: 185 : ช่วย-ทำที่บ้าน
คำว่า "รุ่นแซนวิช"
ถูกนำมาใช้ครั้งแรก
โดย Dorothy A. Miller
ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย
เคนตักกี้ เล็กซิงตัน
ในวารสาร Social Work ในปี 1981
บทความชิ้นนี้ เน้นว่า
"เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ
สถานะที่คั่นกลาง
ระหว่างพ่อแม่ที่แก่ชรา
กับลูกที่โตเต็มที่
ของพวกเขาเอง [รุ่นแซนวิช]
จะได้รับความเครียดอย่างมาก”
[Miller, 1981, p. 419]
ในธุรกิจครอบครัว
คนหลายรุ่นประสบกับแรงกดดัน
ที่เกี่ยวข้องกับระบบครอบครัว
การจัดการ และความเป็นเจ้าของ
และแรงกดดันทั่วไปเหล่านี้
สามารถขยายไปสู่
ปัญหาครอบครัว
ที่เกิดขึ้นพร้อมกันได้
ซึ่งอาจรวมถึง
ความเจ็บป่วยของพ่อแม่
และการจัดการที่อยู่อาศัย
ปัญหาการแต่งงาน
และพฤติกรรมที่ประมาทของลูก ๆ
ความกดดันในการจัดการพร้อมกัน
สำหรับ “รุ่นแซนวิช”
อาจรวมถึงการจัดการ
“รุ่นก่อตั้ง” ที่ "เกษียณแล้ว"
ซึ่งยังคงชอบที่จะมีส่วนร่วม
ในการดำเนินงาน
หรือการจัดการผู้จัดการอาวุโส
ที่ไม่ใช่ครอบครัว!!!
คนรุ่นต่าง ๆ อาจมีแรงบันดาลใจ
ทางธุรกิจที่แตกต่างกัน
ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น
ระหว่างธุรกิจเดิมกับโอกาสใหม่
และลำดับความสำคัญ
ที่ขัดแย้งกันเหล่านี้
ยิ่งทำให้ระบบการเป็นเจ้าของ
ใน “รุ่นแซนวิช” อาจถูกออกแบบ
สำหรับองค์กรครอบครัว
ซับซ้อนขึ้นไปอีก
นี่คือความท้าทาย
ที่ผู้นำ “รุ่นแซนด์วิช”
ต้องเผชิญในการเปลี่ยนผ่าน
และเป็นผู้นำองค์กรครอบครัว
: ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก :
ทางเอกสาร “รุ่นก่อตั้ง” ของธุรกิจ
เสร็จสิ้นการถ่ายโอนความเป็นผู้นำ
ไปยัง “รุ่นแซนวิช” แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ
แม้ว่าสมาชิก “รุ่นก่อตั้ง”
จะไม่มีตำแหน่งบริหาร
แต่พวกเขายังคงมีส่วนร่วม
ในการตัดสินใจบางอย่าง
ผู้นำ “รุ่นแซนวิช”
ในฐานะหัวหน้าทีมผู้บริหาร
แม้จะมีอำนาจไม่อนุญาต
ให้คน “รุ่นก่อตั้ง” มีส่วนร่วม
ในการตัดสินใจด้านการจัดการ
แต่พวกเขาหรือเธอ ก็ตระหนักดีว่า
หากทำเช่นนั้น อาจดูเหมือนไม่ใส่ใจ
เรื่องอารมณ์ [ความสัมพันธ์] มากนัก
แนวทางที่พอจะเป็นไปได้
ซึ่ง #ช่วยทำที่บ้าน ขอแนะนำ คือ
ผู้นำ “รุ่นแซนวิช” ควรตัดสินใจ
สร้างตำแหน่งให้กับ “รุ่นก่อตั้ง”
เพื่อให้มีความเกี่ยวข้อง
และมีส่วนร่วมในธุรกิจบางด้าน
เช่น การดูแลกลุ่มลูกค้าเก่า,
การกำหนดกระบวนการ
กำหนดราคา
สำหรับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่ม
ที่รุ่นก่อตั้งมีความสนใจ
: มรดกกับธุรกิจในอนาคต :
“รุ่นก่อตั้ง” อุทิศตน
ให้กับธุรกิจครอบครัว
ที่พวกเขาเริ่มต้น
โดยเน้นย้ำว่า ธุรกิจคือเหตุผล
ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัว
ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
และพวกเขาเชื่อว่า
การจะเป็นธุรกิจครอบครัว
ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น
สมาชิกครอบครัวทุกคน
ต้องทำงานร่วมกัน
เพื่อทำให้ธุรกิจครอบครัวเติบโต
จากความเชื่อนี้ บางครอบครัว
“รุ่นก่อตั้ง” สามารถชักจูงและชี้นำ
สมาชิก “รุ่นแซนวิช” ในปัจจุบัน
เลือกเรียนในสาขาที่เกี่ยวข้อง
กับธุรกิจของครอบครัว
รวมทั้ง “รุ่นก่อตั้ง”
ก็คาดหวังให้สมาชิก “รุ่นที่สาม”
เลือกสาขาการศึกษาที่เกี่ยวข้อง
กับธุรกิจของครอบครัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม “รุ่นแซนด์วิช”
มีคำจำกัดความที่แตกต่างกันว่า
ธุรกิจครอบครัว
ที่ประสบความสำเร็จคืออะไร?
พวกเขาเชื่อว่าสมาชิก “รุ่นที่สาม”
ควรได้รับโอกาสในการเลือก
สาขาวิชาที่ต้องการ
ขณะเดียวกันก็ควรสัมผัส
กับธุรกิจครอบครัวควบคู่กันไปด้วย
ช่วงเวลานี้
มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
การปรับโครงสร้างธุรกิจ
ของครอบครัวแบบดั้งเดิม
เป็นบริษัทในเครือหลายแห่ง
และ/หรือบริษัทโฮลดิ้ง
ซึ่งแต่ละแห่งมีจุดเน้นที่แตกต่างกัน
ระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้าง
“รุ่นแซนวิช” สามารถลดแรงกดดัน
ของ “รุ่นก่อตั้ง” ที่มีต่อคนรุ่นใหม่
โดยให้ทำงานเฉพาะ
ในธุรกิจครอบครัวแบบดั้งเดิม
เนื่องจากธุรกิจครอบครัวแบบดั้งเดิม
เปลี่ยนเป็นองค์กรครอบครัว
ที่สร้างธุรกิจอื่น ๆ
ทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยง
ที่สามารถให้โอกาสมากขึ้น
ให้กับสมาชิกครอบครัวรุ่นหลัง
: การสื่อสารระหว่างสามรุ่น :
เนื่องจากวิธีคิด ความสนใจ
และรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน
การสื่อสารที่อยู่ในการประชุมเดียวกัน
อาจไม่ได้ผลในขณะนี้
ลองใช้กระบวนการประชุม
ให้สมาชิกครอบครัวรุ่นเดียวกัน
จัดการประชุมกันเอง
เพื่อทบทวนและจัดมุมมอง
ของพวกเขาเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ
เช่น ธรรมนูญครอบครัว,
ธรรมนูญธุรกิจ เป็นต้น
นอกจากนี้ “รุ่นแซนด์วิช”
ควรจัดเวทีสนทนา
กับสมาชิก “รุ่นใหม่”
เพื่อทำความเข้าใจความคิด
ของพวกเขาในหัวข้อเดียวกัน
ส่วนการประชุมครอบครัว
กับ “รุ่นก่อตั้ง” นั้น
“รุ่นแซนวิช” ควรอำนวยความสะดวก
จนกว่าทั้งสามรุ่นจะเริ่มมีส่วนร่วม
ในการประชุมครอบครัวด้วยกัน
: ความคิดเกี่ยวกับผู้นำ ”รุ่นแซนวิช” :
ธุรกิจครอบครัวรุ่นที่สอง
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาจเป็นรุ่นแรก
ที่กลายเป็น “รุ่นแซนด์วิช”
เป็นรุ่นแรกที่ได้สัมผัส
และใช้เป็นต้นแบบในการจัดการ
รุ่นตั้งแต่สามรุ่นขึ้นไป
ในองค์กรในเวลาเดียวกัน
คน “รุ่นแซนวิช”
จำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่า
ความสำเร็จของธุรกิจที่บุกเบิก
โดยคน “รุ่นก่อตั้ง” นั้น
สามารถยั่งยืน ขยาย และเปลี่ยนผ่าน
ไปสู่คนรุ่นต่อไปได้อย่างราบรื่น
ในขณะเดียวกัน ก็ต้องพิจารณา
ถึงแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่
ควบคู่กับความฝันของ “รุ่นก่อตั้ง”
และ “รุ่นแซนด์วิช” เองด้วย
กระบวนการนี้
อาจรวมถึงการนำทาง
และการจัดการการสื่อสาร
ที่มีประสิทธิภาพ
ระหว่างสามรุ่นที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ “รุ่นแซนวิช”
ยังต้องให้การดูแล
และสนับสนุนทางอารมณ์
แก่ “รุ่นก่อตั้ง”
ในขณะที่พวกเขาละทิ้งธุรกิจ
ความจำเป็นที่ต้องตระหนักถึง
บทบาทผู้นำที่เปลี่ยนแปลงไป
ของสมาชิกครอบครัว
และผู้นำแต่ละรุ่นอาจเผชิญ
กับความท้าทายและความเครียด
ที่แตกต่างจากผู้นำรุ่นก่อน
การทำงานร่วมกัน
กับผู้จัดการที่ไม่ใช่ครอบครัว
รวมถึงที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
ภาษี และที่ปรึกษาอื่น ๆ
ขององค์กรครอบครัว
เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้
กระบวนการเปลี่ยนผ่าน
มีความเครียดน้อยลง
สำหรับผู้นำ “รุ่นแซนวิช”
การทำงานร่วมกันอาจสร้างกลยุทธ์
การสื่อสารที่สร้างสรรค์
และแนวทางธุรกิจเชิงนวัตกรรม
ที่สามารถตอบสนอง
ความต้องการเฉพาะ
ขององค์กรครอบครัว
และช่วยให้สมาชิกครอบครัว
หลายรุ่นทำงานร่วมกันได้ดี
กระบวนการเหล่านี้
ต้องการเวลา อดทนและอดกลั้น
กระบวนการเหล่านี้
มีความเป็นไปได้ ไม่ใช่ไม่มีเลย
กระบวนการเหล่านี้
อยู่ที่สมาชิกครอบครัวทุกคน
ด้วยรักและหวังดี
จากช่วยทำที่บ้าน
#ช่วยทำที่บ้าน
#ธุรกิจครอบครัว
#FamilyBusiness
#Family #Business
#ธุรกิจ #ครอบครัว
#ธุรกิจกงสี #กงสี
#กิจการ
#สมาชิกครอบครัว
#ญาติพี่น้อง
#รุ่นก่อตั้ง #รุ่นที่หนึ่ง #รุ่นบุกเบิก
#รุ่นที่สอง #รุ่นแซนวิช #รุ่นปัจจุบัน
#รุ่นที่สาม #รุ่นใหม่ #รุ่นหลัง
#ความท้าทายของผู้นำรุ่นแซนวิช
#ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
#มรดกกับธุรกิจในอนาคต
#การสื่อสารระหว่างสามรุ่น
#ความคิดเกี่ยวกับผู้นำรุ่นแซนวิช
: Pictures Resource :
Photo by Gardie Design & Social Media Marketing on Unsplash
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
