ซื้อดีไหม? สรุปเน้นๆสำหรับคนที่ยังลังเล Supalai PARC Ekkamai-Pattanakarn
ส่วนรีวิวยาวๆเน้นดีเทลไว้ไปรออ่านในบทความรีวิวครับ
1. ราคาถูกมาก เป็นคอนโดสูงริมถนนใหญ่บนทำเลเมืองที่ราคาต่ำกว่าที่อื่น 30 - 40% และไม่น่าจะหาคอนโดในอนาคตตรงนี้ที่มีราคาขายเฉลี่ยตรม.ละ 70,000 บาทได้อีกแล้ว
2. รับประกันนานขึ้นกว่าทุกโครงการ ด้วยประกันโครงสร้างนาน 10 ปี และประกันส่วนควบ 3 ปี
3. คุณประทีป เน้นย้ำว่าไม่มีตึกไหนในประเทศไทยที่จะออกแบบโดยมี The Rainbow วัตถุทรงโค้งบนยอดอาคารที่เมื่อโดนแสงในบางช่วงจะสะท้อนเป็นหลายเฉดสีบนยอดอาคาร และการเพ้นท์สีอาคารเป็นสีเขียวไล่เฉดเหมือน Dark Forest แบบนี้อีกแล้ว
4. มีนวัตกรรมเพื่อ Modern Living หลายอย่าง ทั้งพื้นที่เก็บของส่วนตัว แบบขายพร้อมโฉนดในชั้นเดียวกัน ในราคาที่ถูกกว่าราคาเฉลี่ยต่อตรม.ของห้องให้ความสะดวก ปลอดภัยกว่าการไปเช่าพื้นที่ Storage ที่อื่น และไม่เปลืองพื้นที่ในห้อง พื้นที่ Me Corner ออกแบบ Space ได้ตามใจภายในห้อง และพื้นที่ Drop Store
5. ส่วนกลางจัดเต็ม 44 อย่าง เยอะที่สุดของศุภาลัยแล้ว มีพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งถึง 4 ไร่กว่า แต่เสียค่าส่วนกลางแค่ 39 บาทต่อตรม.ต่อเดือน
6. ใช้รถไม่มีปัญหาเพราะมีที่จอดรถเยอะสุดในย่านแล้วถึง 60%
7. ห้อง Oversize กว่าทุกแห่ง มาพร้อมเพดานสูง 2.7 เมตร
8. ทำเลนี้ปล่อยเช่าดีมาก ยิ่งราคาถูกก็ยิ่งเก็บค่าเช่าได้ดีกว่า
ทำเลพัฒนาการตอนต้น ช่วงแยกคลองตัน - แยกศรีนครินทร์ เป็นย่านที่ดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่มองเห็นความสำคัญในฐานะที่สามารถเป็นตัวเลือกทดแทนการพัฒนาคอนโดในทำเลเอกมัย - ทองหล่อ ได้พอสมควรจากต้นทุนราคาที่ดินที่ถูกกว่ากันเกินครึ่ง ทำให้สามารถทำราคาขายที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม Mass ได้มากกว่า และยังเดินทางด้วยรถจากถนนพัฒนาการช่วงคลองตัน ก็ตรงเข้าเอกมัย - ทองหล่อได้เลยในไม่กี่นาที
ซึ่งตรงนี้ช่วยปิดข้อจำกัดในเรื่องของความใกล้เพียงแค่โครงข่ายสถานีรถไฟฟ้าระดับรองอย่าง ARL (AERA1) ที่สถานีรามคำแหง ได้พอสมควร เพราะเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่นๆได้ ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จึงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง...ซึ่งส่งผลให้ Competitive Arena ของคอนโดในย่านนี้จะมีความหลากหลายมาก ไม่ได้แข่งกันในมิติเดียว แบบในย่านทองหล่อที่มักจะแข่งกันที่ความหรูหรา
โดยที่ไม่ได้มองราคาเป็นปัจจัยหลัก เพราะแถวนี้จะแข่งกันทั้งในเรื่องของ ดีไซน์ ที่ตั้งโครงการ จำนวนยูนิต และราคา แล้วแต่ว่าเจ้าไหนจะเด่นเรื่องอะไร ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าคอนโดในย่านนี้มักจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป บางที่เน้นส่วนกลาง บางที่เน้นวัสดุภายในห้อง บางที่เน้นที่ตั้งที่ใกล้ ARL บางที่เน้นเลย์เอาท์ห้องหน้ากว้าง หรือแบบ Loft บางที่เน้นจับกลุ่ม Pet Friendly กันไปเลย
สำหรับผู้มาทีหลัง แต่ไม่ใช่หลังที่สุดอย่าง Supalai PARC Ekkamai-Pattanakarn นั้นด้วยการที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์คือแบรนด์มหาชน เป็นแบรนด์ Mass ที่เน้นทำราคาเป็นหลัก ในขณะที่ทำเลที่ตั้งของโครงการก็ดูจะไม่ใช่ประเด็นที่นำมา Lead ได้อย่างเต็มที่เพราะอยู่ที่ฝั่งขาออก ใช้สะพานข้ามแยกพัฒนาการไม่ได้เพราะจะเลย อีกทั้งยังไม่สามารถ utilize พื้นที่ทางฝั่งถนนกำแพงเพชร 7 เพื่อใช้เป็นทางออกอีกฝั่งได้ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากเพราะพื้นที่โครงการกว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ
ในขณะที่คอนโดใหม่โครงการหลังๆในย่านนี้ มีตัวเลขยอดขายที่ไม่ค่อยหวือหวาเหมือนช่วง 4 - 5 ปีก่อนหน้านี้ ด้วยราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจนถึงตารางเมตรละแสนบาทแล้ว ในขณะที่คอนโดโครงการสุดท้ายที่ Sold Out ในย่านนี้ก็คือ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ - ศรีนครินทร์ ที่ทำเลดูจะเป็นรองสุด แต่ขายด้วยราคาที่เป็นต่อสุดๆก็ทำให้ขายหมดได้...ทั้งหมดนี้ทำให้ Supalai PARC Ekkamai-Pattanakarn เลือกที่จะใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องการทำราคาอีกครั้ง
พ่วงด้วยการทำห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าโครงการอื่นๆ ในการเป็นจุดขาย นึกภาพง่ายๆว่าราคาเฉลี่ยประมาณตารางเมตรละ 70,000 บาท แต่ในโครงการอื่นในตอนนี้คือเฉลี่ยประมาณตรม.ละ 93,000 บาท ต่างกันตั้ง 30% เลย ด้วยกลยุทธฺนี้จึงดึงดูดกลุ่มคนที่คุ้นชินกับการอยู่ในคอนโดทำเลนี้เป็นหลักแต่ต้องการห้องใหญ่กว่าที่ตัวเองอยู่มาซื้อได้ดี ในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับการเพิ่ม Value Add เพิ่มเติมที่โครงการอื่นทำไม่ได้ด้วยการใส่พื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะมาก
ทั้งบนอาคารทั้ง 2 ระหว่างอาคาร On ground และบน Rooftop เรียกได้ว่ามีพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวใหญ่ที่สุดในย่านพัฒนาการเลย ด้วยพื้นที่ 7,318.57 ตารางเมตร หรือประมาณ 4-2-29 ไร่ ใครชอบใช้ส่วนกลางบ่อยๆคงชอบ แถมค่าส่วนกลางแค่ตรม.ละ 39 บาทต่อเดือนเท่านั้น
สำหรับมนุษย์เงินเดือนคนชั้นกลาง นั่นก็เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างดูดีน่าซื้อ ในข้อแม้ที่ว่าคุณมีงบประมาณพอที่จะผ่อนดาวน์ไปได้ยาวๆถึง 3 ปีพร้อมกับผ่อนที่ๆปัจจุบันคุณอยู่ไปด้วยนะ (ที่นี่ผ่อนดาวน์รวมสัญญาค่อนข้างสูงนะราวๆ 20%) เพราะได้ห้องใหญ่กว่าแบบ Oversize ประมาณว่าอยู่ที่อื่นๆมีเงินเกือบสามล้านบาทได้แค่ห้องแบบสตูดิโอ 30 ตรม.
แต่อยู่ที่นี่ในงบประมาณเดียวกันได้เป็นห้อง 1 Bed ใหญ่ 35.5 ตรม.หรือ 1 Bed Plus 46 ตรม.ด้วยราคาแค่สอง - สามล้านกลางๆเองนะ...แต่สำหรับกลุ่มครอบครัวขยายรุ่นใหม่ หรือกลุ่มคนติดหรูที่คุ้นชินกับการอยู่คอนโดห้องขนาด Compact ในย่านทองหล่อ แล้วกำลังมองหาห้องขนาดใหญ่แบบ 2 - 3 นอน แบบหน้ากว้างกระจก 2 มุม มีดีไซน์อาคารที่ทันสมัย และบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางที่เน้น Emotional Appeal มากๆ อาจจะดูไม่ค่อยตรงจริตเท่าไหร่นะ
เพราะห้องแบบ 2 นอนที่นี่ถ้าไม่ใช่ Size ใหญ่จริงๆตั้งแต่ 60.5 ตรม.ขึ้นไปก็จะได้เป็นแค่ 2 นอน 1 น้ำ อีกทั้งห้องแบบ 3 นอนขึ้นไปในชั้น Presidential Suite ก็มีตัวเลือกน้อยมากๆ น่าจะซื้อไม่ทันคนอื่น
ห้องขนาดสตูดิโอ - 1 Bed Plus น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจาก Real Demand ในย่านนี้ครับ ด้วยราคาที่อยู่แค่ระดับไม่ถึง 1.89 - 3.68 ล้าน* และก็น่าจะปล่อยเช่าดีด้วยเช่นกัน ส่วนห้องขนาดใหญ่ด้วยการที่ฟังก์ชันห้องแบบ 1 Bed Plus และ 2 Bed 1 Bath มันค่อนข้างจะคล้ายๆกันไปหน่อย คนที่ซื้อห้องใหญ่ของที่นี่จึงเลือกที่จะโดดไปซื้อ 2 Bed 2 Bath ไปจนถึง 3 Bed ในชั้น Presidential Suite แทน
อีกทั้ง Unit Plan ของห้อง 2 Bed 2 Bath ขนาด 60.5 ตรม. ที่นี่ยังไม่ได้ Utilize เอาความเป็นห้องมุมมาได้เท่าที่ควร เพราะมีหน้าต่างกับระเบียงแค่ด้านเดียว แถมยังหันไปเจอะกับอีกห้องในระยะไกล และอีกหลายห้องในระยะไกล แม้ว่าจะได้ Value ขึ้นมาตรงที่ได้วิวสระแนวยาวก็เหอะ แต่ก็ติดนิดหน่อยตรงนี้...
ทำให้ผมมองว่าห้อง 3 นอนในชั้น Presidential Suite (บางห้อง) นั้นมี Point of Different ที่น่าซื้อมากกว่า เพราะเอาจริงๆ ชาตินี้คงจะหาคอนโดใหม่ทำเลตรงนี้ที่มีขนาดห้อง 80 - 100 ตรม. พร้อมห้อง Storage ส่วนตัว ในราคาตรม.ละ 66,000 - 74,000 บาทไม่ได้อีกแล้ว
มันเหมาะมากๆกับคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบ Verticle Living ดูวิวสวยๆ ได้พื้นที่เยอะแบบพอดีๆ แต่ไม่ต้องเยอะขนาดแบบบ้านเดี่ยว ที่บางคนถ้าอยู่กันแค่ 1-2 คน อาจจะดูเป็นภาระมากเกินไป
ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจของคุณล่ะครับ ว่าจะมองภาพการใช้ชีวิตบนคอนโดของคุณเป็นแบบไหนมากกว่ากันระหว่าง Space, Design, Privacy และ Luxury
#SupalaiParc #SupalaiPARCEkkamaiPattanakarn
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
