4 มิ.ย. 2023 เวลา 01:01 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

10 เทรนด์เทคโนโลยี ปี 66-69 ที่จะเขย่าโลกธุรกิจ

1 .Super App & Digital Onboarding
1
: เป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่การจะประสบความสำเร็จนั้นไม่ง่าย
เพราะการพัฒนา Super App ต้องมี Core Feature และระบบที่มีความซับซ้อนขั้นสูง รวมถึงองค์ประกอบเกี่ยวกับ Microservice, Data Sharing และ Mini App ที่สำคัญยังต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก ผนวกกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนา เพื่อให้ Super App มีคุณสมบัติรองรับการขยายตัวในอนาคต
  • (Scalability) การเพิ่มขีดความสามารถ
  • (Extensibility) ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)
  • เป็นระบบที่ง่ายต่อการดูแลรักษา (Maintainability)
  • มีประสิทธิภาพ (Efficiency)
และโซลูชันที่ต้องอัปเดตให้ตอบโจทย์การใช้งานเสมอ
2. AI-Powered Performance Management:
เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาแก้ไขและยกระดับการบริหารงานให้ผู้นำองค์กรด้วย Artificial Intelligence-AI ที่มีระบบประมวลผลอัตโนมัติ และแสดงผลแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำ
ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจทำได้อย่างถูกต้องมากขึ้น เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ Key Performance Indicator-KPI และ Objective & Key Result-OKR ที่ประมวลผลข้อมูลการทำงานได้แบบเรียลไทม์ เพื่อกระตุ้นการทำงานของพนักงาน และ ลดภาระงานให้ผู้บริหาร เป็นต้น
3. Consolidated Data Platform on Cloud:
องค์กรจำนวนมากกำลังเผชิญปัญหาการบริหารจัดการปริมาณข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและแหล่งที่มา การนำข้อมูลที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์มาใช้ประโยชน์นั้นต้องมีระบบการจัดเก็บและการเชื่อมต่อข้อมูลเหล่านั้นอย่างถูกต้อง บนระบบที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานได้จริง
ดังนั้นการเก็บรวบรวมและเชื่อมต่อข้อมูลบนระบบคลาวด์จึงเป็นอีกเทรนด์เทคโนโลยีมาแรงต่อเนื่อง ที่สามารถเพิ่มหรือลดขนาดการใช้งานตามความต้องการ มีความคล่องตัว และใช้ข้อมูลหา Insights ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
4. Predictive AI:
เป็นการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ของเทคโนโลยี Deep Learning-DL อันชาญฉลาด
เช่น การเก็บข้อมูลผ่านเซ็นเซอร์ IoT ของธุรกิจแล้วนำมาวิเคราะห์ด้วย DL เพื่อหา Micro Moment Personalization ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง เป็นต้น เป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้และความภักดีต่อแบรนด์สินค้า ควบคู่กับการลดต้นทุนทางการตลาด
5. DevSecOps:
เป็นสุดยอดแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการพัฒนาระบบและซอฟต์แวร์ ที่ร่นทั้งระยะเวลาและลดปัญหาระหว่างการติดตั้งระบบ (Deployment) อีกทั้งการเพิ่มข้อบังคับหรือขั้นตอนด้านความปลอดภัยร่วมเข้าไปในกระบวนการ DevOps
ทำให้ระบบนั้นมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย สอดรับกับเทรนด์ความกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
6.Partnership API & Ecosystem Management:
เป็นการเชื่อมต่อระบบขององค์กรกับพันธมิตรทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Application Program Interface-API และการบริหารจัดการอีโคซิสเต็มร่วมกัน
เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นให้ลูกค้า และยกระดับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กรด้วย
โดยหลักสำคัญที่จะทำให้ Partnership API & Ecosystem Management นั้นประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มตั้งแต่การวางแผนบริหารจัดการผลตอบแทนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) การเชื่อมต่อที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน การเลือกใช้เทคโนโลยีและเครื่องมืออย่างเหมาะสม และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
7. Digital Workforce Management:
การใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนและเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ สอดรับกับการทำงานรูปแบบใหม่
เช่น Hybrid Working และ Remote Working รวมถึงรองรับการทำงานระหว่างทีมงานภายในและภายนอกองค์กร (Outsource)
8. Hyper-Scalability Modernization:
เป็นการใช้เทคโนโลยีอัปเกรดระบบหรือแอปพลิเคชันเดิมให้รองรับการใช้งานหรือ Transaction ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างราบรื่น ด้วยกรอบการทำงาน Event Driven Nano Service Architecture-EDNA
จะทำให้ Maintainability ของแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ทำได้ง่ายขึ้น ลดกระบวนการ Product Development และทำให้แต่ละทีมมีอิสระในการพัฒนาระบบ เพราะ EDNA จะแยกเซอร์วิส (Services) ออกจากกันจึงทำให้ระบบมีเสถียรภาพมากขึ้น
9. Cybersecurity & Digital Trust:
ระบบหรือซอฟต์แวร์ที่มีเสถียรภาพและมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุคดิจิทัล
เพราะความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และเสถียรภาพของระบบหรือแอปพลิเคชันมีผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อองค์กรและแบรนด์สินค้า ดังนั้น Digital Trust จึงเป็นส่วนสำคัญของการปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น Digital-First Company
10. Bionic Ops Re-Engineering:
เป็นการปรับเปลี่ยนระบบการทำงานด้วยการผสานพลังความสามารถมนุษย์กับกลศาสตร์ (Bio + Mechanics) ให้ทำงานร่วมกัน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการดำเนินงานต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์ Robotic Process Automation-RPA ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างหุ่นยนต์มาทำงานในลักษณะซ้ำๆ แทนคน หรือแพลตฟอร์ม Low Code ที่ทำให้การเขียนโค้ดง่ายและรวดเร็วขึ้น
Credit :
👇
โฆษณา