24 พ.ค. 2023 เวลา 12:28 • กีฬา

อำลา 4 แข้งหงส์แดง ผู้สร้างตำนานทุกแชมป์ยุคคล็อปป์

ลิเวอร์พูล เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นทางการ เมื่อ 4 นักเตะชุดแชมป์ยุโรปในปี 2019 และ แชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2020 ลงเล่นในแอนฟิลด์เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกัน ต่างคนเตรียมมูฟออนไปเล่นให้สโมสรอื่นในซีซั่นหน้า
3
4 คนดังกล่าวประกอบด้วย นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โดยหลังจบเกมเสมอแอสตัน วิลล่า เพื่อนร่วมทีมตั้ง Guard of Honor ให้ เป็นการอำลาอย่างให้เกียรติสูงสุดส่งท้าย
ในช่วงพิธีการอำลานั้น คนแรกที่เดินลงสู่สนามก่อน คือนาบี เกอิต้า
เขาย้ายมาลิเวอร์พูลในปี 2018 จากสโมสรไลป์ซิก ด้วยสัญญา 5 ปี กับค่าตัว 52.75 ล้านปอนด์ ความคาดหวังของแฟนๆ คือน่าจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้กองกลางสมบูรณ์ การที่เขาได้ใส่เสื้อเบอร์ 8 ของสตีเว่น เจอร์ราร์ดย่อมมีเหตุผลแน่นอน แต่ปัญหาของเกอิต้า คืออาการบาดเจ็บที่รุมเร้าอย่างมาก ทำให้เขาได้เล่นไม่ต่อเนื่อง ตลอด 5 ปีที่อยู่ในแอนฟิลด์ ได้เล่นแค่ 129 นัดเท่านั้น ยิงไป 11 ประตู
ลิเวอร์พูลกับเกอิต้า เซ็นสัญญากันแค่ฉบับเดียว 5 ปีเท่านั้น พอจบซีซั่นนี้ก็แยกย้าย เกอิต้าเพิ่งอายุแค่ 28 ปีเท่านั้น ยังสามารถประสบความสำเร็จได้อยู่ในอนาคต
คนที่สองที่เดินลงสู่สนาม คือเจมส์ มิลเนอร์ อยู่กับลิเวอร์พูลมานานถึง 8 ฤดูกาล ลงเล่นไป 330 นัด ยิงไป 26 ประตู มิลเนอร์เป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์ เล่นแบ็กซ้าย แบ็กขวา กองกลาง ได้ทุกตำแหน่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องฟอร์มการเล่น คือเรื่องอิทธิพลกับทีม ทุกคนยอมรับว่า มิลเนอร์ทำงานหนัก ซ้อมหนัก เป็น Leader ที่ช่วยผลักดันทีมนี้ให้ก้าวต่อไปได้
1
มิลเนอร์ ได้ลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่มาดริดด้วย เขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมไปถึงทุกแชมป์ สาเหตุที่ต้องอำลาทีม เพราะได้ลงเล่นน้อยลงกว่าเดิม ในขณะที่ตัวเขาคิดว่ายังไหว โดยทีมที่มิลเนอร์จะย้ายไปคือไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
1
เป้าหมายของมิลเนอร์ คือการเป็นผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ตอนนี้เขาลงเล่นไปแล้ว 618 นัด บางที เขาอาจทำลายสถิติของแกเร็ธ แบร์รี่ (652 นัด) ก็เป็นได้ ถ้าได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้
คนที่สามที่เดินลงสู่สนาม คืออเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน "อ็อกซ์" ย้ายมาจากอาร์เซน่อล ในราคา 35 ล้านปอนด์ ความโชคร้ายของเขาคือ ตอนที่กำลังเล่นดีที่สุด ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่าจนต้องพักยาวไป 1 ปี จากนั้นพอกลับมา (2019-20) ก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ลีก แต่ปีต่อมา (2020-21) เจ็บเข่าอีก จนต้องพักยาวหลายเดือน
ชีวิตของอ็อกซ์ เป็นแบบนี้ตลอด เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวหาย เขาจึงไม่สามารถยืนระยะได้ แต่ในภาพรวม เขาไม่ได้เล่นแย่ขนาดนั้น นี่เป็นผู้เล่นที่โอเค สามารถช่วยทีมได้ แม้จะโดนด่าบ้างอะไรบ้างก็ตาม สรุปแล้วอ็อกซ์ลงเล่นไป 146 นัด ยิงไป 18 ประตู
และคนสุดท้ายที่เดินลงสู่สนามมา คือโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถ้าไม่นับจอร์แดน เฮนเดอร์สันแล้ว ฟีร์มีโน่คือคนที่อยู่กับทีมหงส์แดงมานานที่สุด นั่นคือ 8 ปี เขามาก่อนเจอร์เก้น คล็อปป์เสียอีก โดยย้ายจากฮอฟเฟ่นไฮม์ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์
ฟีร์มีโน่ เป็นคนที่ทำให้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เข้าใจถึงนิยมของ False 9 เขายืนเป็นกองหน้าก็จริง แต่ถอยลงมาช่วยไล่บอล แย่งบอล และทำให้กองหน้าซ้าย-ขวา ยิงประตูได้ง่ายขึ้น เขาเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว เห็นประโยชน์ของทีมมาก่อนเสมอ นอกจากนั้นยังมีรอยยิ้มตลอดเวลา สร้างความสดใสขึ้นในทีม
ฟีร์มีโน่ ลงตัวจริงในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก, เขายิงประตูชัยให้ทีมในฟีฟ่าคลับเวิลด์ และ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแชมป์ มีนักเตะแค่ 3 คนเท่านั้น ที่ได้ลงเล่นทั้ง 38 นัด นั่นคือ เวอร์จิล ฟาน ไดค์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
1
ฟีร์มีโน่ ในวัย 31 ปี ยอมรับความจริงว่า ไม่สามารถลงตัวจริงให้หงส์แดงทุกนัดเหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้เขาคือกองหน้าชอยส์เบอร์ 6 ของทีม ดังนั้นในวิถีทางนักฟุตบอลอาชีพ มันก็จำเป็นต้องก้าวต่อไป ไปสู่สโมสรที่จะได้ลงเล่นมากขึ้น ทุกๆ คนเข้าใจเป็นอย่างดี เป็นการแยกจากกันด้วยรัก ไม่มีความโกรธเคืองใดๆ ต่อกัน
ฟีร์มีโน่ น้ำตาไหล ร้องไห้ออกมา ในวันร่ำลา เพราะนี่คือสโมสรที่เขาอยู่มายาวนานทั้งชีวิต และได้รับความรักอย่างมากมายจากแฟนๆ
3
นักเตะ 4 คน ต่างแยกย้ายไปหาสโมสรใหม่ แต่เรื่องราวความทรงจำที่พวกเขา ช่วยให้ทีมหงส์แดงได้แชมป์ทุกๆ อย่าง ก็จะคงอยู่ตลอดไปแน่นอน
โฆษณา