29 พ.ค. 2023 เวลา 07:04 • ธุรกิจ

สรุปความกังวลของตลาดทุน เมื่อ ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ อาจเป็น รมว.คลังคนต่อไป

แม้การเลือกตั้งจะผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว (15 วันนับตั้งแต่ 14 พ.ค. 2566) แต่ดูเหมือนการจัดตั้งรัฐบาลจะยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่าง ‘กระทรวงการคลัง’
4
อย่างไรก็ตาม กระแสล่าสุดดูเหมือนจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล น่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนถัดไป
สำหรับนักลงทุน ‘ตลาดทุน’ โดยเฉพาะ ‘ตลาดหุ้น’ ไม่ชอบ ‘ความไม่ชัดเจน’ ดังนั้น อะไรก็ตามที่มีความ ‘ชัดเจน’ แล้ว ย่อมเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นทั้งสิ้น
แต่ถึงประเด็นว่าที่ รมว.คลังจะมีความชัดเจนมากขึ้น ตลาดหุ้นกลับไม่เลือกขึ้นตามความชัดเจนที่ออกมา โดยทรงตัวในช่วง 1,510-1,540 จุดอย่างต่อเนื่อง แถมระหว่างทางยังหลุดลงมาทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1,491.12 จุดด้วย
[ นโยบายพรรคทำร้ายตลาดทุน ]
‘วิจิตร อารยะพิศิษฐ’ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด อธิบายว่า การปรับตัวลงของตลาดทุน มาจากความกังวลต่อนโยบายของว่าที่ รมว.คลังคนใหม่
หากว่าที่ รมว.คลังมาจากพรรคก้าวไกลตามที่เป็นกระแส พบว่า นโยบายส่วนใหญ่มีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เช่น นโยบายขึ้นค่าแรง ซึ่งพรรคประกาศจะขึ้นทันทีใน 100 วันแรกหลังตั้งรัฐบาล
เมื่อเทียบกับนโยบายค่าแรงในอดีต เช่น การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทของพรรคเพื่อไทย พบว่า ครั้งนั้นใช้ระยะเวลากว่า 1 ปี รวมถึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนขึ้นค่าแรง (ลดภาษีนิติบุคคล)
1
นอกจากนโยบายขึ้นค่าแรงภายใน 100 วันแล้ว พรรคก้าวไกลยังมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำระหว่างภาษีนิติบุคคลและภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย จากปัจจุบันที่ 20% ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำร้ายตลาดพอสมควร
1
[ เก็บภาษีหุ้นกระทบสภาพคล่อง ]
อีกหนึ่งนโยบายคือ การเก็บ ‘ภาษีหุ้น’ ในรูปแบบ Capital Gain Tax หรือภาษีหุ้นที่เก็บจากกำไร ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพคล่อง (Liquidity) เป็นการผลักนักลงทุนออกไปลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ
สุดท้ายคือ นโยบายทลายกลุ่มทุน ซึ่งทางพรรคฯ ยังประกาศชัดเจนในเวทีต่างๆ ทำให้โดยรวมแล้วนโยบายของพรรคก้าวไกลค่อนข้างกระทบและเป็นความเสี่ยงต่อตลาดทุน
2
‘แม้จะลดความเหลื่อมล้ำของคนด้านล่างได้ แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ได้ ราคาขายไม่ได้ ใส่ต้นทุนเข้ามาไม่ได้ ธุรกิจเจอแบบนี้ก็เหนื่อย ถ้าไม่มีนโยบายรองรับ’
4
[ ‘เพื่อไทย’ ความหวังนักลงทุน ]
1
เมื่อถามถึงกรณีพรรคร่วม เช่น พรรคเพื่อไทย หากมีโอกาสได้เป็น รมว.คลัง นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดหุ้นยังไม่ได้ตอบรับ (Price in) ว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้เก้าอี้เลยทีเดียว
จากโมเมนตัมเชิงบวกในวันที่มีกระแสข่าวว่า ‘ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ รองนายกรัฐมนตรี จะลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อร่วมกับเพื่อไทย
1
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีจุดแข็ง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่สูงกว่า นักลงทุนเชื่อมั่นในมาตรการมากกว่า แม้บางมาตรการจะเป็นมาตรการประชานิยม รวมถึงเล่นเกมการเมืองค่อนข้างเก่ง เป็นต้น
[ นักวิเคราะห์แห่ปรับกำไร บจ. ]
สำหรับการลงทุน ในกรณีฐาน (Base Case) หลังจากกระแสข่าวว่าที่ รมว.คลังจะมาจากพรรคก้าวไกล ส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการกำไร บจ.ปีนี้
โดยคาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาดหุ้นไทยจะอยู่ที่ 95 บาทต่อหุ้น ราคาต่อกำไร (P/E) จะอยู่ที่ 16 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้เป้าหมายดัชนี SET (SET Index) ปีนี้ อยู่ที่ 1,600 จุดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลเดือน ส.ค. คาดว่านโยบายต่างๆ ของพรรคจะเริ่มส่งผลกระทบปีหน้า ส่วนปีนี้คาดว่านักลงทุนจะยัง Price in เรื่องจัดตั้งรัฐบาลและการเบิกงบประมาณที่ล่าช้ามากกว่า
1
[ กลยุทธ์การลงทุนในวันที่ตลาดแดง ]
ปัจจุบันมีความเสี่ยงที่กระทบตลาดหุ้นทั้งจากภายใน (การเมืองในประเทศ) และภายนอก (เพดานหนี้สหรัฐ เงินเฟ้อ และการขึ้นดอกเบี้ย) ดังนั้น การลงทุนไม่ควรไล่ราคาในวันที่ตลาดบวก
โดยกลยุทธ์ที่แนะนำคือ การลงทุนในวันที่ตลาดมีโมเมนตัมเชิงลบ หรือกำไรเป็นขาลง เพราะช่วงที่ผ่านมา SET Index มักรีบาวด์ทุกครั้งหลังจากติดลบ แนวรับที่แนะนำคือ 1,500 จุด หรือต่ำกว่า
1
สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำ ยังเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) ได้แก่ ท่องเที่ยว ค้าปลีก ธนาคาร และสื่อสาร แนะนำย่อซื้อ รวมถึงหุ้นที่มีข่าวถูกกระทบจากนโยบาย เช่น GULF ฯลฯ คาดว่านโยบายจริงจะไม่กระทบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมากนัก
1
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY
โฆษณา