24 พ.ค. 2023 เวลา 03:00 • ธุรกิจ

แมลงไทย Soft Power ที่มีโอกาสโต ระดับโลก

รู้หรือไม่ว่าในวันนี้ แมลง ของไทย ไม่ได้เป็นแค่อาหารข้างทางอีกต่อไปแล้ว
โดยไทยเป็นประเทศที่มีการเพาะเลี้ยงแมลงมากที่สุดในทวีปเอเชีย มีผลผลิตแมลงสูงถึง 10,000 ตันต่อปี และมีมูลค่าการส่งออกเติบโตกว่า 96% ในปี 2564
ทำให้แมลงกลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าสำคัญของประเทศ ที่มีโอกาสจะก้าวไปในระดับโลก
จนเหมือนเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาลิ้มลองกันเป็นจำนวนมาก
แล้วทำไม แมลง ถึงได้มาแรง ไทยได้เปรียบในตลาดนี้อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแมลง เปิดตัววางขายตามท้องตลาดกันเป็นจำนวนมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น
- อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากแมลง เช่น ข้าวเกรียบ คุกกี้ นม นักเก็ต และพาสตา
- ยาและเครื่องสำอาง เช่น ครีมยกกระชับใบหน้า ครีมลดริ้วรอย
- อาหารเสริม เช่น ผงเวย์โปรตีน
โดยสิ่งที่ทำให้แมลงกำลังมาแรงในยุคนี้ คือ
1. ความกังวลในวิกฤติการณ์ขาดแคลนอาหาร
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อน ที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติมากมาย ตลอดจนระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
ซึ่งส่งผลต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมและปริมาณผลผลิตทางการเกษตรลดลง
สวนทางกับจำนวนประชากรของโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 8,000 ล้านคน กลายเป็น 9,700 ล้านคนในปี 2593 ซึ่งจะทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นตาม
เมื่อทั้ง 2 ปัจจัยมาเจอกัน จึงเป็นต้นเหตุชั้นดีที่ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร
การผลิตอาหารในปัจจุบัน เช่น การเลี้ยงวัว เลี้ยงหมู ที่ต้องใช้ทรัพยากรและพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
และถูกแทนที่ด้วย การเลี้ยงแมลงที่ใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยกว่า ทำให้สามารถผลิตได้มากกว่า
เช่น จิ้งหรีดที่ใช้เนื้อที่ในการเลี้ยงน้อยกว่าโคถึง 6 เท่า ใช้น้ำน้อยกว่า 1,000 เท่า และสิ้นเปลืองอาหารน้อยกว่า 10 เท่า
นอกจากจะประหยัดพื้นที่และอาหารแล้ว แมลงยังเป็นสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
และยังมีความเสี่ยงต่ำในการแพร่กระจายเชื้อโรคจากสัตว์มาสู่คน เหมือนเช่นโรคไข้หวัดนก หรือโรควัวบ้า
จึงทำให้แมลงเป็นอาหารที่ตอบโจทย์กับโลกในยุคนี้เป็นอย่างมาก
2. แมลงเป็นสัตว์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่นในปริมาณที่เท่ากัน จะพบว่าแมลง
- มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่มากกว่า - มีไฟเบอร์ ที่เนื้อสัตว์ชนิดอื่นไม่มี- มีแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี วิตามินบี 12 - บางชนิดมีสารไคทิน ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล ซึ่งเนื้อสัตว์อื่น เช่น เนื้อวัว ปลาแซลมอน ไม่มี- ให้พลังงานเทียบเท่าเนื้อวัว
1
สารอาหารจำนวนมากเช่นนี้ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้แมลงสามารถแทนที่เนื้อสัตว์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
จากข้อดีของแมลงที่กล่าวมา ทำให้ในปี 2563 ตลาดโปรตีนจากแมลงทั่วโลกที่มีมูลค่า 8,500 ล้านบาท ถูกคาดว่าจะเติบโตสูงถึง 27.4% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปี 2571
และถ้าถามว่า ทำไมไทยถึงได้เปรียบในตลาดแมลงโลกนี้
เหตุผลสำคัญคือ ไทยเราคือหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนสายพันธุ์แมลงที่สามารถนำมาบริโภคได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของแมลง
โดยไทยเป็นประเทศที่มีการเพาะเลี้ยงแมลงมากที่สุดในทวีปเอเชีย มีผลผลิตแมลงสูงถึง 10,000 ตันต่อปี ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของผลผลิตแมลงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สาเหตุที่เราสามารถผลิตแมลงได้เยอะนั้น เป็นเพราะการเลี้ยงแมลงมีต้นทุนในการเริ่มต้นต่ำ และไม่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จึงทำให้เกษตรกรสามารถทำได้ง่าย
ทั้งนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกแมลงและอาหารแปรรูปที่ทำจากแมลง อยู่ที่ 575 ตันซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 96%
1
โดยมีตลาดส่งออกหลักคือ กัมพูชา สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า แมลงคือหนึ่งในสินค้าที่กำลังมาแรงในตลาดโลก และไทยคือหนึ่งในประเทศที่มีจุดแข็งในด้านนี้
เพราะไทยมีความพร้อมในการผลิตทั้งปริมาณและสายพันธุ์เพื่อการบริโภค
1
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เมนูจากแมลงไทยได้เปรียบ ก็คือชื่อเสียงของอาหารไทย โดยเฉพาะสตรีตฟูด เพราะแม้ว่าอาหารจากแมลงจะมีหน้าตาไม่น่ากิน
1
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว เพียงแค่มีคำว่าอาหารไทยแปะไว้ อย่างไรก็คงต้องลองชิมสักครั้ง..
ใครอยากมีความรู้เรื่องตลาดหุ้น ลงทุนแมนแนะนำ หนังสือ BLACK SWAN เล่มนี้ ราคา 380 บาท ที่เล่าถึงความล้มเหลวก่อนที่จะสำเร็จของนักลงทุนในตำนาน 12 คน สามารถสั่งซื้อ ได้ที่
โฆษณา