12 มิ.ย. 2023 เวลา 04:18 • สุขภาพ

บุหรี่ทั่วไป VS บุหรี่ไฟฟ้า กับความจริงที่ยังมะกึ๊กมะกั๊ก

สวัสดีเพื่อนๆผู้รักสุขภาพทุกท่าน ตัวผู้เขียนมีประสบการณ์การพบเจอกับคนแปลกๆหลายประเภท ไม่ต้องมองไกล บรรดาเพื่อนฝูงมิตรสหายใกล้ๆตัวนี่แหละครับ พวกเขาจัดอยู่ในกลุ่มผู้รักสุขภาพ แต่ ลด ละ เลิกความเพลินไม่ได้ บางคนออกกำลังกาย บางคนคุมอาหารเลือกกินเฉพาะสิ่งที่มีประโยชน์ เพื่อยืดอายุให้ได้อยู่กับครอบครัวนานๆ ในขณะที่บางคนต้องการยืดอายุเพื่อการได้อยู่ปาร์ตี้สังสรรค์ (มีอยู่จริงๆนะ)
สรุปคือ เป็นโมฆะบุรุษ และ โมฆะสตรี ที่รักษาสุขภาพเพื่อจะได้สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเคมีอย่างอื่นที่สามารถสร้างความสุขได้ไปอีกนานๆ ถึงกระนั้นตัวผู้เขียนก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านหรือรู้สึกสนับสนุนพวกเขาเหล่านั้น อันเนื่องมาจากอิสระทางความคิดและการเลือกของแต่ละคน ก็ที่นี่ (สยามประเทศ) เป็นประเทศประชาธิปไตย (ใช่หรือไม่?)
ในอดีตตัวผู้เขียนเองก็เวียนว่ายอยู่ในวงจรกับดักการตลาดจำพวกนี้ ส่งผลให้เสพย์ติดสุรา และบุหรี่อย่างหนัก เพราะขาดความรู้และมากไปกว่านั้นคือขาดข้อมูลที่เป็นความจริง แม้แต่นักวิชาการเฉพาะทาง (ขอไม่เอ่ยว่าอาชีพไหนเนื่องจากเป็นข้อมูลจากบุคคลเพียงเล็กน้อยจากสายอาชีพนั้น) ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นความจริง แต่ไม่พูดความจริงทั้งหมดโดยมีนัยสำคัญเป็นสาเหตุ ก็นั่นล่ะครับ เบื้องหลังเรื่องนี้มีอำนาจมากกว่าที่เราคิด แนะนำว่า โปรดพิจารณาด้วยทุกอย่างที่ท่านมีเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น
แต่ถ้าท่านรู้สึกเหนื่อยที่จะทำอะไรแบบนั้น ผู้เขียนขออนุญาตย่อยให้ฟัง ตัวผู้เขียนไม่มีแรงจูงใจจากบุคคลหรือองค์กรใดในการเขียนบทความนี้นอกจากต้องการนำเสนอประสบการณ์ตรงของตัวผู้เขียนเองที่กระหายในความจริงก็เท่านั้น
สมัยหนุ่มๆ ตัวผู้เขียนมีประสบการณ์ในช่วงที่บุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามาในไทยตั้งแต่ยุคแรกๆที่ยังไม่แพร่หลาย โดยมีคำโปรยว่า "ไม่อันตราย" หรือ "อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป" ในสมองตอนนั้นคิดว่าน่าลอง หลังจากได้ทดลองปรากฏว่ามีข้อดีเพิ่มมากขึ้น เช่น ราคาถูกกว่าบุหรี่ปกติ, ใช้ทดแทนกันได้ (ความรู้สึกส่วนตัว) หรือกลิ่นไม่เหม็นสูบที่ไหนก็ได้ เอ๊ะ นี่มันดีไปเสียทุกอย่างเลยหรืออย่างไร เปล่าเลยครับ นี่เป็นข้อดีที่ตาเห็นเท่านั้น ไม่ใช่ข้อดีที่มาจากผลการทดลองในแล็บ
ในเวลาต่อมามีการแชร์ข่าวต่างๆบนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า เช่น อันตรายกว่าบุหรี่ปกติ มีสารพิษเจือปนในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีมาตรฐาน หรือ เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งมากกว่าบุหรี่ปกติหลายเท่า เชื่อไหมครับตอนนั้นตัวผู้เขียนสั่นและเลิกบุหรี่ไฟฟ้าแบบหักดิบทันที ไปหมดแล้วสมงสมอง แถมกลับไปสูบบุหรี่ปกติเสียอย่างนั้น ติดกับดักการตลาดเข้าไปเต็มรัก ปัจจุบันผู้เขียนเลิกหมดทั้งสองรูปแบบด้วยสาเหตุบางประการ
เรามาดูส่วนประกอบที่เป็นพิษและคุณสมบัติของพิษเหล่านั้น
นิโคติน (Nicotine) การรับนิโคตินเข้าสู่ร่างกายส่งผลทำให้เกิดการการระคายเคืองในทางเดินหายใจ ท้องเสียคลื่นไส้อาเจียน, อัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น, ทำให้เสพย์ติดเทียบเท่าเฮโรอีนและโคเคน, เป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง หากเสพย์ในปริมาณมากเกินไปส่งผลให้เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง นำไปสู่หัวใจล้มเหลว [1] และนิโคตินสามารถตกลงบนพื้นผิววัตถุได้ โปรดคำนึงให้ถี่ถ้วนกรณีมีเด็กเล็กในบ้าน (สารชนิดนี้พบในบุหรี่ทั้งสองแบบ)
ทาร์ (Tar) สารคล้ายกับน้ำมันดิน เหนียวๆหนืดๆ เกิดจากขั้นตอนการเผาไหม้แต่มันไม่เปลี่ยนเป็นควันครับ มันจะตกตะกอนในปอดแทน พอมันไปรวมกันมากๆก็จะจับกันเป็นก้อน ทำลายเซลล์ปอด และ ทำให้เกิดมะเร็งปอด [2] ในส่วนของระบบเลือดทาร์สามารถไปสะสมที่ผนังหลอดเลือดได้เช่นกัน ทำให้หลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น และ ตีบตัน นำไปสู่โรคหัวใจล้มเหลว [3] (พบเฉพาะในบุหรี่ทั่วไปเท่านั้น)
คอร์บอนมอนอกไซด์, ฟอร์มาลดีไฮด์ และ เบนซีน เกิดจากขั้นตอนการเผาไหม้และเปลี่ยนเป็นควันลงสู่ปอดขออธิบายสั้นๆ
-เบนซีน เป็นองค์ประกอบของปิโตรเลียม ใช้เป็นตัวทำละลายในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นสารก่อมะเร็ง การสูบบุหรี่ทั่วไปจะผลิตเบนซีนประมาณ 200,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร ในขณะที่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะผลิตเบนซีนประมาณ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร (อากาศที่ดีควรมีเบนซีนอยู่ไม่เกิน 1 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร) [4] (สารชนิดนี้พบในบุหรี่ทั้งสองแบบ)
-คาร์บอนมอนอกไซด์ ปกติ คาร์บอน 1 อะตอมจะสามารถจับกับออกซิเจนได้ 2 อะตอมเราเรียกแก๊สชนิดนี้ว่า คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมันคงตัว (เสถียร) แต่คาร์บอนมอนอกไซด์ มันคือ คาร์บอน 1 อะตอมที่จับกับ อ๊อกซิเจนเพียง 1 อะตอม มันไม่เสถียรครับ เพราะฉะนั้นเมื่อเราสูดแก๊สชนิดนี้เข้าปอด มันจะไปแย่งออกซิเจนจากเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนนำไปสู่ผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและระบบการทำงานของหัวใจ (สารชนิดนี้พบในบุหรี่ทั้งสองแบบ)
-ฟอร์มัลดีไฮด์ เป็นสารก่อมะเร็ง และ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ [5] น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนประกอบของ โพรพีลีนไกลซอล และ
กลีเซอรอล เป็นของเหลวใส หนืด หวานเล็กน้อย มีคุณสมบัติดูดความชื้น ถ้าถูกความร้อนจะย่อยตัวเป็นฟอร์มัลดีไฮด์ได้ มีความสัมพันธ์กับความร้อนแบบแปรผันตามกัน (ยิ่งร้อนมากยิ่งกลายเป็นฟอร์มัลดีไฮด์มาก) แต่ความร้อนปกติในบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ร้อนขนาดนั้นครับ ระดับฟอร์มัลดีไฮด์ในบุหรี่ไฟฟ้ายังคงน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไปถึง 6 เท่าอยู่ดี [6] (สารชนิดนี้พบในบุหรี่ทั้งสองแบบ)
-โรคปอดอักเสบรุนแรง (EVALI) ที่เป็นข่าว มีสาเหตุมาจากบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่รายละเอียดคือ มีงานวิจัยตีพิมพ์ [7] พบสารชนิดหนึ่งในน้ำล้างปอดของผู้ป่วยที่อาจเกี่ยวโยงไปถึง EVALI มันคือ VAE หรือ Vitamin E Acetate ผสมอยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าประเภทสารจากกัญชา (THC or CBD) เพื่อให้ผู้เสพย์ดูดซึม THC เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น โดยไม่มีการศึกษาผลกระทบของ VAE ก่อนนำมาทำผลิตภัณฑ์ ผู้ที่กำลังใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีสารกัญชาผสม (THC or CBD) ควรหลีกเลี่ยงอย่างเร่งด้วย และ ควรปรึกษาแพทย์
สรุปจากความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
1.บุหรี่ทั่วไปมีความอันตรายมากกว่าบุหรี่ไฟฟ้า
2.บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าก็จริงแต่ก็ยังอยู่ในระดับอันตรายเช่นกัน
3.งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้ายังขาดข้อมูลสำคัญอยู่ คือ ผลกระทบระยะยาวของบุหรี่ไฟฟ้า อันเนื่องมาจากความนิยมในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเริ่มต้นได้ไม่นาน
4.ความคิดส่วนตัวของผู้เขียน ท่านที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากบุหรี่ไฟฟ้าในขณะนี้ (12 มิถุนายน 2566) สถานะของท่านคือ หนูทดลอง ให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากบุหรี่ไฟฟ้า ตัวผู้เขียนไม่ห้ามและไม่ส่งเสริม ทุกอย่างขึ้นกับวิจารณญาณของท่านในการเลือก
5.ส่วนท่านที่ยังสูบบุหรี่ทั่วไปอยู่ สถานะของท่านคือ ผู้ป่วยที่ตกเป็นเหยื่อการตลาด ผู้เขียนเชื่อว่าทุกท่านไม่มีใครที่อยากสูบบุหรี่มาตั้งแต่แรกคลอด ทุกอย่างล้วนเกิดจากปัจจัยบางอย่างเสมอ เหมือนไฟที่เกิดจากประกายไฟ
5.Evali โรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ยังอยู่ในกระบวนการวิจัยและหาสาเหตุ โดยมีแนวโน้มไปทาง Vitamin E Acetate เป็นสาเหตุ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ 100%
6.ยังมีโรคยิบย่อยอีกมากมายที่เกิดโดยทางตรงและทางอ้อมจากบุหรี่ทั่วไป ผู้เขียนขอละไว้เนื่องจากต้องการเปรียบเทียบ โรคที่เกิดร่วมกันระหว่าง 2 ผลิตภัณฑ์ เท่านั้น
7.ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกี่ยวโยงกับกลไกตลาดขนาดใหญ่ ทิศทางของบุหรี่ไฟฟ้าในไทยจึงยากที่จะคาดเดา สามารถดูแนวโน้มของแต่ละประเทศทั่วโลกได้จากภาพด้านล่าง
Image by mapchart.net and ArrowDisc
ทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอปรบมือให้ ท่านเป็นหนึ่งในผู้ใฝ่หาความรู้ ใฝ่หาความจริง และขอบคุณที่ติดตามอ่าน ผู้เขียนจะผลิตบทความดีๆ ใหม่ๆ มาเสริฟทุกท่านในเร็ววัน
บทความโดย ArrowDisc
References
1. Aseem Mishra, Pankaj Chaturvedi, Sourav Datta, Snita Sinukumar, Poonam Joshi, Apurva Garg. Harmful effects of nicotine. Indian J Med Paediatr Oncol. 2015 Jan-Mar; 36(1): 24–31.
doi: 10.4103/0971-5851.151771
2. D W Kaufman 1, J R Palmer, L Rosenberg, P Stolley, E Warshauer, S Shapiro. Tar content of cigarettes in relation to lung cancer. Am J Epidemiol. 1989 Apr;129(4):703-11.
doi: 10.1093/oxfordjournals.aje.a115185.
3. Justus Klein, Patrick Diaba-Nuhoho, Sindy Giebe, Coy Brunssen, Henning Morawietz. Regulation of endothelial function by cigarette smoke and next-generation tobacco and nicotine products. Pflügers Archiv - European Journal of Physiology. 07 June 2023.
doi: 10.1007/s00424-023-02824-w
4. James F. Pankow ,Kilsun Kim ,Kevin J. McWhirter, Wentai Luo, Jorge O. Escobedo, Robert M. Strongin, Anna K. Duell, David H. Peyton. Benzene formation in electronic cigarettes.
doi: 10.1371/journal.pone.0173055
6. McNeill A, Brose LS, Calder R, Hitchman SC, Hajek P, McRobbie H. E-cigarettes: an evidence update A report commissioned by Public Health
England. Public Health England. 19 August 2015. PHE publications gateway number: 2015260
7. Laura E. Crotty Alexander,corresponding author, Lorraine B. Ware, Carolyn S. Calfee, Sean J. Callahan, Thomas Eissenberg, Carol Farver, Maciej L. Goniewicz, Ilona Jaspers, Farrah Kheradmand, Talmadge E. King, Jr., Nuala J. Meyer, Vladimir B. Mikheev, Peter G. Shields, Alan Shihadeh, Robert Strongin, Robert Tarran. E-Cigarette or Vaping Product Use-associated Lung Injury: Developing a Research Agenda. An NIH Workshop Report. Am J Respir Crit Care Med. 2020 Sep 15; 202(6): 795–802.
doi: 10.1164/rccm.201912-2332WS
โฆษณา