน่ะนะลืมความทรงจำที่ดีตอนเด็กไปหมดแล้ว ผมกลายเป็นแค่เด็กมัธยมที่ได้แต่เรียนเช้ากลับเย็น ไม่มีความสุข มีแต่ความกดดันเรื่องการเรียน เรื่องเกรด ก็เพราะวันที่แม่จากไป ชีวิตผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย ไม่มีใครอยู่ข้างๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้ผมก็อยู่แต่พ่อ พ่อก็เปลี่ยนไปพอแม่จากไป พ่อก็เครียดมากขึ้นเพราะต้องทำงานหนัก
ในเวลาเลิกเรียนวันนี้ ฝนตกไม่หนักมากเท่าไร แต่สิ่งที่ซวยซ้ำซวยซ้อนของผมน่ะคือผมดันลืมพาร่มมาน่ะสิ ให้ตายสิ มีหวังคงต้องยืนรอให้ฝนหยุดตกไปก่อนแล้วสิ
แต่ในระหว่างที่ผมกำลังยืนรอให้ฝนตกหายหยุดตกอยู่นั้นนะ ผมเหมือนได้ยินเสียงของเด็กที่ไหนสักคนกำลังเหมือนกระโดดเล่นน้ำฝนอยู่ที่บริเวณสวนของโรงเรียน
ผมหันไปเห็นเด็กคนนึงในชุดกันฝนสีเหลืองที่กำลังกระโดดเล่นน้ำฝนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แถมดูท่าเด็กชายคนนั้นเหมือนจะเห็นผมด้วย
"นี่พี่ชาย มาเล่นน้ำฝนด้วยกันสิ สนุกนะจะบอกให้" เด็กชายกล่าวชวนผมให้มาเล่นด้วยกัน
"ไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็เป็นหวัดนะ" ผมตอบปฎิเสธไป "แต่เธอเป็นใครมาไงเนี่ย นี่เขตโรงเรียนมัธยมนะ มารอพี่เหรอรึยังไง"
เด็กชายส่ายหน้าพอได้ยินคำถามของผม "ไม่ได้รอพ่อแม่หรอกครับ"
"แล้วเธอมารอใครล่ะ อีกอย่างเล่นน้ำฝนระวังป่วยนะ" ผมถามพร้อมเตือนไปอย่างเป็นห่วง
แต่คำตอบของเด็กชายก็ทำผมแอบประหลาดใจเล็กน้อย เด็กคนนี้มารอผมเนี่ยนะ อะไรกันเนี่ย เด็กจากไหนกัน แถมผมเหมือนจะตาฝาดที่เห็นว่าหน้าคนนี้ดูคุ้นเคยชอบกล แถมชุดกันฝนนั่นเหมือนผมจะเห็นจากไหนนะ
ผมได้แต่ทำหน้างงอย่างกะไก่ตาแตก จนไม่รู้ว่าเด็กชายในชุดกันฝนสีเหลืองได้มาอยู่หน้าผมแล้ว
"นี่พี่ชายเหม่ออะไรอยู่น่ะ แถมงงอย่างกะพวกไก่ตาแตก"
"ไม่ได้เหม่อหรอกนะ แต่แค่สงสัยว่าเธอเป็นใครมาจากไหนต่างหาก"
"ไม่รู้จะดีกว่า" เด็กชายส่ายหน้าแต่ก็ยังคงยิ้มอย่างสดใส "ชั่งเถอะ ฝนตกแบบนี้น่าเล่นน้ำฝนเนอะ พี่ชายว่าไหม"
"ก็จริง" ผมอ้ำอึ้งตอบคำถามเล็กน้อย "แต่เธอจะป่วยนะ ถ้าเอาแต่เล่นน้ำฝน"
"แต่มันก็สนุกนี่นา ถ้าเราไม่ติดเรื่องนั้น มันก็จะสนุก" เด็กชายหัวเราะคิก ทำเอาผมล่ะงงกับเด็กนี่ซะมัด
"ว่าแต่พี่ชายเคยเล่นน้ำฝนตอนเด็กรึเปล่า" จู่ๆ เด็กชายก็ถามผมขึ้นถึงเรื่องนี้
"ก็เคยมั้งนะ" ผมตอบไป เพราะผมนึกได้ว่าตอนเด็กเคยเล่นน้ำฝนจนป่วย แต่ก็ฝืนเล่นเพราะมันคือความสนุกในช่วงหน้าฝน
"งั้นก็มาเล่นกันอีกสิพี่ชาย ชีวิตแบบพี่ชายน่ะควรสนุกบ้างนะ" เด็กชายดึงมือผมให้ไปเล่นน้ำฝนด้วย "ผมดูออกนะ พี่ชายมีแต่เรื่องเครียดๆ สิท่า"
เออ...ผมควรเอาไงล่ะเนี่ย ชั่งเถอะเล่นๆ ไปก็แล้ว ไหนๆ ก็ไม่ได้เอาร่มมาอยู่แล้ว แถมฝนก็อีกนานกว่าจะหยุดตก เปียกสักครั้งจะเป็นอะไรไป เพราะยังไงก็โดนดุเรื่องเปียกฝนประจำอยู่แล้ว
ผมเดินตามเด็กชายไปที่สวนของโรงเรียน ท่ามกลางหยาดฝนที่ตกกระทบร่างกายผม อย่างอ่อนโยนราวกับมันกำลังปลอบประโลมและช่วยให้ผมผ่อนคลายจากความกดดันของเรื่องเรียน เสียงของกบที่ร้องท่ามกลางสายฝน และหยาดน้ำค้างที่ติดอยู่บนกลีบดอกไฮเดรนเยียที่เติบโตตามทางเดินเป็นดั่งสัญลักษณ์ฤดูฝน นี่มัน....สิ่งนี้ผมไม่ได้เห็นมานานแค่ไหนแล้วกันนะ ผมแทบไม่สนเรื่องเสื้อผ้าที่เปียกเลยแม้แต่น้อย ในช่วงเวลานี้
เหมือนความทรงจำอะไรสักอย่างของผมจะย้อนคืนมา ในวัยเด็กที่ผมใส่ชุดกันฝนสีเหลืองไปเดินเล่นท่ามกลางสายฝนกับแม่และพ่อ ไหนจะวันที่ฝนหยุดตก แม่ก็มักจะพาผมไปยังสวนดอกไฮเดรนเยียที่มีหยาดน้ำค้างเกาะติดอยู่ และวันไหนสักวันพ่อก็จะพาผมไปดูกบตามฝนตกอีกด้วย น้ำตาของผมไหลออกมาพอได้รู้สึกถึงความทรงจำนี้อีกครั้ง ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นว่าผมกำลังร้องไห้ก็ตามแต่เพราะหยาดฝนชำระล้างไปหมด เหมือนกำลังปลอบประโลมผม
"บางครั้งความทรงจำก็ทำให้เจ็บปวด แต่มันก็ช่วยให้เราเติบโตขึ้นนะครับ" เด็กชายพูดในขณะที่ผมไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะกำลังดีใจที่ความทรงจำในช่วงหน้าฝนที่เคยมีต่อแม่และพ่อได้กลับมาแล้ว
"อืม" ผมหยักหน้าตอบรับ "ฉันเข้าใจแล้วล่ะ นี่คือเหตุผลของนายที่มาหาฉันสินะ"
ผมเข้าใจทุกอย่างแล้วล่ะ ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเชื่อเลยก็ตามแต่ ก็เพราะตัวผมในวัยเด็กมาหาผมเพื่อตอกย้ำความทรงจำดีๆ ที่ผมเคยมีให้กลับมานี่เอง ผมเห็นแล้วล่ะ ใบหน้าที่แท้จริงของเด็กชายในชุดกันฝนสีเหลือง เขาเหมือนผมทุกอย่างในตอนเด็กเลย
หรือมันจะเป็นเพราะสิ่งที่คนเคยบอกกันนะ ว่ายามฤดูฝนมาถึง จะกลายเป็นวันแห่งการระลึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก และดูท่าคราวนี้ผมจะได้เจอกับวัยเด็กของผมด้วยสิ วัยที่ผมมีความสุขที่สุด
ทว่าเหมือนเวลาจะผ่านไปไวเหมือนคนที่เขาว่ากัน ตอนนี้หยาดฝนเริ่มทยอยซาลงจนเริ่มหยุดตก น้ำค้างขึ้นเกาะดอกไฮเดรนเยีย ท้องฟ้าเมฆฝนเริ่มเคลื่อนจากไปและมีแสงอาทิตย์ที่เริ่มใกล้ลาลับฟ้าสาดส่องลงมา อะไรกันเนี่ย นี่ผมอยู่ที่โรงเรียนจนถึงเกือบเย็นเลยรึไงกัน
ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร เด็กชายที่อยู่กับผมก็เดินไปที่หน้าประตูโรงเรียน พร้อมกับพูดทิ้งท้ายผมว่า
"วันนี้หมดเวลาแล้วสิ งั้นค่อยมาเจอกันใหม่นะพี่ชาย"
"เดี๋ยวก่อน" ผมร้องขึ้นมา ทำเอาเด็กชายที่กำลังเดินจากไปหยุดชะงัก
"อะไรเหรอ ตอนนี้ผมหมดเวลาของผมแล้วนะ" เด็กชายทำหน้างุนงงเล็กน้อย
ผมรวบรวมความกล้าก่อนที่พูดออกไปว่า
"สัญญานะ ว่านายจะมาหาฉันอีก ทั้งฤดูฝนนี้ ครั้งหน้าและครั้งต่อไป" ผมกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา "และขอบคุณมากนะ ที่ช่วยให้ฉันได้ความทรงจำดีๆ กลับมาอีก ฉันจะไม่มีวันลืมนายแน่อน"
เด็กชายที่ได้ยินก็ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มตอบกลับมาและเดินจากไปทันที ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นคนที่ทำตัวไร้ชีวิตชีวาเหมือนแต่เดิมแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ผมได้ความทรงจำดีๆ ในฤดูฝนกลับมาแล้ว และผมก็ได้เรียนรู้อีกด้วยว่า ถึงแม้ความทรงจำบางทีอาจเจ็บปวด แต่มันคือสิ่งที่เรียนรู้ให้ผมเติบโตขึ้น ถึงแม้ตอนนี้ผมจะไม่มีแม่อยู่ด้วยข้างๆ แล้ว
แต่ก็นะ บางครั้งผมก็ควรที่จะเก็บควาามทรงจำดีๆ และเติบโตต่อไป จะเอาแต่ทุกข์ไปตลอดก็ไม่มีประโยชน์หรอก จริงไหม และคราวนี้ผมก็จะพาพ่อผมให้ออกมาจากความทุกข์ และมาย้อนหาความทรงจำดีๆ ในช่วงฤดูฝนสักครั้ง เพราะพวกเราก็ล้วนมีความทรงจำดีๆ ในช่วงฤดูฝนร่วมกันทั้งนั้น
และฤดูฝนคราวต่อไป ผมหวังว่าจะได้เจอเด็กชายในชุดกันฝนสีเหลืองอีกนะ ถึงแม้จะไม่เจอก็ตาม แต่ผมจะรอและรอที่จะได้เจอเด็กชายอีกครั้ง เด็กชายที่เปรียบดั่งตัวตนวัยเด็กที่หายไปของผมเอง หวังว่าจะได้เจออีกครั้งนะ
โฆษณา