AIR : A story of greatness
แผนล่าลายเซ็นยอดตำนาน
Air หนังตำนานธุรกิจการดีลครั้งสำคัญของธุรกิจรองเท้ากีฬาสนีกเกอร์ สร้างโดยบริษัท Artists Equity ก่อตั้งโดยเพื่อนคู่หู เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) และ แมตต์ เดมอน (Matt Damon) กำกับโดย เบน เอฟเฟล็ก และทั้งคู่นำแสดงเองด้วย
เรื่องราวการทุ่มสุดตัวของบริษัทไนกี้ โดยการนำของ ซันนี่ แวคคาโร่ (แมท เดม่อน) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด อดีตโคชบาสเกตบอลโรงเรียนมัธยม หน้าที่C.S.R.และแมวมองการแข่งขันบาสเกตบอลในโรงเรียนมัธยม ผุ้ชอบเสี่ยงโชคในการพนัน เพื่อคว้าตัวรุกกี้หรือนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ของ NBA ในปี 1984 ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) เพื่อให้มาเซ็นสัญญากับบริษัทให้ได้
ในปี 1984 ส่วนแบ่งการตลาดของรองเท้าบาสเกตบอลนั้น
Converse เป็นเจ้าตลาดอยู่ 54% Adidas ครองเป็นที่สอง 29% ส่วนNike 17% ซันนี่ผู้มีสายตาเฉียบคมมองว่าไนกี้ต้องยอมทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อเอาไมเคิล จอร์แดนมาเป็นพรีเซนเตอร์ของไนกี้ให้ได้จึงจะสามารถชิงเค้กการตลาดก้อนใหญ่มาได้ ขัดแย้งกันกับ ฟิลลิปส์ เอช ไน้ท์ (เบน เอฟเฟล็ค) C.E.O.และผู้ก่อตั้งไนกี้ ที่เห็นว่า ไม่ควรทุ่มทุนไปกับรองเท้าบาสเกตบอลที่มีลูกค้าเป้าหมายน้อยกว่ารองเท้าวิ่งที่ไนกี้เชี่ยวชาญกว่า
หนังเปิดตัวด้วยภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆในยุค80 ภาพข่าวประธานาธิบดีเรแกน ประชาชนแสดงความยินดีกับการประสูติพระราชโอรสของเจ้าหญิงไดอาน่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ล เบรคแด้นซ์ แอโรบิคกับเจน ฟอนด้า ประกอบด้วยเพลง Money for nothing ของ Dire straits และหนังจบด้วยเพลง Born in the U.S.A. ของBruce Springsteen
ตลอดเรื่องหนังจะคลอไปด้วยเพลงดังๆในยุคนั้นอย่าง Time after time ของ Cyndi Lauper
Sirius ของ The Alan Parsons Project
เพลงประกอบวีดิโอพรีเซนเตชั่นของไนกี้ I Can Dream About You ของ Dan Hartman จากอัลบั้มซาวน์แทรกของภาพยนต์เรื่อง Streets of Fire และอีกหลายๆเพลงฮิตสมัยนั้น
หน้าตาอาคารสถาปัตยกรรมแนวโมเดิร์นของบริษัทผู้นำด้านสปอร์ตแวร์ทั้งสามบริษัท รวมทั้งงานตกแต่งภายใน ฝ้าทีบาร์ พื้นไม้ปาร์เก้ ผนังกรุไม้อัดและกราฟฟิกตกแต่งผนัง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น รวมไปถึงพร้อปประกอบฉากอย่างชั้นวางขายฟิล์มโกดักในร้าน7/11 เกมส์กด เทปคาสเซ็ต เกมส์รูบิด คอมพิวเตอร์จอตู้ ช่วยสร้างบรรยากาศสมจริงยิ่งขึ้น
หนังสร้างจากเรื่องจริง ดำเนินเรื่องตรงๆไปตามลำดับไม่มีการตัดสลับภาพไปมากรือหักมุมใดๆ แต่การเขียนบทที่เฉียบคม มีมุกขำแทรกอย่างทึ่มาของคำขวัญ Just do it หรือ ค่าออกแบบโลโก้Nike
ตัวแสดงทุกคนเล่นดี ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะวิโอลา เดวิส (Viola Davis)รับบท โดลอเรส จอร์แดน แม่ของไมเคิล จอร์แดน ผู้เป็นตัวแทนจัดการทุกอย่างให้ลูกชาย ส่วนตัว ไมเคิล จอร์แดน เองนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง หนังจะใช้มุมกล้องบังไม่ให้เห็นหน้าชัดเจน มีแต่ฟุตเตจตัวจริงตอนจบเท่านั้น
ตัวละครที่สำคัญอีกคน ปีเตอร์ มัวร์ (แมตธิว เมเฮอร์)ผู้ออกแบบรองเท้า Air Jordan รุ่นแรกและโลโก้จัมป์แมน) ซึ่งรูปกายภายนอกเป็นตาลุงหัวล้านที่ชอบไถสเก็ตซ์ แต่ภายในแกเป็นนักออกแบบที่ทุ่มพลังกายพลังใจให้กับงานออกแบบรองเท้าบาสเกตบอลที่แกรักเท่าชีวิต
นับเป็นภาพยนต์ที่ดีมากเรื่องหนึ่งทั้งในแง่ความสนุกน่าติดตามและข้อคิดว่าในบางครั้งการตัดสินใจบางเรื่องก็ต้องอาศัยความกล้าที่จะเสี่ยง ถ้ามั่นใจในข้อมูล ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เพียงพอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าจะคุ้ม อย่างที่ ฟิล C.E.O.ของไนกี้พูดไว้ว่า ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราก็ได้สนุกกับมัน
#primevideo
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
