วันสุดท้ายบุนเดสลีกา พลิกไปพลิกมา ตอนจบบาเยิร์น มิวนิค แชมป์สมัย 11
Finale Matchday ของบุนเดสลีกา ปิดฉากอย่างสุดยอดจริงๆ เหตุการณ์พลิกไปพลิกมาทุกนาที ก่อนบทสรุปจะลงเอยด้วยแชมป์ลีก สมัยที่ 11 ติดต่อกันของบาเยิร์น มิวนิค
ตัวแปรสำคัญคือ 2 สโมสร ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย ไมนซ์ (อันดับ 9 ในตาราง) และ โคโลญจน์ (อันดับ 11 ในตาราง) ทั้งสองทีมไม่มีลุ้นเกมยุโรป ไม่มีลุ้นตกชั้น เล่นแค่ให้ครบโปรแกรมเท่านั้น แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า ทีมฟุตบอล ล้วนมีศักดิ์ศรีของตัวเอง
ก่อนเกมเริ่ม สถานการณ์คือ ถ้าดอร์ทมุนด์ชนะไมนซ์ จะได้แชมป์เลย แต่ถ้าดอร์ทมุนด์ไม่ชนะแล้วบาเยิร์นบุกไปชนะโคโลญจน์ได้ บาเยิร์นจะเป็นแชมป์แทน
--------------------
นาทีที่ 8 บาเยิร์นนำเร็ว!
ดอร์ทมุนด์ 0-0 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
คิงสลีย์ โคมัน ยิงให้บาเยิร์นบุกมานำโคโลญจน์ได้สำเร็จ นี่เป็นสกอร์ที่บีบใจฝั่งดอร์ทมุนด์มาก เพราะเล่นเอาเสมอไม่ได้แล้ว ต้องเอาชนะอย่างเดียว เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้นักเตะไปโดยไม่รู้ตัวด้วย
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
--------------------
นาทีที่ 15 ไมนซ์พลิกนำสุดเซอร์ไพรส์
ดอร์ทมุนด์ 0-1 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
อ้นเดรียน ฮันเช่-โอลเซ่น ทำประตูให้ไมนซ์ หมายความว่าบาเยิร์นได้เปรียบ 2 สเต็ป ดอร์ทมุนด์เล่นกันเละเทะมาก การไม่มีจู๊ด เบลลิงแฮมในแดนกลาง ทำให้พวกเขาโดนไมนซ์แทงหลุด แทงหลุด กองหลังยืนกันมั่วไปหมด เหมือนพวกเขาไม่รู้ว่าต้องเล่นฟุตบอลยังไงในเกมที่กดดันแบบนี้
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาทีที่ 19 ดอร์ทมุนด์พลาดจุดโทษ
ดอร์ทมุนด์ 0-1 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
ราฟาเอล เกร์เรโร่โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ คนรับหน้าที่ยิงคือเซบาสเตียน ฮัลแลร์ คือถ้าดูจากฟอร์มที่ร้อนแรงอยู่ก็เข้าใจได้ แต่จริงๆ ดอร์ทมุนด์มีตัวยิงจุดโทษที่ดีมากๆ อย่างเอ็มเร่ ชานอยู่ทั้งคน ปราฏว่าฮัลแลร์ยิงพลาด ซัดไปตรงกลางเยื้องขวานิดๆ โดนโกล์ปัดได้สบาย พลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดายมาก
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 24 ไมนซ์นำ 2 เม็ด
ดอร์ทมุนด์ 0-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
อี แจ-ซัง ปีกเกาหลีใต้ของไมนซ์เล่นได้สุดยอดมากเกมนี้ เขาครอสบอลด้วยซ้าย ผ่านแผงหลังมาทุกคน ก่อนคาริม โอนิซิโว่ได้โหม่งเต็มๆ โคเบลปัดยังไงก็ไม่อยู่ ไมนซ์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกมานำ 2 ลูก
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาทีที่ 44 บาเยิร์นยิงเข้าแต่โดนริบสกอร์
ดอร์ทมุนด์ 0-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
ลีรอย ซาเน่ ยิงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม บาเยิร์นเหมือนจะนำห่างสบายๆ แต่กรรมการดูภาพย้อนหลัง ปรากฏว่ามีการแฮนด์บอลซาเน่ไปก่อนแล้ว กล้องวีดีโอจับภาพ ประธานสโมสรบาเยิร์น ไฮเนอร์ ตะโกนออกมาว่า "มาจูบตูดกูเถอะ" ทำให้บาเยิร์นยังนำอยู่แค่ 1 ลูกเท่านั้น
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
จบครึ่งแรก บาเยิร์นยังได้เปรียบมาก
ดอร์ทมุนด์ 0-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
สถานการณ์หลังจบครึ่งแรก ดอร์ทมุนด์ต้องยิงถึง 3 ลูกเพื่อแซงชนะ หรือไม่ก็ภาวนาให้โคโลญจน์ตีเสมอบาเยิร์น ซึ่งก็เป็นเรื่องยากทั้งสองอย่าง
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 69 ดอร์ทมุนด์ตีไข่แตกไล่มาหนึ่งเม็ด
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 0-1 บาเยิร์น
ครึ่งหลัง ดอร์ทมุนด์บุกจนไม่รู้จะบุกยังไงแล้ว มูโกโก้ซัดหลุดกรอบ, ฮุมเมลส์หาจังหวะยิงไม่ได้ ฯลฯ สารพัดครั้ง แต่สุดท้ายมายิงได้ 1 เม็ดจากราฟาเอล เกร์เรโร่ ชิ่ง 1-2 กับจิโอ เรย์น่า แล้วซัดชนเสาเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด เป็นการปลุกเร้ากองเชียร์ดอร์ทมุนด์ให้คึกคักขึ้น
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 80 ปาฏิหาริย์โคโลญจน์ช่วยดอร์ทมุนด์ แพะบ้าตีเสมอเสือใต้
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-1 บาเยิร์น
แซร์ช กนาบรี้ ทำแฮนด์บอล ตอนแรกกรรมการยาบล็อนสกี้ให้ฟรีคิก แต่พิจารณาอีกครั้งและเปลี่ยนมาให้จุดโทษแทน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ลูบิชิช เป็นคนยิง และเลือกยิงมุมซ้าย ยานน์ ซอมเมอร์ พุ่งไปผิดทาง สกอร์เสมอ 1-1 ถ้าผลเป็นแบบนี้ ดอร์ทมุนด์จะกลายเป็นแชมป์บุนเดสลีกา ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ชนะไมนซ์
แชมป์ Real Time : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
---------------------
นาทีที่ 89 ตัวสำรองมหัศจรรย์ มูเซียล่ายิงกู้ชีพเสือใต้
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น
ลีรอย ซาเน่ หลุดเดี่ยว ยิงไปติดเซฟโกล์โคโลญจน์ เหมือนว่าบาเยิร์นจะดวงแตกไปแล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ จามาล มูเซียล่า ตัวสำรองตะบันด้วยขวา บอลพุ่งวาบเสียบมุมขวาล่างเขาประตูไปอย่างเด็ดขาดสุดๆ นี่คือประตูสำคัญที่พลิกให้บาเยิร์น กลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง ถ้าหากลูกนี้ยิงไม่เข้า คงหมดกำลังใจไปแล้ว
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
หมดเวลาปกติ สองสนามทด 5 นาทีเท่ากัน
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น
ผู้ตัดสินสองสนาม ให้ทดเวลา 5 นาทีเท่ากัน โจทย์ของดอร์ทมุนด์คือต้องยิงสองลูก ส่วนบาเยิร์นขอแค่รักษาสกอร์ให้จบแบบนี้เป็นพอแล้ว
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาทีที่ 90+3 ดอร์ทมุนด์ยิงเข้าแต่ไม่ได้
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น
เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ฮีโร่ที่ยิง 5 ลูกจาก 3 เกมหลังสุด แต่เกมนี้เล่นพลาดเยอะมาก เขายิงเข้าประตูไป แต่ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ดอร์ทมุนด์ยังต้องการ 2 ลูกเหมือนเดิม
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 90+5 เกมที่โคโลญจน์จบ บาเยิร์นชนะ
ดอร์ทมุนด์ 1-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น (FT)
บาเยิร์น มิวนิค ประคองตัวเอง 5 นาที ไม่โดนยิงตีเสมอ ทำให้ชนะในเวลาไป 2-1 ตอนนี้รอแค่ผลการแข่งขันของอีกสนามเท่านั้น โดยโทมัส มุลเลอร์ หยิบเอามือถือ มาเปิดดูการแข่งขันอีกคู่ นักเตะทั้งทีมล้อมวงกันมาดู ว่าดอร์ทมุนด์จะพลิกชนะไมนซ์ได้หรือไม่
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 90+6 ประตูแห่งความหวังนิคลาส ซูเล่
ดอร์ทมุนด์ 2-2 ไมนซ์
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น (FT)
นิคลาส ซูเล่ กองหลังที่อยู่กับบาเยิร์นมา 5 ปีหลังสุด ยิงให้ดอร์ทมุนด์ตีเสมอไมนซ์ 2-2 สถานการณ์ตอนนี้ต้องการอีกแค่ลูกเดียวเท่านั้น เพื่อพลิกเป็นแชมป์ โดยกรรมการใจดีให้ทดเพิ่มอีก 1 นาที ความหวังยังมีอยู่
แชมป์ Real Time : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
นาที 90+7 อวสานดอร์ทมุนด์ หมดเวลาที่ซิกน่า อิดูนัล
ดอร์ทมุนด์ 2-2 ไมนซ์ (FT)
โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น (FT)
ดอร์ทมุนด์ใช้การโยนบอมบ์เข้าไปในเขตโทษ ดันผู้เล่นทั้งหมดเข้าไป แต่บอลไปไม่ถึงเป้าหมาย โดนไมนซ์เคลียร์ออกมาได้ ไม่มีปาฏิหาริย์เหมือนกุน อเกวโร่ กับแมนฯ ซิตี้ ในปี 2012 สุดท้ายหลังจากทดเจ็บครบ 7 นาที กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ผู้เล่นดอร์ทมุนด์ทรุดไปกองกับพื้น ผลเสมอ แปลว่าพวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับมาร์โก รอยส์ ที่ยังไม่สามารถได้แชมป์เมเจอร์สักครั้งในชีวิตต่อไป
แชมป์บุนเดสลีกา : บาเยิร์น มิวนิค
---------------------
[ บทสรุป ]
นี่คือ Finale Day ที่มันส์ที่สุดในรอบยี่สิบปีของบุนเดสลีกา พลิกไปพลิกมา มีโอกาสเป็นแชมป์ทั้งสองทีม แต่สุดท้ายบาเยิร์น ทำให้เห็นว่าพวกเขาคือยอดทีม เมื่อแบกรับแรงกดดันทั้งมวล เอาชนะได้ในเกมสุดท้าย ในนาทีสุดท้าย
ขณะที่ดอร์ทมุนด์ได้เปรียบทุกอย่างแท้ๆ ได้เล่นในบ้าน กับทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรอย่างไมนซ์ แต่กลับปิดเกมไม่ได้ และพลาดง่ายๆ บ่อยมาก จึงลงเอยด้วยการผิดหวังอีกหนึ่งปี
แน่นอน การได้แชมป์สมัยที่ 11 ของบาเยิร์น มิวนิค อาจไม่ตรงใจคนที่เชียร์มวยรอง อยากเห็นสโมสรอื่นได้แชมป์บ้าง แต่ในเกมฟุตบอล ทีมที่จะเป็นแชมป์ลีก คือทีมที่สม่ำเสมอ และเยือกเย็นที่สุด ซึ่งบาเยิร์น มิวนิคคือทีมนั้น ดังนั้นคุณก็ต้องให้เครดิตพวกเขาเช่นกัน
ถ้าเป็นทีมที่ไม่นิ่งพอล่ะก็ ตอนโดนตีเสมอนาที 80 แล้วมีเสียงปลุกเร้าจากแฟนๆ โคโลญจน์ที่เชียร์ดอร์ทมุนด์ออกนอกหน้ามากๆ อาจจะเป๋ อาจจะแกว่งไปแล้ว แต่บาเยิร์น ก็คือบาเยิร์น พวกเขาสุดยอดจริงๆ และพลิกแซงได้อีกครั้ง จนคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในที่สุด
โทมัส ทูเคิล มีแชมป์ทันทีตั้งแต่ปีแรก ลดแรงกดดันไปได้เยอะ ขณะที่ "บราสโซ่" ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการกีฬาของทีมเสือใต้ ก็สะใจสุดๆ เช่นกัน เพราะถ้าไม่มีแชมป์ติดมือสักรายการล่ะก็ เขาโดนไล่ออกแน่
90 นาทีแห่งความเร้าใจในบุนเดสลีกาก็จบลงในที่สุด สุดท้ายบาเยิร์น เป็นแชมป์อีกสมัย
เป้าหมายต่อไปของบาเยิร์น สามารถมองถึง การเป็นแชมป์ลีกติดต่อกันยาวนานที่สุดในโลก เทียบเท่ากับทีม ทาเลีย จากประเทศวานูอาตู ที่ทำไว้ 15 ซีซั่นติดต่อกัน ตอนนี้พวกเขาทำไปแล้ว 11 สมัย การไปถึงสถิติโลก ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้
ขณะที่ดอร์ทมุนด์เอง ก็ต้องมาดูว่าปีหน้า ถ้าจู๊ด เบลลิงแฮมย้ายไปแล้ว ทีมจะระส่ำหรือไม่ ขณะที่มาร์โก รอยส์ เหลือสัญญากับดอร์ทมุนด์อีกแค่ 1 ปี เขาอาจจะกลายเป็นราชาไร้มงกุฏตลอดอาชีพการเล่นก็เป็นได้
ฤดูกาล 2022-23 ของบุนเดสลีกาจบลงแล้ว สุดท้ายไม่ว่าคุณจะชอบตอนจบหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า บาเยิร์น มิวนิค สม่ำเสมอมากกว่าใคร เป็นทีมที่ยิงได้มากสุด เสียน้อยสุด และเมื่อมีความเขี้ยวมากที่สุด พวกเขาก็สมควรเป็นแชมป์บุนเดสลีกาอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
