9 ธ.ค. 2023 เวลา 00:00 • ดนตรี เพลง

เกร็ดเรื่องเพลงลูกทุ่ง โดย วินทร์ เลียววาริณ │ บุปผาสวรรค์ 15

นักร้องถึงฆาต
ความตายของ สรวง สันติ นั้นเป็นข่าวใหญ่ช็อกวงการ และเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเมืองไทย แต่อีกคนหนึ่งที่เสียชีวิตพร้อมกันคือ เอื้อ อารีย์ ก็เป็นความตายที่เปลี่ยนวงการเช่นกัน
หมอเอื้อ อารีย์ ชื่อจริงคือ วิรวด ปานเจริญ เจ้าพ่อวงการลูกทุ่งคนหนึ่ง มีชื่อเสียงว่าเป็น นักเชียร์แผ่น
เอื้อ อารีย์ เป็นนักธุรกิจด้านเพลงลูกทุ่ง เป็นผู้สร้างนักร้องดังหลายคน ตัวเขาเองเป็นนักแต่งเพลง เจ้าของบริษัทเทปและแผ่นเสียง ตรา เอื้อ อารีย์ เจ้าเก่า
นอกจากเป็นนายทุน ยังเป็นนักแต่งเพลง เขาเป็นคนแต่งเพลง จ้ำม่ำ ให้ ชาย เมืองสิงห์ ร้อง
จ้ำม่ำเสียจริงนะน้องเอ๋ย ไม่เคยเห็นใครจ้ำม่ำเท่า หยาดเยิ้มหยดย้อยไม่เบา อกตั๋นเต่งตึงเอวเว้า จ้ำม่ำไม่เบา น้องเข้าตำรา
1
เอื้อ อารีย์ เป็นคนลงทุนสร้างวงให้ แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เดินสายจนเป็นนักร้องดัง แต่ในวงการเพลงลูกทุ่ง นอกจาก เอื้อ อารีย์ แล้ว ก็มีนายห้างอีกหลายคน รวมทั้งนายห้าง ประจวบ จำปาทอง
เอื้อ อารีย์ กับนายห้าง ประจวบ จำปาทอง เป็นคนที่ผลักดันให้นักร้อง เสรี รุ่งสว่าง ได้เกิด เริ่มจากเพลง จดหมายจากแม่ แต่งโดย ชลธี ธารทอง
คนในวงการเพลงลูกทุ่งตอนนั้นย่อมคุ้นเคยกับชื่อ ประจวบ จำปาทอง คลุกคลีกับวงการมานาน เคยเป็นนักร้อง โฆษก และเป็นคนจัดรายการประกวดร้องเพลง ชุมทางคนเด่น ในยุคนั้น
1
ประจวบ จำปาทอง ชื่อจริงคือ ประจวบ จันตตานนท์ ชาวนครพนม อยากเข้าไปเสี่ยงโชคในเมืองหลวง แต่พ่อแม่ไม่ให้ไป จึงหนีไปตัวคนเดียว
นั่นคือปี 2497 เขาเข้ากรุงด้วยเงินไม่กี่สิบบาท หลังจากนั้นก็พยายามหางานทำ แต่ไม่มีงาน จึงไปเป็นลูกจ้างอยู่โป๊ะเรือที่จังหวัดชลบุรี ได้เงินเดือน 100 บาท ต่อมาไปทำงานที่โรงโม่ เก็บหอมรอมริบได้เงินก้อนหนึ่ง ก็ไปกรุงเทพฯอีกครั้ง ทำงานเป็นจ๊อกกี้ม้าแข่งที่คอกของ อุดม ประพันธเสน
ห้าปีต่อมาก็ไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยเงินทุนตัวเอง ศึกษางานด้านเครื่องสำอาง
หลังจากกลับจากญี่ปุ่น เข้าวงการเพลง ร่วมวงกับ พร ภิรมย์ และเข้าวงจุฬารัตน์ ทำงานเป็นโฆษกของวง
หลังจากนั้นก็มาทำรายการวิทยุที่สถานีวิทยุ ททท.สี่แยกคอกวัว เริ่มมีชื่อเสียง จึงตั้งบริษัทจำปาทอง นำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ อาศัยรายการวิทยุช่วยโปรโมตสินค้า ประสบความสำเร็จ
สมัยนั้นใคร ๆ ก็เคยได้ยินชื่อสินค้า แป้งน้ำจำปาทอง ครีมเซฟจากอเมริกา น้ำหอมแห้งเอเธนส์ เครื่องสำอางกวนอิม
ขณะเดียวกันก็รับงานโฆษณากับวงดนตรี ประกวดร้องเพลง สร้างค่ายเพลงร่วมกับหมอเอื้อ อารีย์ และ ปรีชา อัศวฤกษ์นันท์ สร้างนักร้องหลายคนในสังกัด เช่น สายัณห์ สัญญา สรวง สันติ เพลิน พรหมแดน สุรชัย สมบัติเจริญ ศรชัย เมฆวิเชียร แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ คัมภีร์ แสงทอง ฯลฯ
1
สิ่งหนึ่งที่แปลก (หรืออาจไม่แปลกก็ได้) คือ นักร้องเพลงลูกทุ่งไทยจำนวนมากตายผิดธรรมชาติ
มีสองทางที่เกิดขึ้น หนึ่งคือเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบนถนน สองคือถูกฆ่าตาย
ความตายจากอุบัติเหตุบนถนนเป็นเรื่องเกิดขึ้นบ่อย อาจเพราะการเดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพนี้ อีกประการถนนหนทางในสมัย 40-50 ปีก่อนก็ไม่ดีนัก
ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2527 เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คนในรถที่เสียชีวิตคือ สังข์ทอง สีใส นักร้องเพลงลูกทุ่ง ฉายา เทพบุตรหน้าผี
สังข์ทอง สีใส เป็นชาวสุพรรณบุรี ชื่อจริง เปี๊ยก ศรีเหรา ชอบเพลงแต่เด็ก สามารถร้องเพลงของ ชาย เมืองสิงห์ ได้ทุกเพลง
เปี๊ยก ศรีเหรา สมัครเข้าวงดนตรีจุฬารัตน์ของครูมงคล อมาตยกุล ครูมงคลตั้งชื่อเขาว่า สังข์ทอง สีใส เพราะหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนสังข์ทอง ได้บันทึกเสียงเพลงแรก ชื่อเพลง อกอุ่น และเริ่มมีชื่อเสียง
ต่อมามีเพลงดัง เช่น หนิงหน่อง (แต่งโดย สุชาติ เทียนทอง)
หนิงหน่อง หนิงหน่อง นวลน้องนั้นมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่ทักไม่ทาย หรือจำไม่ได้ฉันชื่อหนิงหน่อง
เพลงนี้ฮิตไปทั่วเมือง
ในปี 2513 เปี๊ยก โปสเตอร์ สร้างหนังเรื่อง โทน นำแสดงโดย ไชยา สุริยัน อรัญญา นามวงศ์ สังข์ทอง สีใส ได้รับบทในหนังเรื่องนี้ด้วย และมีบทร้องเพลง โทน ที่แต่งโดย สุชาติ เทียนทอง
โทน เอ๋ยโทน เพื่อนโทนผู้น่าสงสาร อวดทะยาน เอื้อมปองหมายเด็ดดอกฟ้า ไม่มองว่าตัวเหมือนกา ทำบินถลาไปเคียงคู่หงส์
1
หนังเรื่องนี้ดังมาก ทำรายได้สูงถึง 6 ล้านบาท รองจากหนังเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง ของ รังสี ทัศนพยัคฆ์ หนังเปลี่ยนทิศทางการสร้างหนังไทยในยุคนั้น คือเปลี่ยนจาก 16 มม. เป็น 35 มม.
สร้างผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ เปี๊ยก โปสเตอร์ และทำให้สังข์ทองเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ หน้าตาอัปลักษณ์กลายเป็นจุดขายของเขา
สังข์ทอง สีใส หายหน้าไปหลายปี ติดคุกคดีอาญาข้อหาพยายามฆ่าช่วงที่อยู่ในคุกก็ยังร้องเพลง แต่งเพลงชื่อ รักข้ามกำแพง
1
หลังจากพ้นโทษในปี 2524 เขาก็หวนกลับวงการ ทั้งร้องเพลงและแสดงหนัง แต่ก็ต้องยุติบทบาทเมื่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ วันที่ 25 มกราคม 2527 ระหว่างเดินทางไปแสดง
อาทิตย์ต่อมาหลังจากความตายของ สังข์ทอง สีใส ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 วงดนตรี พุ่มพวง ดวงจันทร์ ไปแสดงในงานฝังลูกนิมิตที่วัดบางขุนไกร อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และวงสลักจิตร ดวงจันทร์ แสดงที่วัดปรักเขว้า อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
นักร้องวงพุ่มพวง ดวงจันทร์ สามคน คือ เพชร โพธาราม เสกศักดิ์ ภู่กันทอง และ มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย มีคิวร้องเพลงให้ทั้งสองวงในคืนนั้น
ตามกำหนดจะไปร้องเพลงในวง สลักจิตร ดวงจันทร์ ก่อนตอนหัวค่ำ พอสามทุ่มก็บึ่งรถไปร้องเพลงให้กับวง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่เพชรบุรี
รถยนต์ที่พานักร้องก็ทะยานไปตามนัด มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย เป็นคนขับรถ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง นั่งด้านหน้าข้างคนขับ เพชร โพธาราม กับภรรยานั่งเบาะหลัง
พวกเขาต้องไปให้ทันงานตอนสี่ทุ่ม จึงเร่งความเร็ว เกิดอุบัติเหตุรถชน มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย เสกศักดิ์ ภู่กันทอง เสียชีวิต ส่วน เพชร โพธาราม และภรรยาปลอดภัย
เสกศักดิ์ ภู่กันทอง (ชื่อจริง เสน่ห์ จันทร์ทอง) เกิดปี 2488 เป็นชาวอำเภอวิเศษชัยชาญ อ่างทอง บวชเรียนมาแต่เด็ก
หลังเรียนจบ ป. 4 เป็นสามเณรอยู่ที่วัดป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เป็นสามเณรห้าปี ก็เป็นพระอีกสามปี ศึกษาธรรมะจนจบนักธรรมเอก เป็นคนสมถะ ใช้ชีวิตเรียบง่าย
1
แต่ชีวิตของเขาเปลี่ยนเพราะมีเสียงดี ร้องเพลงดี ช่วงเป็นพระ เขาก็เป็นนักเทศน์นักแหล่ที่ญาติโยมชื่นชอบ ในที่สุดก็หนีไม่พ้นวงการเพลงลูกทุ่ง
อายุสามสิบ เขาโด่งดังจากเพลง ขันหมากเศรษฐี โสภาใจดำ ทหารอากาศขาดรัก
เสกศักดิ์ ภู่กันทอง
สองเพลงแรกแต่งโดย ฉลอง ภู่สว่าง ทหารอากาศขาดรัก แต่งโดย ชลธี ธารทอง
ขันหมากเศรษฐี จะหลับตาลงไปได้อย่างไร หัวใจมันเจ็บ ไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ จะมาแย่งแฟน พรุ่งนี้ขันหมากเศรษฐี ผู้ดีเนื้อแน่น จะหอบเงินแสนมาซื้อเจ้ากลอย
เพลงนี้มีทำนองไพเราะ เนื้อเพลงตรงๆ จำง่าย
ส่วนเพลง ทหารอากาศขาดรัก นี้ดังระเบิด
ลูกทัพอากาศ สามารถวิชา เก่งกล้าทุกคน แต่แปลกพิกล จีบสาวไม่เป็น ทัพบก ทัพเรือ ตำรวจ เขาอวด เรื่องแฟนหนักหนา ทำไมหนอลูกทัพฟ้า จึงหาแฟนได้ยากเย็น
ตามธรรมเนียมปฏิบัติของวงการ เมื่อประชาชนนิยมเสียงร้อง ก็ตั้งวงเดินสาย แต่ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง ไม่เดินสายนั้น เพราะเห็นว่าการตั้งวงต้องมีเพลงดังจำนวนมากพอ เขารับร้องเพลงกับวงดนตรีอื่นๆ เช่น วง จีระพันธ์ วีระพงษ์ วง ศรชัย เมฆวิเชียร และรับงานเชิญ
1
ส่วน มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย (ชื่อจริง อ่ำ ยิ้มอยู่) เป็นชาวพนัสนิคม ชลบุรี ผลงานเพลง เช่น คนเผาถ่าน ทหารพิการรัก อำนาจใบแดง วอนพ่อกลับใจ ไอ้หนุ่มรับจ้าง ปีนี้แต่งไม่ได้ ฯลฯ
สำหรับคนที่รอดชีวิตคือ เพชร โพธาราม (ชื่อจริง จดหมาย แหยมศิริ ปัจจุบันใช้ชื่อ จด แหยมศิริ) ชาวตำบลคลองข่อย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีผลงานเพลงดัง เช่น ต.ช.ด.ขอร้อง สุโขทัยระทม รักคนชื่อน้อย
หลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุ เพชร โพธาราม มีอาการหูตึง ส่วนภรรยาของเขากลายเป็นอัมพฤกษ์
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2527 ญาติและเพื่อนๆ ในวงการก็นำศพของนักร้องทั้งสองไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดอัมพวา กรุงเทพฯ ในวันเดียวกันนั้นเองที่วัดยางสุทธาราม ย่านพรานนก มีการฌาปนกิจศพ สังข์ทอง สีใส ซึ่งเสียชีวิตมาก่อนหน้านี้ไม่ถึงสิบวัน จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เช่นกัน
2
มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย
นักร้องลูกทุ่งอีกคนหนึ่งที่ประสบชะตากรรมเดียวกันก็คือ ดำ แดนสุพรรณ
ดำ แดนสุพรรณ ชื่อจริง ทัน ใจบุญ ชาวสุพรรณบุรี เอกลักษณ์ของเสียงร้องเขาคือเสียงเหน่อ
เรียนถึงชั้น ป. 4 ก็ออกมาทำงานรับจ้างทั่วไป เขาชอบดนตรีเขาคลั่งไคล้ สุรพล สมบัติเจริญ มาก พยายามเข้าสู่วงการ เขาเข้ากรุงเทพฯ ไปสมัครอยู่กับวงดนตรีสมัย อ่อนวงษ์
พรชัย สร้อยเพชร เป็นผู้ชักนำ ดำ แดนสุพรรณ เข้าสู่วงการ บันทึกเสียงเพลงแรกคือ ถึงพี่จะดำ เพลงที่สร้างชื่อให้เขาก็มี รักกับพี่ดีแน่ เมารัก เสียดายจริงๆ บ่นแก้กลุ้ม อยู่ดีกว่าตาย ฯลฯ
โอกาสมาถึงเมื่อได้อัดแผ่นเสียงเพลงแรกในปี 2511 ถึงพี่จะดำ คนแต่งเพลงคือ กานท์ การุณวงษ์
ตามมาด้วยเพลง รักกับพี่ดีแน่ คนสมัยนี้ อยู่ดีกว่าตาย และ รูปไม่หล่อพ่อไม่รวย เอาความซวยไปทิ้งบางแสน ฯลฯ
ต่อมาออกจากวง สมัย อ่อนวงษ์ ไปทำงานกับ อยู่กับ ศรีนวล สมบัติเจริญ ได้เพลงที่ชาตรี ศรีชล แต่งให้ ชื่อเพลง เมารัก
หลังจากนั้นก็ตั้งวงเอง
สามทุ่มวันหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2528 ดำ แดนสุพรรณ กับ หนุ่ม เมืองไพร และ ชายธง ทรงพล เดินทางไปร้องเพลงที่ชัยภูมิ เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ดำ แดนสุพรรณ เสียชีวิตคาที่ หนุ่ม เมืองไพร พิการ และเสียชีวิตไม่กี่ปีต่อมา
อุบัติเหตุบนท้องถนนที่คร่าชีวิตนักร้องที่เป็นข่าวดังที่สุดคือเหตุการณ์ในปี 2515
ตีสองครึ่งวันที่ 30 มกราคม 2515 ศรคีรี ศรีประจวบ กับคณะเดินทางกลับหลังจากการแสดงดนตรีที่งานประจำปีของวัดหน้าพระธาตุ อ. พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ออกจากจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟอำเภอพิชัย จ. อุตรดิตถ์ เมื่อเวลาตี 3 รถไฟไปถึงพิษณุโลกตอนตี 4
ศรคีรี ศรีประจวบ กับคณะคือ วิรัช หนูเมือง หัวหน้าวงดนตรี จำเนียร เปลี่ยนปาน กำพร้า เพชรภูธร ลงจากรถไฟที่สถานีพิษณุโลก
โดยสารรถเก๋งเดินทางต่อกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสดงที่วัดภาษี เอกมัย ในตอนค่ำ โดยมีนายจำเนียรเป็นคนขับ นายวิรัชหัวหน้าวงนั่งคู่ในตอนหน้า ส่วนศรคีรีนั่งมาตอนหลังและนอนหลับมาตลอดทาง
1
ส่วนคณะนักร้องนักดนตรีเดินทางตามหลังมาโดยรถบัส
1
รถของศรคีรีแล่นไปตามถนนสายเอเชีย จนถึง กม.ที่ 448 - 449 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พลันยางล้อหน้ารถเก๋งด้านขวาก็ระเบิด ทำให้รถซึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงเสียหลัก หมุนคว้างขวางกลางถนน (บ้างว่าคนขับรถหลับใน)
รถบรรทุกไม้ขนาดใหญ่คันหนึ่งจากตำบลไตรตรึงษ์ วิ่งพุ่งเข้าชนรถเก๋งของศรคีรีที่ขวางถนนอยู่เข้ากลางคันอย่างจัง รถเก๋งของศรคีรีขาดเป็นสองท่อน นายวิรัช หนูเมือง หัวหน้าวงดนตรี และนายจำเนียร เปลี่ยนปาน คนขับถูกอัดก๊อบปี้ตายคาที่อยู่ในซากรถ ร่างศรคีรีกระเด็นออกมา และถึงแก่ความตาย วัยเพียง 25 ปี
1
ความตายบนท้องถนนมักเป็นราคาของนักร้องเพลงลูกทุ่งจำนวนไม่น้อย เพราะต้องใช้ชีวิตเดินสาย ร้องเพลงตามจังหวัดต่างๆ ในยุคที่ถนนหนทางยังไม่ดีมาก
2
ศรคีรี ศรีประจวบ ชื่อจริง สงอม (น้อย) ทองประสงค์ ชาวสมุทรสงคราม ชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ดี ก็ต้องทำงานทุกอย่าง ตั้งแต่ประมง ลากอวน จับปู และทำไร่สับปะรดที่ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม ความฝันสูงสุดของเขาคือเป็นนักร้อง
เขาตั้งวงดนตรีของชาวไร่ ชื่อวงรวมดาววัยรุ่น รับแสดงโดยไม่คิดเงินทองไปตามแหล่งที่ขายสับปะรด
ครั้งหนึ่งเขานำวงดนตรีไปแสดงในงานปีใหม่ของจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดชอบเสียงของเขา ตั้งชื่อให้เขาใหม่ว่า ศรคีรี ศรีประจวบ
ศรคีรี ศรีประจวบ ร้องเพลงไพเราะ จนมีชื่อเสียงแถวประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สมุทรสงคราม แต่ยังไม่โด่งดังทั่วประเทศ
ต่อมาได้รับการสนับสนุนจาก วิจิตร ฤกษ์ศิลป์วิทยา ตั้งวงดนตรี ชื่อ วิจิตรไพบูลย์
เขาเข้ากรุงเทพฯ เช่าเวลารายการวิทยุยานเกราะ ครั้งหนึ่งพบกับ เพลิน พนาวัลย์ ซึ่งพาเขาไปพบครูไพบูลย์ บุตรขัน
การพบครูเพลงชั้นเซียนผู้นี้ ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปทันที ครูไพบูลย์แต่งเพลงให้ ศรคีรี ศรีประจวบ หลายเพลง เช่น แม่ค้าตาคม น้ำท่วม บุพเพสันนิวาส ทำให้ชื่อ ศรคีรี ศรีประจวบ เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
ภาพข่าวหนังสือพิมพ์ ความตายของ ศรคีรี ศรีประจวบ
เพลงที่คุ้นหูก็คือ มนต์รักแม่กลอง เพลงนี้แต่งโดยครูไพบูลย์ บุตรขัน ภาษางดงาม
เจื้อยแจ้วแว่วเสียงสำเนียงขับร้อง ดังเพลงมนต์รักแม่กลอง ล่องลอยพลิ้วหวานซ่านมา กล่อมสาวงามบ้านอัมพวา มนต์รักแม่กลองแว่วมา เหมือนสายธาราแม่กลองรำพัน
เหตุที่แต่งเพลงใช้ฉากแม่กลองก็คงเพราะ ศรคีรี ศรีประจวบ เป็นชาวแม่กลอง
เพลงอื่นๆ ที่ครูไพบูลย์แต่งให้ร้องมีหลายเพลง เช่น บุพเพสันนิวาส แม่ค้าตาคม ฝนตกฟ้าร้อง ตะวันรอนที่หนองหาน
วงดนตรี ศรคีรี ศรีประจวบ เดินสายไปทั่วประเทศ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง มีเพลงใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง
ครูไพบูลย์ บุตรขัน เขียนไว้อาลัยการจากไปของศรคีรีว่า บัดนี้เธอจากโลกไปแล้ว เหลือเพียงเสียงเพลง ศรคีรี ศรีประจวบ ฉันเสียดาย เสียดายจริงๆ เพราะเธอควรจะอยู่กล่อมโลกให้นานกว่านี้
โฆษณา