8 มิ.ย. 2023 เวลา 05:00 • ธุรกิจ

K Fresh ผู้เปิดตำนาน ‘มะพร้าวน้ำหอม’ ของไทย ส่งออกไกลกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

หากจะพูดถึงธุรกิจเจ้าแรกที่นำพา ‘มะพร้าวน้ำหอม’ ไทย ให้เป็นที่รู้จักระดับโลก ซึ่งคนในแวดวงอุตสาหกรรมการเกษตรต่างรู้จักกันดีในชื่อของ K Fresh (บจก. เค เฟรช) ผู้ผลิต และส่งออกมะพร้าวน้ำหอมรายใหญ่ของไทย ที่มองเห็นโอกาส Bangkok Bank SME ขอนำเรื่องราว แนวคิด และไอเดียธุรกิจมาฝากกันในวันนี้
📌‘มะพร้าวน้ำหอม’ เท่านั้น…ไม่ใช่พันธุ์ไหนก็ได้
คุณวราภรณ์ มนัสรังษี ผู้บริหาร K Fresh ระบุว่า บริษัทเราเป็นทั้งผู้ผลิต และส่งออก รูปแบบคือ One Stop Service รวมทั้งมีฟาร์มของเกษตรกรในเครือข่ายประมาณ 60 ครอบครัว ครอบคลุมพื้นที่ราว 10,000 ไร่ และมีสวนมะพร้าวที่ปลูกเองด้วย
ในอดีต ครอบครัวของคุณเข็มทัศน์ มนัสรังษี ประธานกรรมการบริษัท ผู้เป็นสามีของคุณวราภรณ์ มีธุรกิจครอบครัวทำน้ำตาลมะพร้าวมาก่อน ซึ่งดำเนินธุรกิจด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยคอนเนคชันที่มีกับเกษตรกรอย่างกว้างขวาง ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับลูกค้าคนไทยในสหรัฐอเมริกาท่านหนึ่ง
เชื่อไหมว่าชาวต่างชาติรู้จักมะพร้าวมากกว่าคนไทย? ลูกค้าท่านนั้นถามเรา เพราะมีแหล่งอ้างอิงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ว่าน้ำมะพร้าวมีแร่ธาตุสารอาหารที่ควรบริโภคอย่างน้อยวันละ 1 ผล
โดยในประเทศอังกฤษมีแคมเปญรณรงค์การดื่มน้ำมะพร้าว ขณะที่อินเดียมีหน่วยงานกรมมะพร้าว ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งแนะนำว่า มะพร้าวน้ำหอมของไทยเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ น่าจะลองทำธุรกิจที่เกี่ยวกับมะพร้าว
นี่คือจุดเริ่มต้นการก่อตั้งบริษัท K Fresh ในปี 2004 และส่งออกมะพร้าวน้ำหอมไปสู่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา
“เรารู้ว่ามะพร้าวน้ำหอมเราดีที่สุดในโลก จุดเด่นคือรสชาติหวาน หอม เราจึงชูเรื่องของมะพร้าวน้ำหอมมาตลอด ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ช่วยตั้งชื่อตามหลังว่าเป็น Young Aromatic Coconut ทำให้คนได้รู้จักมากขึ้น และสื่อสารให้คนเห็นว่ามะพร้าวของไทยแตกต่างจากมะพร้าวที่อื่นอย่างไร”
📌โจทย์สำคัญ “ดื่มน้ำมะพร้าวสด ๆ จากลูกได้ทุกที่ทุกเวลา”
คุณวราภรณ์ กล่าวว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ ต้องการดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำ ดังนั้นโจทย์ของเราจึงต้องคิดว่า มะพร้าวเปลือกหนา จะทำอย่างไรให้เขารู้วิธีรับประทาน จนได้ไอเดียทำลูกมะพร้าวทรง Diamond
ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมก่อนที่จะมีมะพร้าว ‘Coco Thumb’ หลังจากนั้นจึงทำคลิปลง You Tube สอนวิธีเฉาะมะพร้าวให้ลูกค้าชาวต่างชาติ โดยใช้ชื่อคลิปว่า How to open Thai young Coconut ชาวต่างชาติเริ่มใช้มีดเฉาะมะพร้าว ใครเปิดได้จะเป็นเหมือนฮีโร่ ช่วงนั้นการขายมะพร้าวถือเป็นของใหม่ ยังไม่มีใครทำ จึงได้ผลตอบรับที่ดี
โจทย์ต่อมา คือทำอย่างไรให้ลูกค้าสามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา และสามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่หมวด Beverages & Drinks ได้ เริ่มคิดว่าจะติดตั้งอุปกรณ์อะไรในตำแหน่งที่มันเปิดง่าย
ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่ามะพร้าวมี 3 ตา และมีตำแหน่งตาอ่อน ที่มีความเซนซิทีฟมาก หากใช้มีดปาดเอาเปลือกใกล้ตาอ่อนออก น้ำมะพร้าวก็อาจซึมออกมาได้
ซึ่งน้ำมะพร้าวมีสารอาหารสูงมาก เป็นแหล่งเพาะเชื้อได้ดี หากรั่วซึมออกมาจะเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค จึงคิดวิธีการควั่น โดยกลับด้านให้ตามะพร้าวขึ้นมาอยู่ด้านบน
ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรไว้ด้วย จากเดิมที่การทำลูกมะพร้าวทรง Diamond ตาจะอยู่ด้านล่าง
“เป็นประสบการณ์ในการทำมะพร้าว เราไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขายการบริการด้วย คนที่เขาใช้มีดเฉาะมะพร้าวเป็น เขาไม่ต้องเสียเงินซื้อ ‘Coco Thumb’ ก็ได้ แต่ยังมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่อยากได้ความสะดวกสบาย เป็นการเสนอทางเลือก เราคัดคุณภาพมาอย่างดี หวาน หอม อร่อย ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยในช่วงโควิดด้วย ทำให้กลายเป็นไวรัล ได้รีวิวแบบออร์แกนิกมากมาย เราได้กระแสจากปารีส ฮิลตัน โพสต์ลง IG Story ด้วย แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว”
คุณวราภรณ์ มนัสรังษี ผู้บริหาร K Fresh
คุณวราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะผลิตมะพร้าวเป็นลูกแบบพร้อมทาน K Fresh ยังคิดค้นที่เปิดมะพร้าวในรูปแบบต่าง ๆ ก่อนที่จะมีมะพร้าว ‘Coco Thumb’
เมื่อก่อนเรามีนวัตกรรมที่เจาะมะพร้าว คล้ายที่เปิดขวดไวน์ ทำจาก Food grade tainless steel เป็นสกรูหมุนเจาะรูทะลุกะลาได้ แต่ต้นทุนการผลิตแพงมาก และไม่ตอบโจทย์การพกพาเพื่อเปิดรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา
เราจึงยกเลิกการผลิตไป เวอร์ชั่นถัดไปเราจึงทำที่เปิด ให้สามารถรับประทานทั้งน้ำ และเนื้อได้ด้วย ซึ่งได้อนุสิทธิบัตร ลักษณะเหมือนมีดอีโต้สามเหลี่ยมเล็ก ๆ และใช้ค้อนช่วยตอก
หลังจากนั้นยังทำเครื่องเปิดมะพร้าวสำหรับใช้ในครัวเรือน และร้านอาหาร เป็นเครื่องที่ใหญ่ขึ้น
“งาน Asia Fruit Logistica ที่จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ครั้งที่ผ่านมา มีลูกค้าฮ่องกงเดินเข้ามาขอบคุณเรา เขาบอกว่าซื้อที่เจาะมะพร้าวของเราไป ทุกวันนี้เขายังใช้อยู่เลย”
📌ความท้าทายในการส่งออกสินค้าเกษตรอย่าง ‘มะพร้าวน้ำหอม’
คุณวราภรณ์ สะท้อนปัญหาว่า ช่วงแรกมีปัญหาสินค้าเสียหายจำนวนมาก จึงบินไปดูสินค้าด้วยตัวเอง แล้วพบว่ามะพร้าวอ่อนเกินไป
จึงนำฟีดแบคจากลูกค้ามาปรับปรุง ส่วนในแง่ของการ PR และ Marketing ด้วยความที่มันรับประทานยาก ปอกเปลือกยาก น้ำหนักเยอะ ไม่เหมือนลำไย หรือส้ม ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากขายวิธีการของ K Fresh
คือ ขั้นแรก ทำให้มะพร้าวน้ำหอมเป็นที่รู้จักก่อน คนจะอยากขายตามเอง โดยระหว่างทาง เราออกงานในต่างประเทศ และงานของกระทรวงพาณิชย์อยู่ตลอด
ขณะเดียวกัน การเลือกคู่ค้า ต้องเข้าใจสินค้าเราก่อน ต้องรู้ว่าสินค้าตัวนี้ควรไปอยู่กับใคร ไปอยู่กับเขาแล้ว เขาให้คุณค่ามันหรือเปล่า ต้องสื่อสารให้เขาเข้าใจ ปลดล็อก Mindset ให้ได้
หลังจากนั้น เขากลับมาขอบคุณเรา ที่คิดสินค้าตัวนี้มา พาร์ทเนอร์จะต้องเติบโตไปพร้อมกับเรา แม้ช่วงโควิด สินค้าของเราก็ยังตอบโจทย์อยู่
ทั้งนี้ ต้องไม่คิดว่า ไปถึงแล้ว สินค้าจะขายตัวมันเองได้ เพราะต่อให้สินค้าเราดีแค่ไหน ถ้าการตลาดไม่ดี ก็ไม่เกิด เราเริ่มทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์
เริ่มต้นจากการมีแพคเกจจิ้งที่ดี บรีฟดีไซน์ว่า เราจะส่งมะพร้าวไปตลาดต่างประเทศ แต่อยากให้ดูเหมือนมะพร้าวจากฮาวาย เรามีแพคเกจจิ้งที่หลากหลายมาก ปรับเปลี่ยนทุกซีซั่น เพราะเราตระหนักดีว่าหัวใจหลักของการส่งออก คือ สินค้าที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน
ปัจจุบัน K Fresh ส่งออกมะพร้าวน้ำหอมของไทยไปสู่ผู้บริโภคในหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ดูไบ ซาอุดิอาราเบีย ออสเตรเลีย อิตาลี ญี่ปุ่น ฯลฯ
รวมปริมาณกว่า 30 ล้านลูกต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นมะพร้าว ‘Coco Thumb’ และ ‘K Easy’ ขณะที่มะพร้าวทรง Dimond มีการผลิตน้อยลง เนื่องจากมีคู่แข่งทำทรงเดียวกันออกมาจำหน่ายในตลาดเป็นจำนวนมาก
📌จากมะพร้าวส่งออก เกิดเป็น ‘All Coco’ คาเฟ่ปลุกกระแสคนรักมะพร้าว
คุณวราภรณ์ กล่าวว่า ‘All Coco’ ย่างเข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว ทำให้ K Fresh แข็งแกร่งขึ้นมาก เพราะเป็น คาเฟ่มะพร้าวเจ้าแรกของโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนลุกขึ้นมาทำธุรกิจเกี่ยวกับมะพร้าว
“สมัยก่อนกว่าจะนำสินค้าไปขายในห้างได้เป็นเรื่องยาก ต้องแข่งขันกับแบรนด์ต่าง ๆ เราจึงเชิญเจ้าหน้าที่ของทางห้างเข้ามาเยี่ยมชมโรงงาน พอได้เห็น เขาบอกว่ามีพื้นที่ตรงเซ็นทรัลพระราม 2 ชั้น 4
เราจึงได้เริ่มต้นจากที่นี่ ดีไซน์และตกแต่งร้านให้เหมือนร้านที่ซื้อแฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่น ซึ่งวันแรก กระแสตอบรับดีเกินคาด จนมาถึงวันนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ‘All Coco’ มี 9 สาขา และยังขายแฟรนไชส์ไปที่ประเทศอินโดนีเซียด้วย ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากเช่นกัน
นอกจาก ร้านคาเฟ่แล้ว K Fresh ยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการ ‘ดำเนินสะดวก Coco Village’ ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอุตสาหกรรมและวัฒนธรรม
มีการจัด Landscape ทำสวนมะพร้าว สวนพืชผักพื้นถิ่น ตลาดบก ตลาดน้ำ เตาหลอมน้ำตาลมะพร้าว พิพิธภัณฑ์มะพร้าว พิพิธภัณฑ์โอ่งราชบุรี พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ และสวนสาธารณะให้คนในชุมชนได้มาออกกำลังกาย ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีโรงงานมะพร้าว ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ด้วย
ติดตามเรื่องราวของ “K Fresh” ได้ที่
โฆษณา