28 พ.ค. 2023 เวลา 02:00 • กีฬา

ความฝันที่ยังไม่เป็นจริง

ในวัยเด็กของ มาร์โก รอยส์ เขาเคยเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาก่อนหน้าแล้วครั้งนึงก่อนจะย้ายทีมออกไปในเวลาต่อมา เรื่องราวมันเกิดขึ้นโดยที่ในช่วงเวลานั้นสโมสรจะมีการผลักดันนักเตะเยาวชนขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เพื่อพัฒนาและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม ซึ่งในขณะที่เพื่อนๆของเขาหลายต่อหลายคนต่างถูกผลักดันขึ้นไป
ตัวเขาและอีกหลายคนก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อสโมสรมองว่าพวกเขายังดีไม่พอ จนเขาต้องย้ายไปเล่นยังทีมในลีครองของประเทศเยอรมันและนั่นก็เป็นเสมือนการพัฒนาการของเขาอย่างก้าวกระโดดอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาทำผลงานได้ดีกว่าผู้เล่นคนอื่นอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มที่จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ในอนาคต และในเวลานั้นเองโอกาสก็วิ่งมาหาเขาอีกครั้ง เมื่อมีสโมสรชั้นนำในประเทศมากมายต่างอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค
ทันทีที่มีชื่อของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้ามาให้ความสนใจและพร้อมที่จะเซ็นสัญญากับเขา ตัวของ รอยส์ เองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายเลยที่จะเซ็นสัญญากับทัพเสือเหลือง โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ในตอนนั้นผมตัดสินใจได้ทันที ตั้งแต่ผมได้ยินชื่อของ ดอร์ทมุนด์ แล้วละ” ถึงแม้ในช่วงเวลานั้นทาง บาเยิร์น มิวนิค จะให้ค่าเหนื่อยที่มากกว่าดอร์ทมุนด์ก็ตาม เเต่เขาเลือกที่จะทำตามที่หัวใจของตัวเองเรียกร้อง
ฟอร์มการเล่นของ มาร์โก รอยส์ ภายใต้สีเสื้อของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ไม่ธรรมดาเลยในแต่ละฤดูกาล เขามีผลงานสม่ำเสมอตามบทบาทที่เขาได้รับมอบหมายมาโดยตลอด การสร้างสรรค์เกมนับเป็นจุดเด่นของเจ้าตัว และก็ยังมีทักษะการจบสกอร์และการเลี้ยงเอาชนะคู่ต่อสู้ 1-1 ได้เป็นอย่างดี
แต่ในแทบทุกฤดูกาลที่ทุกๆอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี เขากับต้องพบกับอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่สม่ำเสมอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทบจะทุกฤดูกาลจนมันทำให้เขาไม่สามารถพัฒนาความสามารถต่อไปได้ในฤดูกาลนั้นๆ ซึ่งอาการบาดเจ็บเหล่านี้ทำให้เจ้าตัวต้องพลาดทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ในนามทีมชาติเยอรมันครั้งแล้วครั้งเล่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งมันดูเหมือนบทละครที่ถูกเขียนไว้อย่างนี้
ทุกๆครั้งที่เขาเริ่มทำผลงานได้ดีและมีลุ้นติดทีมชาติลงทำศึกในรายการต่างๆเขาก็ต้องเสียโอกาสนั้นไปเพราะอาการบาดเจ็บ โดยตัวของ รอยส์ ก็เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ผมยอมที่จะทุ่มเงินทั้งหมดที่มีเพื่อให้ตัวเองกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง เพื่อที่ผมจะได้ทำงานที่รักได้อย่างเต็มที่ นั่นก็คือการเล่นฟุตบอล”
เมื่อเขาสลัดอาการบาดเจ็บเหล่านั้นได้และกลับมาสวมเสื้อสีเหลืองตัวเก่งลงช่วย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำศึกในรายการต่างๆแล้ว สิ่งหนึ่งที่ยังคงค้างคาใจของเขาคงหนีไม่พ้นความสำเร็จในระดับเมเจอร์กับสโมสร ที่ในทุกๆฤดูกาลผลงานของสโมสรจะเป็นไปในทิศทางบวกและมีโอกาสลุ้นแชมป์ต่างๆอย่างจริงจัง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความฝันเหล่านั้นก็ค่อยๆจางหายไปราวกับหมอกควันและจบลงด้วยการเป็น พระรอง อยู่เสมอ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักจะทำให้คนๆนึงหมดไฟฝันในการทำสิ่งต่างๆได้เลยทีเดียว
แต่นั่นไม่ใช่คำที่จะนิยามให้กับนักเตะอย่าง มาร์โก รอยส์ เพราะเขาเป็นคนนึงที่ต้องพบเจอกับความผิดหวังมามากมายทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บและโทรฟี่ต่างๆ
ทุกๆครั้งที่เขาต้องถูกหามออกจากสนาม แฟนๆต่างเห็นอกเห็นใจและรู้สึกสงสารเขาเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเขารับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ตัวเขาก็ไม่ได้คิดแบบนั้นเสมอไป สิ่งที่เราเห็นเป็นประจำอยู่ทุกครั้ง คือ เขามักจะกลับมาได้เสมอและแสดงศักยภาพที่เขามีออกมาให้เราได้เห็นอยู่เสมอในทุกๆครั้งที่เขากลับมาลงสนามโดยไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บรบกวน นั่นเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเจ้าตัวเลยทีเดียว
เมื่อพูดถึงความสำเร็จของเขาทั้งในนามสโมสรและทีมชาติแล้วมันดูจะเป็นเหมือนฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเขาอยู่พอสมควร แม้บางครั้งมันจะอยู่ใกล้มือของเขาเพียงแค่เอื้อมเดียว แต่เมื่อเขายื่นมือไปเพื่อสัมผัส มันก็กลับห่างออกไปจากเขาอยู่ทุกครั้งไป
ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าตัวของ มาร์โก รอยส์ จะประสบความสำเร็จอย่างที่แฟนๆคาดหวังเอาไว้หรือไม่ก็ตาม ทุกๆคนต่างก็ชื่นชมเเละยอมรับในความเป็นนักสู้ของเขาอย่างไม่มีข้อกังขาเลย เพราะทุกๆครั้งที่คนเราล้มลงมันมักจะมีบาดแผลติดมาด้วยเสมอ และแผลนั้นก็จะคอยทำร้ายเรากลับในทุกๆวัน แต่กับ มาร์โก รอยส์ แล้วเขาเหมือนจะเข้าใจเรื่องราวตรงนี้ดีกว่าใครและเรียนรู้วิธีรับมือกับมันเอาไว้แล้วเป็นอย่างดีอย่างที่เราเห็นเขาทำได้มาโดยตลอด
Source by : UCL & Bundesliga & Borussia Dortmund
โฆษณา