5 มิ.ย. 2023 เวลา 05:44 • ไลฟ์สไตล์
"lifestyle" เป็นคำของคนสมัยใหม่/คนที่มีความเป็นสมัยใหม่ (modernity) ที่เชื่อในเรื่องของปัจเจกชน ว่าคน ๆ หนึ่งมีเสรีภาพ สามารถเลือกแบบวิธีในการดำรงชีวิตให้กับตัวเองได้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับกรอบ กฎเกณฑ์ แบบแผน ปทัสถาน ข้อกำหนดอื่น ๆ ของสังคม (Norm) ซึ่งต่างจากคนหัวโบราณ(ในที่นี้รวมทั้งพวก ancient และ medieval)ที่ให้ค่ากับกรอบ กฎเกณฑ์ ปทัสถานของสังคม ในการกำหนดชีวิต/พฤติกรรมของคนแต่ละคน
.
คนโบราณจึงแต่งงานข้ามกรอบกันไม่ได้/ได้ยาก โดยเฉพาะกรอบที่แน่นหนาถาวรแข็งแรง เช่น "วรรณะ" หรือแม้ในกรอบอย่างไทย ๆ "ผู้ดี" กับ "ไพร่" ก็คงยากที่จะมีการแต่งงานข้ามกรอบนี้กันเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (patriarchy) เอาง่าย ๆ คือนับสกุลกันทางฝั่งผู้ชาย(พ่อ) ซึ่งสังคมไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้น ผู้ชายที่มีสถานะทางสังคม(+ศก.ด้วย)ต่ำกว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงที่มีสถานะทางสังคม(+ศก.)สูงกว่า คิดว่าคงเป็นไปได้ยาก(หรือไม่ได้เลยในความเป็นจริง)
หากมันเกิดขึ้น ก็จะถูกกดดันจากสังคม โดยเฉพาะจากฝั่งที่มีสถานะเหนือกว่า หากมันโด่งดังมาก ๆ และกินใจมาก ๆ ก็อาจกลายเป็นตำนานรักโรแมนติกให้ผู้คนได้เล่าขานกัน (เหมือนตำนานถ้ำผานางคอย/อีกตำนานหนึ่งติดอยู่ในหัวนึกชื่อไม่ออกแต่เรื่องคล้าย ๆ กัน)
.
แน่นอน "ตามทฤษฎี" คนสมัยใหม่ ไม่ว่าจะ "lifestyle" จะต่างกันแค่ไหน มันก็สามารถแต่งงานกันได้ "ตามทฤษฎี" เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ กฎหมาย กฎระเบียบใด ๆ ที่บังคับอย่างเป็นทางการว่า คนที่นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานกับคนที่นั่งรถเมล์ไปทำงานห้ามแต่งงานกัน เพราะมันเป็นแค่ "ไลฟ์สไตล์" (ขี้เกียดเปลี่ยนแป้นพิมพ์ละ ^^) ไม่ใช่กฎเกณฑ์ของสังคม ฉะนั้นคำตอบคือ "ได้อยู่แล้ว ถ้าหากพวกคุณรักกัน" เพราะการแต่งงาน(ครอบครัว)ควรเกิดขึ้นจากพื้นฐานของความรักเป็นสำคัญ
.
แน่นอนคำตอบที่เป็นทางการก็ควรจะเป็นอย่างงั้น แต่เอาเข้าจริง ๆ คนเราจะให้ค่ากับความรักขนาดนั้นหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้ อีกอย่าง ไม่ว่าในยุคไหนสมัยไหน การที่คนจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกันแต่งงานกัน มันก็ต้องมี "แรงต้าน" อยู่บ้างนั้นแหละ
โฆษณา