26 พ.ค. 2023 เวลา 07:50 • กีฬา

อินโดนีเซียทำอย่างไร ถึงเชิญอาร์เจนติน่ามาเล่นเกมกระชับมิตรได้ เราจะเล่าให้ฟัง

แปลกใจไหมครับ ว่าอินโดนีเซีย ประเทศที่มีเวิลด์แรงค์กิ้งอยู่อันดับ 149 ของโลก เจรจาอย่างไร จึงสามารถดึงอาร์เจนติน่า มาเตะเกมกระชับมิตรได้สำเร็จที่จาการ์ตาในเดือนมิถุนายนนี้
อาร์เจนติน่า ไม่ใช่แค่แชมป์โลก แต่เป็นทีมอันดับ 1 ในฟีฟ่าเวิลด์แรงค์กิ้ง ณ เวลานี้อีกด้วย คือน้อยครั้งมากๆ ที่ทีมระดับนี้จะมาเตะกระชับมิตรกับทีมที่มีอันดับโลกแแต่ำกว่ากันขนาดนั้น คำถามคืออินโดนีเซียทำได้ยังไง เราจะไปลำดับเหตุการณ์กันตั้งแต่แรกนะครับ
1
หลังจากจบฟุตบอลโลกที่กาตาร์เมื่อปลายปีที่แล้ว อาร์เจนติน่ากลายเป็นทีมยอดนิยมอันดับหนึ่ง ประเทศไหนก็อยากจะลงเล่นกระชับมิตรด้วย เพราะการันตีได้เลยว่า ตั๋วจะขายหมดแน่ๆ ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ใครๆ ก็อยากเห็นฝีเท้าของลีโอเนล เมสซี่ด้วยตาตัวเอง
1
ประเด็นคืออาร์เจนติน่าจะมีสล็อตของฟีฟ่าเดย์ ว่างอยู่ 2 เกม นั่นคือ 15 มิถุนายน 2023 และ 19 มิถุนายน 2023 นี่เป็นสองนัดที่พวกเขาจะลงเล่นกับทีมอะไรก็ได้ แล้วฟีฟ่าเดย์ต่อจากนั้น ก็จะเป็นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้แล้ว ดังนั้นถ้าชาติไหนอยากเตะกับอาร์เจนติน่าก็ต้องยื่นข้อเสนอเข้ามา ให้สหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนติน่าพิจารณา
1
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุว่า ประเทศที่อยากให้อาร์เจนติน่าไปแข่งด้วย ต้องจ่ายเงินมหาศาลมาก ทั้งส่วนแบ่งค่าตั๋ว, ส่วนแบ่งโฆษณาจากการถ่ายทอดสด และ ค่าปรากฎตัว (Appearance fee)
โดยค่าปรากฏตัวจะสตาร์ตเริ่มต้นที่ 5 ล้านดอลลาร์ (173 ล้านบาท) แต่ยิ่งเป็นชาติอันดับโลกต่ำๆ ลงไป แบบที่อาร์เจนติน่าลงแข่งด้วยแล้วก็ไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไร เชื่อว่าต้องจ่ายค่าปรากฏตัวมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์เสียอีก
1
ทีมชาติอาร์เจนติน่า กำลังต้องการเงิน เพราะกำลังสร้างสนามซ้อมแห่งใหม่ มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นในช่วงที่ทีมกำลังนิยมขนาดนี้ เมื่อเห็นช่องทางทำเงินได้ ก็ควรกอบโกยเอาไว้ก่อน
ในสล็อตแรก 15 มิถุนายน 2023 อาร์เจนติน่าเลือกแข่งขันกับออสเตรเลีย ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ทำไมแข่งกับออสเตรเลียต้องไปเตะที่ปักกิ่ง? คำตอบคือ ผู้จัดการแข่งขันของจีน ชื่อบริษัทไชน่า เรนโบว์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสต์เมนต์ ต้องการได้ทีมชาติอาร์เจนติน่า มาแข่งขันในประเทศ เพราะเชื่อว่า จะทำกำไรได้ จากค่าบัตรเข้าชม และค่าโฆษณา
1
แต่รายงานระบุว่า ในเกมกระชับมิตรนัดแรก ลีโอเนล สคาโลนี่ เฮดโค้ชอาร์เจนติน่า อยากเจอทีมที่มีอันดับโลกสูงหน่อย จะได้ประโยชน์กับการลองทีม ซึ่งจีนอยู่อันดับ 84 ของโลก ถือว่าต่ำเกินไป ดังนั้นผู้จัดการแข่งขัน จึงไปเจรจากับออสเตรเลีย (อันดับโลก 29) ให้มาแข่งที่ปักกิ่งแทน
1
ออสเตรเลียอยากเจออาร์เจนติน่าอยู่แล้ว ส่วนสคาโลนี่ก็พอใจที่จะเจอออสเตรเลีย เพราะจะเป็นการรีแมตช์ ฟุตบอลโลกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย
ทุกฝ่ายได้ประโยชน์หมด อาร์เจนติน่าได้เงิน ได้เตะกับทีมที่โอเค, ออสเตรเลียได้ล้างตากับแชมป์โลก, จีนได้อิมพอร์ตเกมฟุตบอลดีๆ เข้าประเทศ นั่นทำให้สล็อตแรก ถูกเคาะไปเรียบร้อย
มาสู่สล็อตที่ 2 วันที่ 19 มิถุนายน อันนี้สกาโลนี่ไม่ได้ซีเรียสแล้ว เจอกับทีมอะไรก็ได้ โดยรายงานเผยว่า สหรัฐอเมริกา และ ยูเออี สนใจอย่างมาก ที่จะดึงอาร์เจนติน่าไปเตะด้วย อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียเองก็เป็นอีกชาติที่อยากได้ และดำเนินแผนการล็อบบี้เช่นกัน
ก่อนจะในขั้นตอนที่ว่าอินโดนีเซียเจรจาอย่างไร เราต้องเล่าย้อนไปเล็กน้อย ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ที่อินโดนีเซีย มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่
1
พลตำรวจเอก โมชาหมัด อิเรียวาน นายกสมาคมคนเดิม หมดวาระ 4 ปี โดยไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้พอมีการเลือกตั้งปั๊บ สโมสรสมาชิกจึงโหวตให้เอริค ธอร์เฮีย เป็นผู้ชนะแบบแลนด์สไลด์
เอริค ธอร์เฮีย อดีตเจ้าของสโมสรอินเตอร์ มิลาน มีคอนเน็กชั่นกว้างขวาง ทั้งฟุตบอลและธุรกิจ คนอินโดฯ อยากทดลองใช้งานนายกฯ คนใหม่ที่เป็นสายนักธุรกิจดูบ้าง เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นสายตำรวจ เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น
ตอนที่รับตำแหน่ง ธอร์เฮียบอกว่า ความตั้งใจของเขาคือ "ปลุกฟุตบอลอินโดนีเซียที่หลับใหล ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง"
หลังจากธอร์เฮียได้รับตำแหน่ง 1 เดือน มีการประชุมฟีฟ่าครองเกรส ครั้งที่ 73 ที่ประเทศรวันด้า โดยนายกสมาคมจากทุกประเทศ จะเดินทางไปร่วมงานด้วย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงจากประเทศไทยก็ไปเช่นกัน
ธอร์เฮียเล่าว่า ในงานฟีฟ่าคองเกรสเขามีโอกาสได้คุยกับคนของสมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า และมีการสอบถามว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะนำทีมชาติอาร์เจนติน่ามาแข่งที่จาการ์ตาในช่วงฟีฟ่าเดย์
1
พอเริ่มคุยในสเต็ปแรกแล้ว เขาใช้สายสัมพันธ์ส่วนตัวกับฮาเวียร์ ซาเน็ตติ อดีตตำนานทีมชาติอาร์เจนติน่าในการช่วยเหลืออีกทาง
2
คือตอนที่ธอร์เฮีย เป็นประธานสโมสรอินเตอร์ มิลาน เขากับ ซาเน็ตติ สนิทสนมกันมากๆ ดังนั้นจึงใช้ประโยชน์จากคอนเน็คชั่น ขอให้ซาเน็ตติเกลี้ยกล่อมสมาคมถึงข้อดีในการมาเล่นที่อินโดนีเซีย
มีนักข่าวถามเรื่องตัวเงิน ว่าต้องควักเงินจ่ายไปเท่าไหร่ กับการดึงอาร์เจนติน่ามาแบบนี้ ตัวธอร์เฮียไม่ยอมบอก กล่าวแค่ว่า "เรื่องเงินนั้น ยังไงผมก็เคยเป็นเจ้าของอินเตอร์ มิลานมาก่อน ส่วนตัวเลขเป๊ะๆ ไปดูบัญชีรายรับรายจ่ายสิ้นปีของสมาคมเอาเอง"
พอไม่มีคำตอบแบบนี้ จึงมีการประเมินว่า อินโดฯ ต้องจ่ายหนักแน่ๆ อาจจะสูงถึง 7-8 ล้านดอลลาร์ได้เลยทีเดียว คือจะเอาแชมป์โลกมา มันก็ต้องแพงเรตนี้ล่ะนะ
หลังจากการทาบทามเกิดขึ้น ฝั่งอาร์เจนติน่ารู้สึกสนใจเช่นกัน เพราะพวกเขาต้องมาเล่นที่ปักกิ่งอยู่แล้ว จากนั้นบินต่อมาจาการ์ตาก็ได้ มันก็อยู่ในทิศทางใกล้ๆ กัน
2
แล้วในอดีตอาร์เจนติน่า ก็เคยมาเล่นที่อาเซียนอยู่บ้าง เช่น ในปี 2017 ลงเตะกระชับมิตรกับสิงคโปร์ ดังนั้นการลงเล่นกับอินโดนีเซียบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรขนาดนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นการที่คุณเป็นแชมป์โลก แล้วได้เดินทางไปรอบโลกจริงๆ ได้ไปประเทศใหม่ๆ เพื่อโชว์ให้ผู้คนต่างทวีปได้เห็นความยอดเยี่ยมของคุณ มันก็ดูสมเหตุสมผลดี
1
เจ้าหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า ประกอบด้วย ดาเนียล คาเบรร่า ผู้จัดการทั่วไป และที่ปรึกษา ปาโบล เซบาสเตียน และ มาเรีย คริสติน่า รุสโซ่ เดินทางมาที่จาการ์ตาเพื่อเช็กความพร้อมของโรงแรม และสนามเกลอร่า บุงการ์โน่ ว่าสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าจะพาทีมเดินทางมาจริงๆ
เมื่อเช็กทุกอย่างเรียบร้อย สมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่าก็เซย์เยส ตอบโอเคในที่สุด ทำให้อินโดนีเซียจะได้เปิดบ้านต้อนรับแชมป์โลก ในเกมอุ่นเครื่องวันที่ 19 มิถุนายนนี้ เป็นเกมประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง และจะเป็นการเจอกันครั้งแรกของสองประเทศนี้ด้วย
1
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเงื่อนไขในสัญญาว่า ลีโอเนล เมสซี่ จะเดินทางมาแข่งด้วย แฟนอินโดนีเซียก็ต้องลุ้นเอา ว่าในเดือนหน้าสภาพร่างกายเมสซี่จะสมบูรณ์พร้อมลงแข่งขันหรือไม่
เอริค ธอร์เฮีย แถลงข่าวในวันที่ 24 พฤษภาคมว่า "ผมมายืนยันข่าวเรื่องนี้ หลังจากได้รับจดหมายรับรองจากทั้งฟีฟ่า เอเอฟซี และ สมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า เพื่อที่จะทำให้ทุกคนมั่นใจว่านี่เป็นเรื่องจริง ไม่มีการหลอกลวงใดๆ เกิดขึ้น"
"ก่อนหน้านี้ มีคนคิดแง่ลบกับสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียอย่างมาก แต่เราจะพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิด ตอนนี้ สมาคมซีเรียสมากในการพาฟุตบอลอินโดนีเซียกลับคืนชีพอีกครั้ง เราจะจัดการแข่งฟีฟ่าเดย์ด้วยคู่แข่งที่มีคุณภาพ เริ่มจากการเอาแชมป์โลกมาสู่อินโดนีเซียก่อนเลย"
สำหรับตั๋วการแข่งนั้น ธอร์เฮียบอกว่า ผู้คนจะแย่งกันซื้อยิ่งกว่าคอนเสิร์ตโคลด์เพลย์เสียอีก เพราะวงโคลด์เพลย์อาจจะกลับมาเล่นที่อินโดนีเซียในอีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่กับทีมชาติอาร์เจนติน่า ในรอบ 20-30 ปีนี้ คงไม่กลับมาอีกแล้ว
นักข่าวถามธอร์เฮียต่อไปว่า ในบรรดาตัวเลือกหลายประเทศ ทำไมอาร์เจนติน่าถึงเลือกอินโดนีเซีย
1
ธอร์เฮีย ตอบอย่างอหังการว่า "เพราะเราคว้าเหรียญทองซีเกมส์ อาร์เจนติน่าก็คงได้เห็นเหมือนกัน มันหมายความว่า เราพอจะเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศอันดับหนึ่งในอาเซียนตอนนี้"
2
"ยิ่งไปกว่านั้น อาร์เจนติน่าคงรับรู้ได้ว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศที่คลั่งไคล้ฟุตบอล เรามีฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับหนึ่ง 73% ของประชากรเราคลั่งฟุตบอลแบบสุดๆ ด้วย ผมมั่นใจว่านักเตะดังๆ อาร์เจนติน่า มีผู้ติดตามชาวอินโดนีเซียเยอะมาก ดังนั้นก็เป็นโอกาสดีสำหรับพวกเขาเช่นกัน ที่จะได้มาพบปะแฟนๆ ในวาระนี้"
ในภาพรวมแล้ว ในฐานะที่เป็นคนอาเซียนเหมือนกัน ก็ดีใจด้วยกับอินโดนีเซีย ที่จะได้ลงเล่นกับทีมแชมป์โลก น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีของผู้เล่นทุกคน รวมถึงการได้เห็นเมสซี่, เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ฯลฯ แบบตัวเป็นๆ ก็คงเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก
แล้วถ้าเกิดส้มหล่น อินโดนีเซียพลิกชนะได้ล่ะก็ จะได้คะแนนฟีฟ่าเวิลด์แรงค์กิ้งเพิ่มอีกเพียบเลยทีเดียว
อยากเล่านิดนึงว่า ตอนซีเกมส์ที่กัมพูชา ผมเจอเอริค ธอร์เฮีย (ถ่ายรูปคู่กันด้วย) เขาเป็นที่รักของแฟนๆ อย่างมาก มีคนเข้าคิวขอจับมือ ขอถ่ายรูปเต็มไปหมด ผู้คนก็คาดหวังเยอะ ว่าพอเปลี่ยนนายกสมาคมแล้ว ทิศทางของฟุตบอลอินโดฯ จะดีขึ้น ไม่ติดหล่ม เหมือนยุคที่ผ่านๆ มาอีก
2
ในโลกฟุตบอลการที่ผู้บริหารมีสายสัมพันธ์ที่ดี มีเงินทุน และมีทักษะในการเจรจา ก็อาจสร้างดีลที่น่าทึ่งแบบนี้ให้เกิดขึ้นได้ครับผม
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้อินโดนีเซีย จัดแข่งขันเกมกระชับมิตรกับอาร์เจนติน่าอย่างราบรื่นนะครับ
ขออย่างเดียว อย่าไปยั่วยุ หรือใช้ความรุนแรงใดๆ กับทีมแชมป์โลกนะ เล่นฟุตบอลให้แฟร์ที่สุด แพ้ก็แพ้ ชนะก็ชนะ ช่วยรักษาภาพลักษณ์ของอาเซียนด้วยนะ
โดยเฉพาะเกมที่คนจับตามองทั้งโลกแบบนี้ เป็นโอกาสที่จะทำให้เห็นคุณภาพของฟุตบอลอาเซียน ทั้งเกมการแข่งขัน และความสวยงามของสนาม อย่าให้คนทวีปอื่นเขาคิดได้ ว่าบอลอาเซียนนั้นไร้วัฒนธรรมนะครับผม
#WORLDCHAMPIONTOASEAN
โฆษณา