1 มิ.ย. 2023 เวลา 12:52 • กีฬา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะไปถึง 3 แชมป์หรือไม่ คนให้คำตอบคือคู่อริแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เคยมีสโมสรไหนในอังกฤษทำได้ นั่นคือการคว้า "3 แชมป์ใหญ่" ในปีเดียว
1
พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นี่คือสามโทรฟี่ ที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำทีมได้แชมป์พร้อมกัน ในฤดูกาล 1998-99 จากนั้นเป็นต้นมา ไม่เคยมีสโมสรไหน สามารถทำได้อีกเลย
ลิเวอร์พูลเคยได้สามแชมป์ก็จริงในปี 2001 แต่นั่นคือเซ็ตเล็ก (เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และ ยูฟ่าคัพ) ซึ่งในแง่ของศักดิ์ศรี ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังเป็นรองสามแชมป์ในปี 1999 ของแมนฯ ยูไนเต็ด
สำหรับความยากของการคว้าสามแชมป์ ก็คือ
- คุณต้องสม่ำเสมอในลีก
- คุณต้องมีตัวสำรองดีพอ ที่จะโรเทชั่นในทุกๆ รายการ
- คุณต้องมีประสบการณ์ ในการเอาตัวรอดจากเกมเหย้าเยือนในเวทียุโรป
ดังนั้นต่อให้เป็นทีมที่เก่งขนาดไหน การจะคว้าสามแชมป์ในปีเดียว ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย อย่างลิเวอร์พูลในฤดูกาลก่อนหน้านั้น (2021-22) เคยมีลุ้นเหมือนกัน แต่ก็มาหลุดโค้งในช่วงสุดท้าย คือมันต้องมีองค์ประกอบที่เป๊ะจริงๆ ทีมต้องดี โค้ชต้องเก่ง และมีดวง ผู้เล่นไม่เจ็บด้วย
1
แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ แต่ในปีนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสดีมากๆ ที่จะ "คว้า 3 แชมป์" เหมือนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำได้ เพราะตอนนี้พวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว 1 รายการ
ตอนนี้เหลืออีกแค่ 2 นัดสุดท้าย คือ นัดชิงเอฟเอคัพ วันเสาร์นี้ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ นัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันเสาร์หน้ากับอินเตอร์ มิลาน แค่นั้น
แปลง่ายๆ ว่า ถ้าหากปีศาจแดง อยากให้ตัวเองเป็น "ทีม 3 แชมป์" เพียงแค่ทีมเดียวในอังกฤษต่อไป พวกเขาต้องโค่นแมนฯ ซิตี้ วันเสาร์นี้ให้ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นเกมที่มีเดิมพันสูง กว่านัดชิงบอลถ้วยธรรมดาๆ มันมีความพิเศษมากกว่านั้น
1
มีอะไรที่น่าสนใจก่อนเกมนี้จะเริ่มบ้าง ผมสรุป 25 ข้อ มาไว้ให้แล้วนะครับ เป็นข้อมูลก่อนดู ซึ่งจะทำให้พอเห็นแบ็กกราวน์ในเกมนี้มากขึ้นนะครับ
---------------------
1) ในฤดูกาลนี้ 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ เจอกันมาแล้ว 2 นัดในพรีเมียร์ลีก นัดแรกแมนฯ ซิตี้ ชนะ 6-3 ที่เอติฮัด แต่นัดที่สองแมนฯ ยูไนเต็ด เอาคืนได้ 2-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดังนั้นคือว่า ฤดูกาลนี้ยังเจ๊ากันอยู่
2) ในการเจอกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มีดราม่าสำคัญ ในลูกตีเสมอของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผู้ตัดสินไม่เป่าล้ำหน้า ในจังหวะที่มาร์คัส แรชฟอร์ด (ที่ยืนล้ำหน้า) เข้าไปอยู่ใกล้ลูกบอล แล้วปล่อยให้บรูโน่ เฟอร์นันเดส เข้ามายิงประตู โดยนาธาน อาเก้ กองหลังของแมนฯ ซิตี้ บอกว่า ช็อตนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเสียประตูจนพ่ายแพ้ ทำให้นักเตะทั้งทีมรวมใจกันอีกครั้ง แล้วก็เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในที่สุด
3) ทั้งสองทีม เคยเจอกันที่เวมบลีย์มาแล้ว 2 หน ครั้งแรกคือ เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ปี 2011 (ซิตี้ชนะ) และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปีเดียวกัน (ยูไนเต็ดชนะ) ถือว่าสถิติสูสีกัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
4) แต่ถ้าพูดถึงนัดชิงชนะเลิศในเอฟเอคัพ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่แมนฯ ยูไนเต็ด กับ แมนฯ ซิตี้ จะเจอกันเลยทีเดียว สื่ออังกฤษจึงใช้คำว่า All-Manchester Final
1
5) ด้วยความที่เป็นเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ในรอบชิงเอฟเอคัพครั้งแรก ทำให้จะมีผู้คนหลั่งไหลจากเมืองแมนเชสเตอร์ มาที่ลอนดอน มากมายเกือบหนึ่งแสนคน ปัญหาสำคัญคือ พนักงานการรถไฟที่อังกฤษ ทำการสไตรค์ ในวันศุกร์และเสาร์นี้ ส่งผลให้ แฟนบอลต้องใช้การเดินทางด้วยรถบัสแทน จะเป็นวันที่ถนนหลวงของอังกฤษมีความชุลมุนยุ่งเหยิงมาก
จากนั้นเมื่อแฟนบอลไปถึงที่เวมบลีย์ จะมีการแบ่งโซนชัดเจน ผับใกล้ๆ สนามจะแบ่งกันไปเลยว่า ผับไหนแฟนแมนฯ ยูไนเต็ดเข้าได้ ผับไหนแฟนบอลแมนฯ ซิตี้เข้าได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กลัวเหมือนกันว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น เพราะเป็นเกมที่มีความสำคัญมากๆ กับทั้งสองทีม
6) เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นดาวซัลโวที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุดตลอดกาลในซีซั่นเดียว (36 ประตู) แต่ประเด็นคือ 6 เกมหลังสุดที่ลงสนามทุกรายการ ฮาแลนด์ยิงได้แค่ 1 ประตูเท่านั้น คู่แข่งประกบเขาหนักขึ้น ไม่อยากให้เข้าถึงบอลง่ายๆ และร่างกายก็ดูอ่อนล้า นั่นคือเหตุผลที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ส่งฮาแลนด์ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล (แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-0) เพื่อให้พักฟื้นร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุด กับสองเกมที่เหลือของซีซั่น นัดนี้กับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาสตาร์ตตัวจริงแน่นอน
1
7) เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นดาวซัลโวคนแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีสถิติ ยิงประตูมากกว่าจำนวนนัดที่ลงสนาม ลงเล่นทุกรายการ 51 นัด ยิงได้ 52 ประตู
8 ) เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เคยเกือบจะมาอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสมัยเล่นอยู่กับสโมสรโมลด์ โดยโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ตอนนั้นเป็นผู้จัดการทีมโมลด์ เสนอขายในราคา 4 ล้านปอนด์ แต่ฝั่งยูไนเต็ดไม่สนใจ สุดท้ายฮาแลนด์จึงย้ายไปซัลซ์บวร์ก ไปดอร์ทมุนด์ แล้วมาจบที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
9) ถ้าหากเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงได้ 5 ประตู ในนัดชิงเกมนี้ เขาจะกลายเป็นนักเตะคนแรกของโลก ที่ได้ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมกันสามรายการในปีเดียว (ณ เวลานี้ ฮาแลนด์ยิงได้ 3 ประตูในเอฟเอคัพ ส่วนดาวซัลโว คือ พอล มัลลิน จากเร็กซ์แฮมยิงได้ 8 ลูก)
10) สถิติเปิดเผยว่านักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก คือไคล์ วอล์กเกอร์ ฟูลแบ็กของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีความเร็ว 37.31 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าหากแมนฯ ยูไนเต็ด จะโจมตีริมเส้น ก็ต้องผ่านความเร็วของวอล์กเกอร์ไปให้ได้ก่อน
11) สถิติเผยว่า ถ้าหากแข่งครบ 120 นาที ต้องไปตัดสินกันที่จุดโทษ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยชนะคู่แข่งได้เลยในรายการเอฟเอคัพ (แข่ง 4 แพ้ 4) แต่สถิติดังกล่าวมาถูกทำลายในปีนี้ หลังจากเอาชนะไบรท์ตันได้สำเร็จในรอบรองชนะเลิศ
12) ดาบิด เด เกอา มีสถิติเซฟจุดโทษที่ไม่ดีเอาเสียเลย อย่างเกมที่ชนะไบรท์ตันก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาเซฟได้ แต่ซอลลี่ มาร์ช ยิงข้ามคานไปเอง ขณะที่สถิติการเซฟจุดโทษในปีนี้ เด เกอา โดนยิง 4 ลูก เซฟได้ 1 ลูก (เซฟมิโตรวิช ในเกมชนะฟูแล่ม) คิดเป็นสถิติ 20%
13) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมรักบี้ เซล ชาร์ก เชิญเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปให้โอวาทนักกีฬาก่อนลงแข่งขันแมตช์ตัดสินกับทีมซาราเซนส์ โดยเฟอร์กี้ก็พูดให้กำลังใจกันไป ก่อนจะปิดท้ายว่า "ขอให้พวกคุณโชคดีในเกมวันเสาร์ และผมอยากจะเน้นย้ำสักเรื่อง อย่าใส่สูทสีขาวเชียวนะ ให้ตายเหอะ!"
คำกล่าวของเฟอร์กี้ เป็นการแซวลิเวอร์พูล ที่ใส่สูทสีขาวทั้งทีม ในนัดชิงเอฟเอคัพ 1996 คือสูทสีขาว ในมุมของเฟอร์กี้คือ นักเตะสนใจแต่ความเท่ สนใจแต่แฟชั่น ไม่ยอมโฟกัสที่เรื่องในสนาม ซึ่งสุดท้ายนัดชิงปีนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ชนะลิเวอร์พูลได้ 1-0 คว้าแชมป์ไปครอง จากประตูชัยของเอริค คันโตน่า
สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดชิงเอฟเอคัพปีนี้ เฟอร์กี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะนักเตะทั้งทีมตัดสูท สีน้ำเงินของพอล สมิธ เรียบหรูดูดี ไม่ดูแฟชั่นจ๋า เหมือนสูทสีขาวของลิเวอร์พูลในตอนนั้นแน่นอน
14) ความพร้อมของไลน์อัพ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอมรับว่า อาจมีนักเตะ 4 คน ที่พลาดการลงสนามในนัดนี้ ต้องรอเช็กความฟิตในโค้งสุดท้าย ประกอบด้วย รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานยี่, เควิน เดอ บรอยน์ และ แจ๊ค กรีลิช อย่างไรก็ตาม ทุกตำแหน่งมีตัวทดแทนพร้อม ไม่มีปัญหาในการจัดตัว
สื่ออังกฤษเชื่อว่า เป๊ปจะไม่เสี่ยง อาจพัก 4 คนพร้อมกัน เพื่อให้ฟิตที่สุดก่อนเจออินเตอร์ มิลาน เพราะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นถ้วยที่มีความหมายกับสโมสรมากกว่า แต่กลุ่มแฟนบอลส่วนใหญ่คอมเมนต์ว่า เป๊ปให้ข่าวไปอย่างนั้นแหละ พอถึงวันจริง ก็อาจลงเล่นพร้อมกันหมดได้อยู่ดี
15) ส่วนความพร้อมของฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด อ็องโตนี่ มาร์กซียาล ได้รับบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้แน่นอน ส่วนอันโตนี่ ดาวเตะบราซิล รอเช็กความฟิตถึงโค้งสุดท้าย ถ้าหากไม่พร้อมลงเล่น ก็ยังมีเจดอน ซานโช่ ที่สามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้
ส่วนคนที่ลงไม่ได้แน่ๆ คือลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่เจ็บเท้า, มาร์แซล ซาบิตเซอร์ ที่เจ็บเข่า ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นพร้อมลงหมด ไม่มีตัวแบนอะไรเลยในนัดนี้
16) ความหวังอันดับหนึ่งในการทำประตูของแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าวัย 25 ปีของทีม ที่มีผลงาน ลงเล่น 55 นัด ยิงได้ 30 ประตู และล่าสุดได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรอีกด้วย ทำให้แรชฟอร์ดกลายเป็นเด็กปั้นจากสโมสรคนแรกที่ได้รางวัลนี้ นับจากไรอัน กิ๊กส์ ในปี 1998
1
17) มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญยิ่งกว่าการได้แชมป์ คือการหยุดแมนฯ ซิตี้ คว้า Treble "การทำให้แน่ใจว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมเดียวที่ได้สามแชมป์ นั่นคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดเลย"
18) ในฤดูกาลที่แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สามแชมป์ (1998-99) พวกเขาคือทีมอันดับหนึ่งของโลก ส่วนแมนฯ ซิตี้ปีนั้น เล่นอยู่ในระดับลีกวัน พวกเขาต้องลงสนามเจอกับพวก เร็กซ์แฮม, จิลลิงแฮม และ ลินคอล์น ซิตี้ จากวันนั้น ผ่านมา 24 ปี แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนแปลงทีมอย่างก้าวกระโดด จากทีมระดับลีกวัน กลายมาเป็นทีมลุ้น Treble ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
19) การคว้าสามแชมป์นั้น ถ้าเป็นในโลกฟุตบอล ศัพท์ที่นิยมมากกว่าคือ Treble (เทรเบิล) ส่วนคำว่า Triple Champion (ทริปเปิ้ลแชมป์) ก็มีคนเรียกบ้าง แต่ไม่นิยมมากนัก
20) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยอยู่ในสถานการณ์ "ยับยั้ง 3 แชมป์" ของคู่แข่งมาแล้ว 1 ครั้ง คือในฤดูกาล 1976-77 ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกไปแล้ว และเตรียมลงเล่นนัดชิงยุโรป กับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (ซึ่งชนะ 3-1) ถ้าหากหงส์แดง ชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เวมบลีย์ในนัดชิงเอฟเอคัพได้ ก็จะคว้าสามแชมป์ แต่สุดท้ายเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดชนะไป 2-1 หยุดยั้งหงส์แดง จากการคว้า 3 แชมป์ได้สำเร็จ
1
21) หลายคนไปโฟกัสที่ "3 แชมป์" ของแมนฯ ซิตี้ แต่อย่าลืมว่าถ้าเกิดแมนฯ ยูไนเต็ดชนะในเกมวันเสาร์ได้ ก็จะได้ "2 แชมป์" เช่นกัน คือคาราบาวคัพ และ เอฟเอคัพ ครั้งสุดท้ายที่แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 2 ถ้วยในปีเดียว เกิดขึ้นในซีซั่น 2016-17 ตอนโชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม คว้าแชมป์ลีกคัพ และ ยูโรป้าลีกได้พร้อมกัน
22) อเลฮานโดร การ์นาโช่ คว้าแชมป์เอฟเอยูธคัพในฤดูกาลที่แล้ว ถ้าหากเขาได้ลงสนามแล้วช่วยทีมให้คว้าแชมป์เอฟเอคัพได้ด้วย ก็จะถือเป็นความสำเร็จอย่างมากของดาวรุ่งรายนี้เพราะได้แชมป์ติดกันสองปีซ้อน นักเตะคนสุดท้ายของปีศาจแดงที่เคยทำแบบนี้ได้มาก่อน คือฟิล เนวิลล์ ได้แชมป์เอฟเอยูธคัพ ปี 1994-95 จากนั้น ปีต่อมา เขาได้เลื่อนชั้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ ก็ช่วยให้ทีมได้แชมป์เอฟเอคัพ ในปี 1995-96
23) จุดอ่อนของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่จะทำให้พวกเขาพลาดแชมป์ คือการเล่นเกมเยือนกับทีมใหญ่ สถิติบอกว่า การเจอกับทีมระดับ Top 9 ในฐานะทีมเยือนฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 7 พวกเขาเสมอแค่สเปอร์สทีมเดียว ที่เหลืออีก 7 ทีมแพ้รวด การมาเล่นเวมบลีย์ ก็ไม่ใช่สนามเหย้าของตัวเอง คำถามคือทีมปีศาจแดง จะเล่นในฟอร์มที่ดีได้หรือไม่
1
24) อีฟนิ่งสแตนดาร์ด สื่อในอังกฤษ ฟันธงเกมนี้ว่า "ไม่มีทีมไหนจะเหมาะกับการหยุดยั้งแมนฯ ซิตี้ ให้ไปถึงสามแชมป์ มากกว่าแมนฯ ยูไนเต็ดอีกแล้ว แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทำได้ในนัดนี้"
"แมนฯ ซิตี้ จะเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งจากเกมแพ้เบรนท์ฟอร์ดนัดที่แล้ว พวกเขามีไพ่เด็กๆ ในมือมากมายเมื่อต้องการจะใช้ คุณภาพของแมนฯ ซิตี้ เหนือชั้นทุกจุดในสนาม และที่สำคัญ พวกเขามีเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ฟันธง ซิตี้ชนะ 3-1"
25) อย่างไรก็ตาม เวย์น รูนีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ เห็นตรงข้าม รูนีย์กล่าวว่า "สำหรับนักเตะ สตาฟฟ์ และแฟนบอลของซิตี้ นัดชิงเอฟเอคัพอาจดูไม่สำคัญนัก ถ้าเทียบกับความรู้สึกที่ฝั่งยูไนเต็ดมีกับถ้วยนี้ ตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นมากๆ และคาดหวังว่าจะเจอเกมที่สูสี ผมคิดว่าเกมจะยื้อถึงต่อเวลา และจุดโทษ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมคิดว่ายูไนเต็ดจะชนะ"
---------------------
นี่คือแบ็กกราวน์ของเกมเอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศนะครับ เป็นเกมที่เดือดสุดๆ แน่นอน แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าดับเบิ้ลแชมป์ และยับยั้งแมนฯ ซิตี้ ไม่ให้ไปถึง Treble ได้หรือไม่
ดาบิด เด เกอา จะหยุดยั้งเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์อย่างไร และเอริค เทน ฮาก จะมีวิธีการไหน ในการทำลายความอัจฉริยะของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า
เป็นเกมที่ผมมั่นใจว่าจะเดือดสุดๆ ครับ วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนนี้ เวลา 21.00 น. ครับผม ช่อง beIN SPORTS ถ่ายทอดสดนะครับ
โฆษณา