รีวิว แบกลูกขึ้น “ถ้ำนาคา”
ด้วยใจรักลูกไปไหนก็อยากจะพาลูกไป เลยต้องแบกลูกหนัก 9.5 กก. ขึ้นไปด้วยกัน
ก่อนไปทุกคนรู้คือ….
- 1.จองคิวผ่านแอพ “QueQ” (วันไปนำบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย)
- 2.“จองโรงแรมดีๆ”ไว้พักผ่อนทั้งก่อนขึ้น และโดยเฉพาะหลังปีนเสร็จ
- 3.อาหารและน้ำที่จะนำขึ้นไป
- 4.รองเท้าผ้าใบดีๆ หรือใครมีกำลังซื้อก็ซื้อรองเท้าสำหรับปีนเขาได้เลย
ก่อนจะไปขอบอกเลยว่าเป็นกังวลมาก เพราะอ่านจากหลายๆที่คือ “ไม่แนะนำให้เอาเด็กขึ้นไปด้วย” แต่แม่ดื้อค่ะ และไม่อยากให้ลูกอยู่บ้านกับพี่เลี้ยง เลยตัดสินใจเอาไปด้วย
ความกับวลอีกหนึ่งอย่างคือ แม่ไม่เคยออกกำลังกายเลย มีแต่เดิน-วิ่งตามจับลูกอยู่ทุกวัน ซึ่งคิดว่าไม่เพียงพอ แต่ไปอ่านเจอรีวิวแม่ท่านหนึ่งในพันทิป เคสคล้ายๆกัน ก็เบาใจไปเยอะ (มีเพื่อนแล้ว!!)
เราจองขึ้นถ้ำวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ดังนั้นเลยตัดสินใจไปนอนโรงแรมที่นครพนมก่อนวัขึ้น 1 วัน เช้าออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6.30 น. ไปถึงหน้าสถานที่ลงทะเบียนประมาณ 8 โมงกว่าๆ (ระหว่างทางไปฝนตกแรงมาก ในใจคิดแล้วว่า จนท. อาจจะไม่ให้ขึ้นไป)
ไม่รู้บุญที่ทำมายังมีหรือยังไง พอไปถึงอุทยานฝนไม่มี แต่ก่อนหน้ามีรอยตกหน่อยๆแล้ว
👉ค่าที่จอดรถในอุทยาน 20 บาท นะคะ
เดินมาอีกหน่อย ก็เตรียมบัตรประชาชนไว้ลงทะเบียนหน้าทางเข้าได้เลย (ของกลุ่มแม่ 8 คน รวมลูกด้วย) ใช้บัตรประชาชนใบเดียว (ของคนเดียว) ลงทะเบียนค่ะ
ปล.คุยกับพี่คนนึงในคณะทัวร์ เหมือนว่าใครไปกับทัวร์ต้องดูบัตรประชาชนทุกคนนะคะ
ก่อนจะไปไกลขอลิสต์ของที่เตรียมไปให้ลูกก่อน
- ★เป้อุ้มเด็ก (ขาดไม่ได้เลย ขอให้คุณแม่ๆลงทุนกับเป้สักนิด ของแม่เองราคาพันต้นๆค่ะ)
- ★นมลูก พกไป 3 กล่อง แม่แบกเอง 2 กล่อง ฝากชาวคณะ 1 กล่อง
- ★น้ำ 2 ขวด (จนท. แนะนำให้พกอย่างน้อย 2 ขวดนะคะ อย่าคิดว่าตัวเองดื่มนก้น้อยเด็ดขาด!! มันไม่จริงเมื่อคุณขึ้นไป)
- ★อาหาร แม่เอา ข้าวเหนีวหมูทอด, บัตเตอร์เค้ก, ไข่ต้ม 2 ฟอง (ใครที่คิดว่าคงเหนื่อยกินไม่ไหว คุณคิดผิด!! คุณแม่ดิฉันไม่พกไป ไปหิวตอนอยู่บนยอดแล้ว แนะนำทุกคนควรเอาไป เป็นการเติมพลังให้เราอย่างดี **ก่อนทางขึ้นจะมีชาวบ้านเอาพวกข้าวเหนียวหมูปิ้ง/แซนวิช มาขาย**)
(ยังลิสติ์ไม่ครบแต่บล็อกเต็ม 😂) ต่อจ้า
- ★สเปร์แก้ปวด, ยาดม, พัดลมพกพา, ยาสามัญประจำตัว (ใครที่ไม่พกไปส่วนใหญ่ไกด์จะเตรียมไปเพื่อบริการเราอยู่แล้วนะคะ ยาพาราเขาก็พกกันค่ะ ลืมบอกพวกน้ำดื่มเขาก็พกไปเผื่อเรานะคะ)
- ★แพมเพิส, ทิชชูเปียก (ปกติไม่ให้นำขึ้นนะคะ), ถุงสำหรับใส่ขยะ
👉จำนวนไกด์ที่ขึ้นไปกับเราอยู่ที่ดุลพินิจของ จนท. นะคะ ของเรากลุ่ม 8 คน ได้ไกด์ 2 คน เนื่องจากมีเด็กเล็กและคนที่น้ำหนักเยอะ 1 คน
👉ค่าไกด์แล้วแต่เราจะให้ได้เลยค่ะ
…..เริ่มเดินยังไม่ทันถึงจุด A ก็เริ่มจะท้อ
จุดแรกมี่เจอเรียกว่า “อุโมงค์เต่า”
อุโมงค์เต่า (ยังไม่มช่จุด A นะจ๊ะ)
👉เราเดินขึ้นจากจุด A - L นะคะ ถึงจะถึงจุดลงถ้ำนาคา (ปาดเหงื่อรอกันเลย!)
จากจุดนี้ไปจะเจอบันไดเป็นระยะๆนะคะ เดินขึ้นค่อนข้างสะดวก เดินๆไปเริ่มท้อ พอเห็นป้ายใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย 🥹
จนถึงตอนนี้แม่เริ่มเหนื่อยหอบ คิดในใจไม่น่าเล้ยย ลูกก็เริ่มร้อนเริ่มจะส่งเสียงประท้วงออกมาแล้ว
ป้านงค์ หนึ่งในไกด์ของเรา
เธอเห็นเลขหลัก 1,200 ม. นั่นกันมั้ยเธอ มันอีกแค่นี้เอง
👉น้ำตกก็เปิดให้เข้านะคะ แต่ต้องอยู่ช่วงที่มีน้ำ แม่ไปตอนน้ำแห้งเลยไม่ได้เข้าไปจ้า
ปล2. รูปขาดๆหายๆเพราะความเหนื่อยทำให้ไม่อยากยกโทรศัพท์ขึ้นมา
เดินๆไปไม่ได้สังเกตุอะไรถึงจุด C แล้ว
อีกนิดป้านงบอกว่านี่คือหงอนของท่าน
หงอนท่านพญานาค
เศียรที่เท่าไหร่จำไม่ได้อยู่นะหว่างทางขึ้นไป
เดินผ่านความยากลำบากทั้งหลายมา ทั้งบันได ทั้งเชือก เห็นป้ายแล้วถึงกับร้องห๊ะ!!? เราเดินมาแค่สองร้อยกว่าเมตรเองเหรอ!?
ขาวๆนั่นคือเห็ดนะ
ป้านงค์ให้ถ่ายรูปคู่เห็ดขาวๆที่ย้อยๆลงมา ส่งตัวแทนคือคุณแม่ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ 🤣 (งานจริงสวนอยู่นะ แต่คนถ่ายถ่ายไม่สวยเอง)
เดินต่ออีกหน่อยจะเจอช่องหินหนีบ
พรีเซนเตอร์คนเก่าหมดแรง ส่งคนใหม่ไปถ่ายกับช่องหินหนีบสวยสุดๆ
บันไดแดง
เดินต่ออีกหน่อย (เหรอ) คุณจะเจอกับอีกหนึ่งบันไดที่โหดที่สุด “บันไดแดง” แต่ถ้าใครมาถึงจุดนี้แล้วก็ดีใจได้เลย คุณเดินมาได้ “ครึ่งทาง” แล้ว …..ป้านงค์บอกว่าบางคนมาถึงจุดนี้แล้วยอมแพ้กลับลงไปก็มี!!
หลักกิโลบอกความในใจ อีกนิดเดียว
จุดพักที่จุด I (ไอ)
จะมีจุดพักเรื่อยๆระหว่างทาง ถ้าไม่ไหวตรงไหนสามารถพักได้เลย จุดนี้ถือเป็นจุดพักที่ใหญ่กว่าที่อื่น อาจจะเจอคณะอื่นๆได้ตามทางหรือจุดพักนะคะ ไม่มีใครรีบใครไหวไปก่อนได้เลย 😂 ทุกคนพูดจาน่ารักนิสัยดีกันมากๆค่ะ …..พูดชมว่าแม่+ลูกเก่งมากกันตลอดทาง ☺️ ได้แต่ยิ้มเขินพร้อมบอกขอบคุณกลับไป
ใกล้ความจริงอีกนิด
แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิว
ถึงแล้วจ้า
เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เราจะได้นั่งพักทานอาหารหรือของว่างที่เตรียมกันมา เมื่อทานเสร็จวางกระเป๋าและสัมภาระอื่นๆไว้บนนี้ (เอาของมีค่าติดตัวไป) เพื่อที่จะลงไปในถ้ำนาคากันค่า
ทางเดินลงถ้ำ
ไม่อนุญาตให้สัมผัสหิน (เกล็ด) ที่อยู่รอบๆนะคะ แต่ถ้าจะล้มก็ไม่เป็นไรค่ะ ลุงชา (ไกด์อีกหนึ่งคน) บอกว่าถ้ามาหน้าฝนก็จะได้เห็นสีเขียวของมอสแซมขึ้นมาตามร่องหินให้เห็นสวยๆค่ะ
เราจะเดินเข้าถ้ำผ่านซอกข้างหลังนางแบบนายแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศในถ้ำ
แม่ถ่ายรูปได้เท่านี้มัวแต่ห่วงอธิษฐานขอพรเลยลืมถ่าย 🤣
👉ไฮไลต์ จะมีจุดที่จะให้เรา “ครอบเศียร” ลงไป ตรงนั้นให้เราตั้งจิตขอพรได้เลย ใครกลัวทำผิดไม่ต้องกังวลไกด์จะแนะนำเราก่อนทำทุกอย่างเองค่ะ
อธิษฐานและถ่ายรูปเสร็จแล้วเดินกลับขึ้นไปเอากระเป๋า พร้อมเดินทางลงไปหาเศียรที่ 1 กัน
เดินขึ้นไปจะเจอจุดนี้ ถ้าจำไม่ผิดเรียกถ้ำอยู่เย็นจะมีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์ ไปกราบไหว้ขอพรกัน และจะมีเจดีย์บนยอด ถามป้านงค์แล้ว บันได 140 ขั้น ขึ้นลง 280 ไม่ไปค่า ขอลา
มรถึงจุดนี้ทุกคนต้องถอดรองเท้านะคะ และถือรองเท้าไปด้วยเพราะไม่ได้กลับมาทางเดิมแล้ว
ป้านงค์บอกให้ไหว้หลวงปู่วังก่อน แล้วจึงมาขอพรและโกยทรัพย์กับท่านพญานาค (แม่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเนื่องจากคนเยอะจราจรแออัดมาก และลูกชายได้เข้าบรรทมเรียบร้อย)
กราบไหว้ขอพรเสร็จแลเวก็ไปต่อแถวเพื่อขอพรกะบเศียรที่ 1 กันได้เลย
เศียรที่ 1
เข้ามาจะมี จนท. จัดระเบียบ เพื่อไม่ให้กลุ่มนึงอยู่นานเกินไป พร้อมถ่ายรูปให้ และบอกจุดที่ขอพรกระซิบกับหูของท่านค่ะ
จากนั้นเราก็เดินลง (ที่แปลว่าเดินขึ้น) จะไปเจอกับเศียรสุดท้าย
เศียรที่ 3
มาถึงจุดๆนี่มุกคนไม่ค่อยมีแรงจะทำอะไรกันแล้ว ใจคือต้องลงถึงพื้นราบให้เร็วที่สุด
ตอนลงลำบากพอสมควร เพราะเริ่มหมดแรง ขาแม่สั่นมาก ป้านงค์บังคับให้พักเป็นระยะๆ
ส่วนตัวแล้วแม่รู้สึกว่าถ้านั่งพักนานๆขาเราจะไม่มีแรงเดิน จึงนั่งพักแค่หายหอบแล้วเดินต่อ
สุดท้ายนี้ฝากถึงแม่ๆที่จะพาลูกขึ้นไปด้วย เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ใจเราได้เราก็ทำได้ค่ะ ❤️❤️❤️
ปล3. นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกไม่ค่อยมีอะไร แค่อยากแชร์ประสบการณ์ มีอะไรติชมได้นะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
