นอกเหนือจากตำนานเรื่องอัศวินแห่งกษัตริย์อาร์เธอร์แล้ว ยังมีงานอีกชิ้นหนึ่งที่ถือเป็น Spin-off เรื่องแรกๆ ของโลก คือ Sir Gawain and the Green Knight เป็นงานประพันธ์ในศตวรรษที่ 14
(มีสปอยเลอร์หนังสือ)
เนื้อเรื่องของ Sir Gawain and the Green Knight คือในวันคริสต์มาสปีหนึ่ง ขณะที่เหล่าอัศวินแห่งคาเมล็อตชุมนุมกินเลี้ยงกัน ชายชุดเขียวคนหนึ่งขี่ม้าเขียวก็ปรากฏตัว ถือขวานเล่มหนึ่ง Green Knight (อัศวินเขียว) บอกว่าเขามาเพื่อเล่นเกม เขาท้าเล่นเกมผลัดกันตัดหัวกับใครก็ได้ในที่นั้น โดยยอมให้ฝ่ายคาเมล็อตตัดศีรษะเขาก่อน แล้วในอีกหนึ่งปีให้หลัง ผู้ตัดหัวเขาต้องให้อัศวินเขียวตัดหัวบ้าง ณ จุดนัดพบคือ Green Chapel
นี่ก็คือคอนเส็ปต์ของเรื่อง The Green Knight หนังแฟนตาซีที่สำรวจจิตใจและพฤติกรรมของของมนุษย์
นี่ไม่ใช่หนังทริลเลอร์ ไม่ใช่หนังแอ็คชั่น ไม่ใช่หนังบู๊ มันเป็นหนังดูยากและไม่สนุก เหมือนดูหนังจิตวิทยาอย่าง Black Swan ผสม The Lighthouse เวอร์ชั่นอัศวิน
ฉากเด่นฉากหนึ่งของ The Green Knight อยู่ที่ช่วงท้าย ใช้กลวิธีนำเสนอเหมือนท่อนท้ายของเรื่องหนังของ Spike Lee เรื่อง The 25th Hour เมื่อ Brian Cox คุยยาวๆ กับ Edward Norton แบบ flash-forward ยาวเหยียดแล้วหักมุมจบ
The Green Knight เป็นภาพยนตร์สำหรับคอหนังแท้ ไม่ใช่สำหรับทุกคน หากใครต้องการดูหนังอัศวินบู๊แอ็คชั่น ไปดูเรื่อง First Knight (อาร์เธอร์รับบทโดย ฌอน คอนเนอรี) หรือ King Arthur (อาร์เธอร์รับบทโดย Clive Owen) เพราะ The Green Knight ไม่มีความสนุกเลย
อย่างไรก็ตาม บทวิจารณ์ของผมไม่ได้ให้คะแนนความสนุก แต่ให้คะแนนคุณค่าทางศิลปะ ด้วยเหตุนี้ แม้ The Green Knight เป็นหนังดูไม่สนุกในรอบปี กลับได้คะแนนสูง เพราะมีความแปลก สดใหม่ และกล้าหาญ