28 พ.ค. 2023 เวลา 10:11 • ปรัชญา

คนเราเกิดมาทำไม

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในคำถามก่อนว่า
"เกิดมาทำไม กับเกิดมาแล้วจะทำยังไง" เป็นคนละคำถามกัน
ซึ่งผมเคยสับสนมานาน จนตอบคำถามที่ว่า เราเกิดมาทำไม
ด้วยคำตอบของคำถามที่ว่า เกิดมาแล้วจะทำยังไง
ผมเข้าใจผิดในคำถามของตัวเองมาตลอด
จนเอาคำตอบที่ว่าเกิดมาทั้งทีต้องเอาดีให้ได้
ต้องมีบ้าน มีรถ มีครอบครัวที่ดี ได้เลี้ยงลูกตามที่หวัง
มีธุรกิจ มีร้านเป็นของตัวเอง
พูดง่ายๆ คือมีปัจจัย 4 บนอิสรภาพทางการเงิน
จนวันนึง ด้วยความที่วางแผนไว้อย่างเป็นขั้นตอน
ทำให้เริ่มสำเร็จไปทีละอย่าง
ความสงสัยในคำถามที่ว่า "เราเกิดมาทำไม" ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย
เพราะเท่าที่เห็นคนเราก็แทบจะมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่คล้ายกัน
ทำให้ผมต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อที่จะได้ตอบคำถามที่คาใจนี้
เราเกิดมาทำไม?
และไม่ได้ศรัทธากับชาติหน้าอีกต่างหาก
เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำอะไรอีก ชาตินี้ยังไม่รู้เลยว่าเกิดมาทำไม
ถ้ามองในแง่ศาสนา
นรกก็ไม่ได้อยากไป สวรรค์ก็ไม่ได้อยากไป
ยิ่งพอคิดว่าเกิดมาแล้วต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ก็ยิ่งไม่อยากเกิดมาอีก
เพราะไม่มีใครสุขได้ตลอด ทุกข์มันต้องมาเสมอ
ส่วนเรื่องที่ต้องทำจริงๆ
พูดง่ายๆ คือเวลาทำอะไรที่อยากทำ
พอทำสำเร็จแล้วมันก็เบื่อ
พอเบื่อก็ต้องหาอะไรทำใหม่ไปเรื่อยๆ วนๆ อยู่แบบนี้
จนคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากมาเกิดอีกแล้ว
คำว่าไม่อยากกลับมาเกิดอีกแล้วนี่แหละ
กลายเป็นสารตั้งต้นเลย
ว่าทำยังไงที่จะไม่ต้องมาสุขมาทุกข์แบบวนลูปอยู่อย่างงี้
ถ้าการทำดีจะทำให้เรารู้สึกดี และได้ขึ้นสวรรค์
การทำชั่วจะทำให้เราไปนรก
แล้วทำยังไงที่จะไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว
แบบว่าให้มันจบที่รุ่นนี้ ชาตินี้สักที!
จนได้พบกับคำว่า "นิพพาน"
ซึ่งเป็นคำที่ได้ยินบ่อยนะในพุทธศาสนา
อย่างไปนิพพาน ผมก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งหรอก
แต่อธิบายง่ายๆ คือถ้าชีวิตคือการเล่นเกม
ชนะก็ได้ขึ้นสวรรค์ แพ้ตกนรก
นิพพานคือการออกจากเกม ไม่ต้องเล่นอีก
พอได้ยินคีย์เวิร์ดแบบนี้ ก็เกิดสนใจขึ้นมาว่ามันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ
แต่ก็มีคำถามอีกว่าถ้าไปนิพพานแล้วจะรู้ได้ไงว่าออกจากเกมจริงๆ
พอมีคำถามแบบนี้ จะเริ่มสับสนว่าไปยังไง
ก็จะพบคำถามอีกว่า
แล้วรู้ได้ไงว่าจะได้ไปสวรรค์หรือนรกจริงๆ
นี่แหละคือคำตอบ เพราะยังไม่มีใครในปัจจุบันที่ได้ไปจริงๆ
ต่อให้เขาได้ไปจริงแล้วมาพิสูจน์ให้ดู
มันก็ไม่ได้เห็นภาพได้ด้วยตาเนื้อ
หรือสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรา
นั่นหมายความว่าเราต้องเลือกเอาสักทาง
หรือไม่ก็เลือกที่จะมีความสุขกับชาตินี้ให้มันจบๆ ไป
ถ้าเลือกทางนี้ให้ย้อนกลับไปอ่านด้านบนบนใหม่
ก็หมายความว่าเราก็ต้องวนกลับมาเกิดใหม่เรื่อยๆ แบบนี้เหรอ
คือมันก็ต้องสุขหรือทุกข์วนไปวนมาแบบนี้
ซึ่งไม่อยากที่จะต้องมาวนเวียนแบบนี้อีก
เลยตัดสินใจที่จะค้นหาคำตอบนี้ด้วยการเริ่มจากคำว่า "นิพพาน"
เริ่มทั้งที่ไม่เอาเรื่อง "ศาสนา" เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ก็มีหนังสือหรือแหล่งข้อมูลไม่กี่แหล่ง
ที่อธิบายการไม่ต้องกลับมาเกิดอย่างเป็นรูปธรรม
จนในที่สุดต้องตัดสินใจใช้หลักการทางศาสนา
โดยที่เปิดใจรับทุกแหล่งทุกศาสนาเท่าที่เวลาพอจะอำนวย
จากประสบการณ์คนเคยเป็นพุทธตามครอบครัว
เป็นเกิดความสงสัยว่าทำไมต้องนับถือพุทธ
จนเกิดคำถามว่าทำไมเราต้องไหว้รูปปั้น หรือพระสงฆ์เสื่อมลง
ผมตัดสินใจเลิกนับถือพุทธศาสนา เพราะไม่พบเหตุผลที่ผมจะยอมรับได้
จนในที่สุดกลายเป็น Atheist หรือคนไร้ศาสนา
หันมานับถือสิ่งที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์
แต่ช่วงเวลาที่ไร้ศาสนา
ได้เปิดใจศึกษาหลากหลายศาสนาเท่าที่รู้จัก
เพื่อที่จะได้หาจุดเชื่อมโยงว่า ทำไมคนเราจึงควรมีศาสนา
และศาสนามีไว้ทำอะไรในชีวิต
พอได้เรียนรู้มากเข้าก็พบว่าแต่ละศาสนาก็ดีทั้งนั้น
แต่เราควรนับถือศาสนาไหม?
ตอบตรงนี้ตามความรู้เลยว่า แล้วแต่จุดประสงค์
ใครอยากไปสวรรค์ ใครอยากไปนรก
ใครไม่อยากเกิดอีก ก็เลือกเอา
หรือจะใช้ชีวิตแบบไม่มีศาสนาก็ย่อมได้
ถ้ามีแล้วมันหนักสมอง
ถามว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าศาสนาไหนจะพาไปไหน
ผมไม่รู้ เพราะผมก็ไม่เคยตาย
แต่ที่รู้แน่ๆ คือเดี๋ยวก็สุข แล้วก็ทุกข์
เราไม่อาจรั้งความสุขไว้ได้
ถึงจะรั้งไว้ได้ ความสุขถ้ามันไม่เพิ่มขึ้น
มันจะกลายเป็นความธรรมดา และน่าเบื่อ
จนในที่สุดก็เป็นความทุกข์ มันแปลงสภาพอยู่เสมอ
ส่วนตัวเลยเลือกทางที่จะได้เข้าใจ
ทุกสิ่งตามความเป็นจริงที่มันเป็นอยู่
รู้ว่าทุกข์ก็รู้ว่าทำไมถึงทุกข์ รู้ว่าสุขก็รู้ทำไมถึงสุข
และขอบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อน
แต่ถ้ารู้แล้วไม่ว่าเรื่องสุขหรือทุกข์ใดๆ ก็จะถูกเฉลย
พอเข้าใจมันก็จะเข้าสู่ความวางเฉยและสงบ
จนถึงตอนนี้ถ้าถามผมว่า เกิดมาทำไมเหรอ
คำตอบของผมคงแบ่งเป็นสองทางคือ
การเดินทางจากภายนอก คือปัจจัย4 กับครอบครัว บนอิสรภาพทางการเงิน
กับการเดินทางจากภายใน คือ ไม่กลับมาเกิดอีก
และการเดินทางจากภายใน ทำให้ผมได้เจอกับตัวเอง
คนที่มองโลกและตัวเองตามความเป็นจริง
มีสุขเข้าใจว่าสุขเป็นยังไง มีทุกข์เข้าใจว่าทุกข์เป็นยังไง
ส่วนถ้าถามผมว่าเกิดมาทำไมหรอ?
เกิดมาเพื่อ ไม่กลับมาเกิดอีก
โฆษณา