6 มิ.ย. 2023 เวลา 09:00 • ข่าวรอบโลก

รู้จักวันดีเดย์ (D-Day) 6 มิ.ย.1944 สัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกหาดนอร์มังดี

วันนี้ในอดีต 6 มิ.ย.1944 เป็นวันที่ทหารกองกำลังสัมพันธมิตร 156,000 นาย ยกพลขึ้นบกที่อ่าวนอร์มังดี เพื่อเริ่มปฏิบัติการปลดปล่อยประเทศที่ถูกนาซียึดครอง เรียกว่าวันดีเดย์ (D-Day)
วันดีเดย์ (D-Day) ย่อมาจาก Deliverance Day เป็นวันที่กองกำลังสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ภายใต้ชื่อรหัส "ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด" (Operation Overlord) ซึ่งเฉพาะวันแรกวันเดียวมีทหารล้มตายถึง 4,400 นาย
ยุทธการศึกครั้งนี้ใช้เรือถึง 7,000 ลำในการลำเลียงกำลังพล 156,000 นาย และยานพาหนะ 10,000 คัน ไปยังหาดทั้ง 5 แห่งตามแนวชายฝั่งนอร์มังดี ของประเทศฝรั่งเศส ปฏิบัติการครั้งนี้ ยังมีการสนับสนุนกองกำลังทางอากาศและทางเรือซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเอาชัยชนะฝ่ายนาซีเยอรมันได้สำเร็จ
ปีนี้ครบรอบ 79 ปีของวันดีเดย์ เรามาร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันนี้ ซึ่งนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของกองทัพนาซีเยอรมันในเวลาต่อมา
ดังที่กล่าวมาแล้ว ปฏิบัติการวันดีเดย์ เป็นความร่วมของทหารเรือ ทหารบก และทหารอากาศ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของฝ่ายสัมพันธมิตรประกอบด้วยแกนนำคือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศสซึ่งขณะนั้นถูกนาซียึดครอง เพื่อเริ่มต้นยุทธการปลดปล่อยประเทศในยุโรปเหนือและยุโรปตะวันตกให้หลุดพ้นจากการยึดครองของกองทัพนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ยุทธการครั้งนี้ มีการวางแผนมายาวนานกว่า 1 ปี เดิมกำหนดวันดีเดย์จะเริ่มปฏิบัติการกันในวันที่ 5 มิ.ย.1944 เพราะคาดว่าเป็นวันที่สภาพดินฟ้าอากาศเป็นใจ ท้องทะเลที่สงบ พระจันทร์เต็มดวง และระดับน้ำทะเลต่ำในช่วงเช้าตรู่ แต่ปรากฏว่าถึงวันจริงกลับมีพายุเข้า ทำให้ปฏิบัติการต้องล่าช้าไปจากแผน 24 ชั่วโมง กลายเป็นวันที่ 6 มิ.ย.
วันเผด็จศึก The Longest Day
ขณะที่ทหารของฝ่ายสัมพันธมิตรหลายหมื่นนายเตรียมยกพลขึ้นบกที่ชายหาด 5 แห่งของอ่าวนอร์มังดี เครื่องบินรบของฝ่ายสัมพันธมิตรได้ส่งทหารหน่วยพลร่มกระโดดลงไปด้านหลังแนวรบของนาซีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนของวันที่ 6 มิ.ย. เล็กน้อย เรืออีกหลายพันลำเคลื่อนไปที่นอกชายฝั่งแคว้นนอร์มังดี เพื่อเตรียมโจมตี
แม้ในช่วงเวลานั้น ฝ่ายผู้นำกองทัพเยอรมันคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะมีการโจมตี แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นเพียงการโจมตีขั้นต้นและเป็นกลยุทธ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น องค์ประกอบในแผนการรบที่ฝ่ายศัตรูคาดไม่ถึงนี้ ช่วยให้ทหารอังกฤษยกพลขึ้นบกได้สำเร็จที่หาดแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อรหัสว่า "โกลด์"
ขณะที่กองทัพแคนาดาก็สามารถยกพลขึ้นบกได้สำเร็จที่ชายหาดอีกแห่งซึ่งมีชื่อรหัสว่า "จูโน" ส่วนทหารอังกฤษสามารถยึดหาดที่ชื่อรหัสว่า "ซอร์ด" เวลาเดียวกับที่ทหารอเมริกันสามารถยกพลขึ้นบกที่หาด "ยูทาห์" ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ชายหาดที่ห้าซึ่งอยู่ใกล้เคียง ชื่อรหัส "โอมาฮา" เป็นจุดที่กองทัพอเมริกันต้องสูญเสียกำลังพลอย่างหนัก
การยกพลขึ้นบกของกองกำลังสัมพันธมิตรดำเนินไปตลอดทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งเวลาเที่ยงคืนของวันถัดมา ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ยึดหัวหาดได้สำเร็จ แล้วเคลื่อนพลรุกคืบไปจากหาดโกลด์ จูโน ซอร์ด และยูทาห์
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ คงจะเป็นไปไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนครั้งใหญ่จากกองกำลังทางอากาศและทางเรือ ซึ่งมีความแข็งแกร่งกว่าฝ่ายทหารเยอรมันหลายเท่า
อย่างไรก็ตาม ในวันดีเดย์เพียงวันเดียว ฝ่ายสัมพันธมิตรต้องสูญเสียกำลังพลไป 4,400 นาย ขณะที่อีก 9,000 นายได้รับบาดเจ็บหรือสูญหาย ขณะที่ตัวเลขการสูญเสียของฝ่ายทหารเยอรมันนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 4,000 - 9,000 นาย นอกจากนี้ ยังมีพลเรือนฝรั่งเศสเสียชีวิตอีกหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการระดมทิ้งระเบิดโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตร
แม้จะมีการต้านทานและประจันหน้ากับฝ่ายนาซี ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเองต้องสูญเสียอย่างหนัก แต่ด้วยกำลังพลที่มากกว่า และการสนับสนุนทางอากาศที่เหนือกว่านั้น ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเอาชัยชนะมาได้ท่ามกลางความสูญเสียดังกล่าว
เมื่อถึงตอนที่ปลดปล่อยกรุงปารีส(จากกองทัพนาซี)ได้สำเร็จช่วงปลายเดือนสิงหาคม 1944 (พ.ศ. 2487) ราว 10% ของทหารสัมพันธมิตร 2,000,000 นายในสมรภูมิที่ฝรั่งเศส ต้องสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหาย
หลายคนรู้จักยุทธการวันดีเดย์ จากภาพยนตร์เรื่อง The Longest Day หรือในชื่อไทยว่า “วันเผด็จศึก” เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1962 ถ่ายทำเป็นภาพขาวดำและสร้างจากหนังสือสารคดีชื่อเดียวกันของคอร์เนเลียส ไรอัน (Cornelius Ryan) ในปี 1959 เกี่ยวกับการยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดีเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1944 นั่นเอง
หลังจากยุทธการดีเดย์ไม่ถึงปี กองทัพนาซีเยอรมันก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ โดยวันที่ 30 เมษายน 1945 ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมัน กระทำอัตวินิบาตกรรม ปลิดชีพตัวเองขณะที่กองทัพนาซีกำลังพ่ายแพ้ให้กับกองทัพโซเวียตที่บุกโจมตีเข้าถึงกรุงเบอร์ลิน และในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เยอรมนีก็ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข
โฆษณา