31 พ.ค. 2023 เวลา 12:09 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานเรื่องที่4:รถเมย์รับส่งวิญญาณ

นานมาแล้ว
เราต่างเล่าขานถึงรถเมย์ปริศนาที่คอยรับส่งเหล่าวิญญาณที่ไร้ที่ไป ให้ไปสู่ปลายทางที่เขาคู่ควร ไม่ว่าจะบ้าน สถานที่ที่อยากอยู่ หรือแม้กระทั่งอีกโลกหนึ่ง รถเมย์นี้เหล่าผู้คนปกติจะไม่มีทางเห็น เว้นเสียแต่คนกำลังจะตายหรือไม่ก็วิญญาณที่ไร้ที่ไป
ทว่ากลับมีเด็กสาวคนนึงที่เห็นรถเมย์คันนี้ เธอไม่ได้กำลังจะตายหรือเป็นวิญญาณที่ไร้ที่ไป แต่เธอคือคนปกติที่มองเห็นรถคนนี้ ไม่รู้เหตุอันใดที่เด็กสาวผู้นี้เห็น
เด็กสาวยืนรอรถเมย์ปริศนาที่กำลังเคลื่อนมาจอดที่ป้ายรถเมย์ เมื่อประตูได้เปิดขึ้น เหล่าวิญญาณมากหน้าหลายตาที่อยู่ข้างเธอ ก็มุ่งหน้าขึ้นรถเมย์ไป แทนที่เด็กสาวที่เห็นภาพตรงหน้าจะกลัวแล้วหนีจากไป แต่เธอกลับเลือกที่จะขึ้นตามเหล่าวิญญาณผู้ไร้ที่ไปแทน
ไม่นานเธอก็อยู่บนรถเมย์แล้ว ตอนนี้ที่นั่งเหลือไม่กี่ที่ เธอเลือกที่จะเดินไปนั่งที่ข้างหลังสุดริมหน้าต่าง
หลังจากที่หย่อนก้นลงที่เบาะรองนุ่มๆ ของเก้าอี้ รถเมย์ก็ได้เคลื่อนตัวออกจากป้ายรถเมย์
เด็กสาวมักจะได้ยินเสียงสนทนาของวิญญาณผู้ไร้ที่ไปพูดคุย ถึงเรื่องสถานที่ที่ตัวเองต้องการลง และบางที่ก็พูดกับเธอด้วยแต่เธอก็ไม่ได้ตอบกลับ
"ฉันว่าจะลงไปบ้านเก่าของฉัน"
"ส่วนฉันจะไปยังสวนสาธารณะที่ฉันเคยไปตอนเด็ก"
"ฉันอาจไปที่โลกหน้าละมั้งนะ"
"แล้วเด็กอย่างเธอจะไปที่ไหนล่ะ" วิญญาณหญิงชราที่นั่งข้างเด็กสาวถาม
นี่ก็เป็นประโยคที่เธอได้ยิน เธอเป็นเพียงแค่มนุษย์คนเดียวที่ไม่รู้ที่ไป ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ไปเพื่ออะไร มีชีวิตอยู่เพื่อใคร แล้วก็ต้องการอะไรกันแน่
"หนูไม่รู้ บางทีอาจจะนั่งไปอย่างเรื่อยๆ" เด็กสาวตอบวิญญาณหญิงชราไป
"นั่งไปเรื่อยๆ เหรอ" วิญญาณหญิงชราตกใจเล็กน้อย "จะนั่งไปเรื่อยเปื่อยได้ไง ต้องมีจุดหมายปลายทางสิ"
แต่เหมือนหญิงชราจะจับสังเกตุอะไรได้บางอย่าง เพราะเด็กสาวเหมือนไม่ใช่วิญญาณเลยแม้แต่น้อย
"และอีกอย่างเธอคือมนุษย์รึ"
เด็กสาวไม่ตอบ ทำได้แค่พยักหน้า พร้อมกับคิดว่าเธออาจจะเป็นตัวประหลาดแปลกแยกเหมือนเคย เหมือนกับตอนอยู่โรงเรียนไม่มีผิด
แต่ทว่าไม่เหมือนที่เธอคิด แทนที่จะมีเสียงตกใจหรือประหลาดใจ กลับเงียบลงราวกับว่ารถเมย์คันนี้ไม่มีเคยมีเสียงพูดมาก่อน
"นานแล้วไม่เคยเห็นคนเป็นๆ ขึ้นมาบนรถคันนี้มาก่อน" วิญญาณหญิงชราดันแว่นขึ้น
"คนเป็นขึ้นรถคันนี้มาได้ด้วยเหรอคะ" เด็กสาวถามไป "ตอนแรกหนูก็นึกว่ารถเมย์ปกติ แต่พอขึ้นมาก็ว่าไม่ใช่แล้ว"
"ได้สิ ถ้าเกิดคนเป็นรู้สึกหมดหวังกับการมีชีวิตอยู่บนโลกก็จะเห็น"
"ก็แสดงว่า" เด็กสาวเงียบลงไปชั่วครู่ "คงจะหมดหวังกับการมีชีวิตอยู่แล้วสินะคะ"
วิญญาณหญิงชราไม่ตอบอะไรมาก เธอสังเกตุว่าเด็กสาวดูจะหมดอาลัยตายยากกับชีวิตที่มีอยู่ และเธอก็เหมือนจะรู้ว่าเด็กสาวกำลังต้องการอะไรสักอย่างในชีวิต
"แม่หนู เคยมีเพื่อนรึเปล่าจ๊ะ" วิญญาณหญิงชราถาม
"เคยมีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว"
"เคยมีสินะ แล้วทำไมถึงได้ไม่มีแล้วเหรอ พอจะบอกได้ยายไหม ยายสามารถรับฟังหนูได้นะ"
เด็กสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวของเธอ
"เรื่องตลกของหนูคือหนูเคยมีเพื่อนสนิท แต่คนสนิทคนนั้นกลับหักหลังแล้วทำให้หนูกลายเป็นคนไร้เพื่อน" เด็กสาวนิ่งไปชั่วครู่ "และเรื่องตลกต่อมาคือ ทั้งโรงเรียนหนูอิจฉาคนที่มีเพื่อนสนิท อิจฉาแม้กระทั้งเพื่อนสนิทที่หักหลังแต่ก็ยังมีเพื่อน"
วิญญาณหญิงชราได้ยินก็ถึงกับซ็อก เธอไม่นึกมาก่อนว่าจะมีเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
"แบบนั้นเองสินะ" หญิงชรายังคงใจเย็น "แล้วแม่หนูมีความทรงจำอะไรดีๆ บ้างไหม"
"จะถามไปทำไมงั้นเหรอคะ ตอนนี้หนูกลายเป็นคนที่ลืมอะไรดีๆ ไปหมดแล้ว"
"เอาน่า ลองนึกดีๆ สิ" วิญญาณหญิงชรายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน "คนเราน่ะนะ ถึงแม้จะสิ้นหวังก็อาจมีหวังเล็กๆ อยู่นะ"
เพราะคำพูดของหญิงชราทำให้เด็กสาวรู้สึกแปลกๆ นี่เหมือนคำพูดของใครสักคน ที่เธอคุ้นเคยแต่เหมือนลืมไปแล้ว แต่เด็กสาวก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
เธอหลับตาลงแล้วย้อนนึกถึงความทรงจำดีๆ ของเธอ เธอยังจำได้ถึงตอนที่แม้จะผิดหวังจากอะไรก็ตามแต่ ก็ยังมีคุณยายคอยให้กำลังใจ เธอยังจำได้ในตอนที่ย้ายโรงเรียนครั้งแรก ก็มีคุณยายที่คอยทำให้เธอกล้าที่จะไป และอะไรต่างๆ เกี่ยวกับคุณยาย
เมื่อเด็กสาวลืมตาขึ้นมา เธอก็รู้สึกถึงสายลมอุ่นๆ ที่พัดผ่านหน้าเธอไป และเธอก็ได้ยินเสียงที่เหมือนคุ้นเคยลอยแว่วมาตามสายลมว่า
"ถึงแม้สิ้นหวังจนอยากจะหายไปจากโลก แต่จงลองมองหาความหวังเล็กๆ เสียก่อนเถิด หลานรัก"
ตอนนี้เด็กสาวกำลังอยู่บนรถเมย์ที่มีคนปกตินั่งอยู่ นี่ตลอดที่ผ่านมาเธอฝันมาโดยตลอดรึไงกัน แต่ฝันก็เหมือนจริงมาก ฝันของเธอคุณยายมาหาเธอและได้สอนบางอย่างกับเธอ
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ แต่ตอนนี้เด็กสาวก็ได้รู้แล้วว่า ถึงแม้โลกจะใจร้ายกับเธอมากจนอยากจะหายไป หรือแม้แต่สังคมจะทำร้ายเธอมากแค่ไหน แต่ถ้าเธอลองมองหาความหวังเล็กๆ เธอก็จะได้พบกับทางแก้ไขที่ไม่ต้องถึงขึ้นลาจากโลกนี้ไป
เด็กสาวยิ้มออกมาพร้อมกับมองไปนอกหน้าต่างที่มีภาพดวงอาทิตย์กำลังตกลับขอบฟ้าสวยงามราวภาพวาด เด็กสาวมองภาพตรงหน้าพร้อมกับพูดออกมาลอยๆ ว่า
"ขอบคุณมากนะคะ คุณยาย"
โฆษณา