7 มิ.ย. 2023 เวลา 02:00 • ข่าวรอบโลก

เจ้าหน้าที่อินเดียปล่อยน้ำออกหมดเขื่อน หลังเซลฟีแล้วทำโทรศัพท์ตกน้ำ

การพลาดพลั้งทำโทรศัพท์ตกระหว่างเซลฟีเป็นเรื่องที่เกิดกันเป็นปรกติ ในวันที่ผู้คนใช้มือถือถ่ายรูประหว่างไปเที่ยว แล้วโทรศัพท์หลุดมือตกไปในโถส้วมบ้าง ตกลงน้ำบ้าง แต่กรณีของนายราเยช วิชวัช (Rajesh Vishwas) ชาวอินเดีย นั้นเกิดอะไรขึ้น? ทำไมการทำโทรศัพท์มือถือตกเขื่อนกลับเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายราเยช วิชวัช เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบอาหารชาวอินเดีย วัย 32 ปี เป็นชาวรัฐฉัตติสครห์ เดินทางไปปิกนิกกับเพื่อน ๆ ที่อ่างเก็บน้ำปารัลคอต และระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่นั้น วิชวัชก็หยิบโทรศัพท์ Samsung Galaxy S23 Ultra ขึ้นมาเซลฟี แต่แล้วโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเขามูลค่ากว่า 40,000 บาท ก็พลาดหลุดมือตกลงไปในเขื่อน
4
ถ้าเป็นเราก็คงต้องทำใจล่ะ แต่ไม่ใช่กับนายวิชวัช เพราะเขาใช้วิธีระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อจะเก็บโทรศัพท์คืนมา ซึ่งนายวิชวัชให้เหตุผลว่า โทรศัพท์ของเขามีข้อมูลเกี่ยวกับงานที่สำคัญ
3
ในขั้นแรกนั้น นายวิชวัชไปจ้างชาวบ้านมา 2-3 คน ให้ดำน้ำลงไปหาโทรศัพท์เขา แต่ผ่านไป 2 วันแล้วก็ยังหาไม่เจอ เขาจึงดำเนินการขั้นต่อไป ด้วยการไปเช่าเครื่องสูบน้ำดีเซลมา แล้วสูบน้ำออกไปจากเขื่อนให้ลดลงไปประมาณ 90 ซม. ภายในเวลา 2 วัน มีการประเมินว่าน้ำที่นายวิชวัชสูบออกไปนั้น สามารถใช้ประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตรได้มากถึง 3,700 ไร่เลยเชียว
2
คราวนี้ล่ะ วีรกรรมของนายวิชวัชก็กลายเป็นข่าวใหญ่ มีนักข่าวและสถานีโทรทัศน์มาทำข่าวนายวิชวัชกันมากมาย ซึ่งนายวิชวัชก็แก้ต่างว่า เขาไม่ได้กระทำการโดยพลการ แต่ได้รับการอนุญาตทางวาจาแล้วจาก “อาร์.ซี. ธิวาร์” เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำ ผู้มีอำนาจสั่งการในพื้นที่ ซึ่งนายวิชวัชอ้างว่า นายธิวาร์ก็ยังเห็นชอบด้วย แล้วยังบอกกับเขาว่า “ก็ดีนะ ได้เป็นประโยชน์กับชาวไร่ชาวนาอีกด้วย” ซึ่งในที่สุด นายวิชวัชก็ได้โทรศัพท์เขาคืนมา แต่มันก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
5
แต่พอเรื่องราวการเก็บกู้โทรศัพท์บันลือโลกนี้เป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา นักข่าวก็ไม่สามารถติดต่อนายวิชวัชและนายธิวาร์ได้อีกเลย จึงมีการสืบสาวเรื่องราวไปยังนางปริญานกา ชุกลา ผู้พิพากษาประจำเขตดังกล่าว ซึ่งเธอก็ยืนยันว่า นายวิชวัชในมีสิทธิ์ในการระบายน้ำออกจากเขื่อน ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ซึ่งนายวิชวัชก็ได้รับบทลงโทษด้วยการถูกปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่ชั่วคราว ในข้อหาที่ว่า “ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด”
1
ส่วนนายธิวาร์ที่ให้อนุญาตนายวิชวัชดำเนินการดังกล่าวก็โดนหางเลขไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกคำสั่งให้นายธิวาร์ส่งรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 2 วัน ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่านายธิวาร์จะถูกลงโทษทางวินัย
1
เรื่องราวของนายวิชวัชบานปลายกลายเป็นเรื่องราวในระดับการเมือง เมื่อนักการเมืองบางคนก็หยิบกรณีนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหาร เช่น นายรามัน ซิงห์ ผู้นำจากพรรคภารติยะชนตะ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้ทวีตว่า “ในวันนี้ท่ามกลางความร้อนระอุที่แผดเผา ผู้คนต่างก็ต้องพึ่งพาน้ำจากเขื่อน แต่กลับไม่มีการจัดการให้แม้แต่น้ำจะดื่ม”
1
นายวิชวัชก็ออกมาแย้งข้อความโจมตีดังกล่าวว่า ข้อมูลที่ว่ามานั้นเกินจริงไปมาก ซึ่งเขาอ้างว่าน้ำในเขื่อนปารัลคอตนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อการชลประทานเสียด้วยซ้ำ ซึ่งแย้งกับข้อมูลของนางชุกลาที่ยืนยันว่า ชาวนาในท้องถิ่นนั้นต่างต้องพึ่งพาน้ำจากเขื่อนเพื่อการทดน้ำในการทำไร่นา และยืนยันจะดำเนินการเอาผิดนายวิชวัชอย่างถึงที่สุด
2
“น้ำปริมาณขนาดนั้นสามารถใช้เพื่อการชลประทานกับพื้นที่กว่า 3,700 ไร่ได้เลย และเขาจะต้องรับผิดชอบกับการที่ระบายน้ำทิ้ง เรื่องนี้มันเกินกว่าจะยอมความได้” ผู้นำจากพรรคภารติยะชนตะทวีต
1
ทั้งนี้ อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ขาดแคลนน้ำมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังประสบกับคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งครั้งใหญ่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
4
โฆษณา