- MAI (Market cap weight) vs MAI (Equal cap weight) พบว่า โดยเฉลี่ย Equal ผลตอบแทน 14.29% ต่อปี (2002-2022) มี MaxDD -65.32%
- การเปรียบเทียบผลตอบแทนของแต่ละตลาดเทียบ Market Cap vs Equat Weight จะให้เห็นภาพว่า MAI ผลตอบแทนดีกว่า SET SET50 SET100 ดังนั้นเมื่อดูผลตอบแทน market cap จะเห็นภาพว่า หุ้นใหญ่ๆ คือ ตัวดันดัชนี
- ถ้าลองจัดพอร์ตในดัชนีต่างๆ SET50 SET100 MAI SET หาหุ้นมา 30 ตัวมาใส่ พบว่า MAI สร้าง Alpha ได้ มีผลตอบแทนดีกว่า Benchmark (17.03% vs 8.27%)
- ลองสร้างพอร์ตหุ้นใหญ่ Top30 vs พอร์ตหุ้นเล็ก Bottom30 แล้วเปลี่ยนหุ้นทุกปี (2006-2022) พบว่า
1) กลุ่ม SET50 ตัวใหญ่สุดเล็กสุด ไม่ต่างมาก
2) กลุ่ม SET100 ผลตอบแทนยังไม่ห่างกันมาก
3) กลุ่ม MAI ตัวเล็กสุด 30 ตัวสร้างผลตอบแทนโดดเด่นกว่า MAI ใหญ่สุด 30 ตัว >> 27% vs 8% ต่อปี สะท้อนพลังของการจัดพอร์ต
4) SET รวมๆ เล็กสุด 34.9% < SET ใหญ่ 5.81%
5) All Stock ผลตอบแทนตัวเล็กก็ใหญ่กว่าตัวใหญ่ไปอีก
#RiskReductionTool
- ความผันผวนของ MAI 50% ต่อปี ขณะที่ SET 40% SET50 34% All 42%
- MDD MAI -74% ขณะที่ SET -74% SET50 -67% (Median) ก็ไม่ได้น้อยไปกว่ากันเท่าไรนะ
#LowCorrelation
- SET50 vs MAI >>> Correlation 0.94 ทำให้ MaxDD เหลือ -58% เอง (MAI vs SET 0.68)
- หุ้นใน MAI แทบจะไม่ Relate กับหุ้นตัวอื่นเลย โดยในกลุ่ม < MAI เอง มี Corr 0.3 เอง ขณะที่ MAI เทียบ SET อยู่ที่ 0.26 (เทียบรายหุ้นกันเองนะ) ส่วน SET50 เทียบ Corr กันเองอยู่ที่ 0.51
- การจัดพอร์ตโดยสุ่มในแต่ละตลาดมีผลตอบแทน 16-19% ต่อปี แต่ SD ฝั่ง SET ALL สูงกว่า MAI (2.34 vs 2.64 vs 0.52) แปลว่าซื้อหุ้นในกลุ่มเดียวกันเอง ของ SET ก็แกว่งกว่า MAI
- MDD ของการจัดพอร์ตมั่วๆ MAI -61% SET -50% ALL -51% สะท้อนชัดว่า MAI น่ากลัวนะ
- การถือหุ้น SET SET50 SET100 30 -50 ตัวขึ้นไป Volatility ไม่ได้ลดลงมั่ง แต่ MAI Volat ยังลงอีก (ดังนั้นลง MAI น้อยๆตัวจะผันผวนนะ ต้องลงหลายตัวหน่อย)
- การกระจายหลายตัวที่มากขึ้นในภาพ MDD จะลดลง MAI -71% 5 ตัว (-67% 10 ตัว) vs -59% 50 ตัว
#Active Strategies Boost
- ลองนำ Factor ต่างๆมาใช้จัดพอร์ตเช่น Low PE / Low PBV / ATH / 52 Week High / GrowthQoQ GrowthYoY เป็นต้น พบว่า กลยุทธ์ Low PBV Return 21.8% สูงกว่าปกติ Random ที่ 17% นอกเหนือจากนี้ คือ 52 Week high และ ROC60 (Rate of change)
- ในอดีตที่ผ่านมา Value Factor + Momentum Factor มักจะใช้ได้ดี >> VI หรือ Trend Following ใช้ได้นะ
- Mark #Minervini >>> trend following พบว่า SET50 ได้ 5.95% SET100 11.5% MaxDD -17% -22% ขณะที่ MAI ได้ 17.9% DD -34% >>> return เพิ่ม แต่ MDD ก็เพิ่มมาด้วยนะ แนะหาวิธีกระจายความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- #Value Strategy >> Low P/S ratio พบว่า SET50 SET100 ผลตอบแทน 7% แต่ MAIได้ 20% SET 18% ALL 20% ดังนั้นพอมีหุ้นขนาดกลาง กลยุทธ์ใช้การได้ดีมากขึ้นกว่าการลงหุ้นใหญ่เพียงอย่างเดียว
- #Hybrid #CANSLIM ได้ลผลเชิงเดียวกันว่า MAI ได้มากกว่า SET50 SET100 ส่วนภาพรวม SET ALL ได้ > MAI