Rouge (1987) ล่ารัก 59 ปี
รักคือภาพลวงตา
หนังรักชั้นเยี่ยมของฮ่องกงมีออกมาให้ชมกันอยู่เสมอ และสำหรับคนที่เติบโตมาในยุค 1980 ก็คงจะมีล่ารัก 59 ปีหรือ Rouge เป็นหนึ่งในหนังฮ่องกงแห่งความทรงจำ
Rouge ไม่ใช่หนังรักซาบซึ้งประทับใจหรือโศกเศร้าสะเทือนอารมณ์ แต่มันสะท้อนภาพความจริงของมนุษย์และเปรียบเทียบสังคมฮ่องกงระหว่างยุค 1930 และ 1980 ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านไปมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงในสังคมฮ่องกงบ้างโดยเฉพาะผู้คน
อาหยวนทำงานในหนังสือพิมพ์ทำหน้าที่ขายโฆษณาย่อย เขามีแฟนอยู่แล้วที่ชื่อว่าอาฉู่ซึ่งทำงานเป็นนักข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน ในคืนวันหนึ่งก่อนที่จะกลับบ้านได้พบกับผู้หญิงที่แต่งกายในชุดกี่เพ้าราวกับคนยุคก่อน เธอแจ้งความต้องการประกาศหาคนหายที่ไม่ได้พบกันนาน
หญิงสาวลึกลับดูเหมือนจะติดตามอาหยวนไปทุกที่ราวกับว่าเธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ที่สุดแล้วเขาก็ทราบว่าเธอไม่ใช่มนุษย์หากแต่เป็นผีที่กลับมาจากนรก กลับมาเพื่อตามหาชายคนรักที่ฆ่าตัวตายบูชาความรักด้วยกัน แต่เมื่อเธอไปถึงนรกกลับไม่พบวิญญาณของเขา และเมื่อเธอกลับมาตามหาเขาก็พบว่ามันเป็นฮ่องกงในปี 1987 ไม่ใช่ในยุค 1930 แต่อย่างใด
Rouge จึงเป็นการเดินเรื่องขนานกันระหว่าง 2 ไทม์ไลน์ผ่านตัวละคร 4 ตัวที่เป็นคู่รักต่างยุค เราได้ทราบตั้งแต่ตอนต้นเรื่องที่เป็นยุค 1930 แล้วว่าผีสาวตอนนี้มีชื่อว่าเฟลอร์เธอเป็นนางโลมชั้นสูงค่าตัวแพงคอยให้บริการลูกค้ากระเป๋าหนัก
เฟลอร์เป็นนางโลมมาตั้งแต่เด็กต้องรับแขกครั้งแรกเมื่ออายุได้ 16 ปี เธอมีหลากหลายบุคลิกสามารถขับร้องสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าด้วยเสียงที่ไพเราะ
ในวันที่กำลังรับรองกลุ่มลูกค้าคหบดีเศรษฐีกระเป๋าหนักอยู่นั้น เธอก็ได้พบกับเฉินเจิ้งปังหรือที่คนทั่วไปเรียกว่าคุณชาย 12 ทายาทร้านสมุนไพรที่มีฐานะ จริงแล้วเขาเป็นคุณชายรองของตระกูล แต่พี่ชายเสียชีวิตทำให้เขาต้องแบกรับการดูแลตระกูลต่อไปในอนาคต ซึ่งควรจะเรียกเขาว่าคุณชายรองมากกว่า แต่เมื่อนับลำดับญาติต่างๆ แล้วเขาเป็นลำดับที่ 12 คนทั่วไปจึงเรียกเขาว่าคุณชาย 12
ในวันที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกเฟลอร์แต่งกายเป็นบุรุษขับกล่อมร้องเพลงจนทำให้คุณชาย12 พยายามต่อเพลงกับเธอ และกลายเป็นความประทับใจเขาตามจีบเธอให้ของกำนัลต่างๆ มากมาย จนกลายเป็นความรัก แต่ก็เป็นไปตามเรื่องราวที่ว่าหญิงนางโลมจะครองคู่กับคุณชายสูงศักดิ์ได้อย่างไร เมื่อหน้าตาของครอบครัวคหบดีมีค่ามากกว่าความรักยิ่งนัก ทั้งคู่จึงตัดสินใจจบชีวิตตนเอง
นั่นคือเรื่องราวที่อาหยวนและอาฉู่คู่รักหนุ่มสาวในยุค 1980 รับทราบจากปากของผีสาว แล้วมันก็ส่งตรงสะท้อนสู่ความรักของคนทั้งคู่ ทั้งคู่รักกันมากก็จริง แต่จะใช่ความโหยหาโรแมนติกแบบคุณชาย 12 กับเฟลอร์หรือเปล่า เมื่อทั้งคู่เป็นเพียงชนชั้นกลางที่พยายามสร้างเนื้อสร้างตัวในสังคมที่เร่งรีบ
อาหยวนอาจจะมอบของขวัญของกำนัลให้กับแฟนสาวคนรักบ้าง แต่มันก็เป็นเพียงแค่รองเท้าทำงานที่เธอสามารถใส่ได้ในชีวิตจริง เทียบไม่ได้อะไรกับของขวัญที่คุณชาย 12 มอบให้กับเฟลอร์ ที่แสดงถึงความฟุ้งเฟ้อความฟุ่มเฟือยในชีวิตติดหรูหรา โดยเฉพาะตลับชาดสีแดงที่หญิงสาวใช้แต่งแต้มริมฝีปากให้แดงสดราวกับลิปสติกของยุคสมัยใหม่ ซึ่งเฟลอร์พกติดตัวไปทุกที่
สองหนุ่มสาวเรียนรู้ความรักที่แสนโรแมนติกจากผีสาว แต่ว่ามันจะใช่รักที่ยั่งยืนหรือไม่ เมื่อลงประกาศหนังสือพิมพ์แล้ว แต่ก็ไม่มีเงาของคุณชาย 12 ปรากฏให้เห็น ผีสาวเริ่มสงสัยว่าตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านไปแล้วนั้น เกิดอะไรขึ้นกับคุณชาย 12 ชายที่เจอรักอย่างยิ่ง เขาได้เสียชีวิตตามเธอไปหรือไม่ หรือเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาจึงไม่ปรากฏตัว
แล้วอาหยวนกับแฟนสาวก็รู้ความจริงว่าบนเรื่องราวที่แสนโรแมนติกเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว มันเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ เฟลอร์ไม่เคยเชื่อมั่นว่าคุณชาย 12 จะฆ่าตัวตายตามเธอหรือไม่ เธอจึงแอบวางยาเขา ในแง่มุมนี้มันก็เหมือนกับเป็นการฆาตกรรม และเมื่อพยายามสืบลึกลงไปก็พบว่าคุณชาย 12 ได้รับการช่วยเหลือ เขาไม่ตายจากเหตุการณ์เสพฝิ่นเกินขนาดืแต่ทว่าหลังจากนั้นเขาจะอยู่อย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร หนึ่งผีกับสองหนุ่มสาวจึงออกตามหาคุณชาย 12 ในวัยชรา
คุณชาย 12 ชายหนุ่มรูปงามฐานะดีในอดีตทปัจจุบันเป็นชายแก่อายุ 80 กว่าปีที่ยังคงหากินด้วยการเป็นตัวประกอบในกองถ่ายหนัง ละทิ้งซึ่งชีวิตสวยหรูจมอยู่กับความเศร้าและไร้ซึ่งราศีใดๆ ทั้งสิ้น แล้วเมื่อเฟลอร์ได้พบกับคุณชาย 12 อีกครั้งก็เหมือนกับหมดสิ้นปมในจิตใจเธอ ปล่อยวางและกลับไปสู่ภพภูมิที่ควรจะเป็น
ปล่อยให้สองหนุ่มสาวได้เรียนรู้ความรักในยุคอดีต ความโรแมนติกที่แท้จริงแล้วมันคือภาพลวงและคนทั้งคู่ก็รู้ว่าการรักกันไม่ใช่มีแค่เพียงความรู้สึกของคนสองคน แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ต้องพิจารณาอีกมาก ทั้งคู่สัญญากันว่าจะไม่มีวันฆ่าตัวตายเพราะใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน
ตัวหนังยอดเยี่ยมมากๆในเรื่องของการนำเสนอแง่มุมของการเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยที่ต่างกัน 50 ปียุคสมัยเปลี่ยนแปลงความคิดของคน หนุ่มสาวก็ไม่เหมือนเดิม ในขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นเรื่องของภาพลวงตาตั้งแต่ต้น
เมื่อการพบกันของเฟอร์และคุณชาย 12 ครั้งแรกมันก็เป็นการพบกันที่อยู่ในคราบภาพลวงตา เมื่อเฟลอร์อยู่ในชุดของผู้ชายแต่คุณชาย 12 ที่เป็นชายหนุ่มกลับมีท่าทีอ่อนช้อยกระตุ้งกระติ้งราวกับผู้หญิง ซึ่งเราจะเห็นการเปรียบเทียบของ 2 อย่างที่ต่างกันในลักษณะนี้แทรกอยู่ตลอดเวลา ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในตอนท้าย
ในกองถ่ายหนังที่คุณชาย 12 เป็นตัวประกอบอยู่นั้น เป็นกองถ่ายหนังผีกำลังภายในที่นักแสดงจะต้องแสดงเป็นผีและนักพรตปราบผีในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันสะท้อนภาพความคลุมเครือว่าสิ่งที่เห็นมันใช่สิ่งที่เป็นหรือไม่ ขนาดตัวเฉินเจิ้งปังยังต้องอธิบายหลายครั้งเลยว่าทำไมเขาเป็นคุณชาย 12 แทนที่จะเป็นคุณชาย 2
ความยอดเยี่ยมของ Rouge ส่วนหนึ่งมาจากหนังสือต้นทางที่เขียนโดยลีเลียน ลี เธอเป็นนักข่าวนักเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จสูงมากในฮ่องกง นิยายที่เธอเขียนถูกนำมาสร้างหนังจนประสบความสำเร็จมากมาย ให้ยกตัวอย่างก็คือเรื่อง Green Snake รวมไปถึงFarewell to my Concubine และเทียนฟง คนตรง 3,000 ปีก็เป็นหนึ่งในงานเขียนของเธอ สิ่งที่ตัวหนังเปลี่ยนแปลงไปจากนิยายคือเฟลอร์ผีสาวในนิยายจะมาในลักษณะวิญญาณที่คอยปรากฏให้เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง แต่สำหรับในหนังได้เปลี่ยนแปลงให้เธออยู่ในสภาพเหมือนกับคนๆหนึ่ง
ตัวหนังกำกับโดยสแตนลี กวน ผู้กำกับที่ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ลูกที่ 2 ของฮ่องกง และเขาเป็นผู้กำกับหนังฮ่องกงคนแรกๆที่ออกมาประกาศตัวว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ เขาทำ Rouge ให้เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซเรื่องหนึ่งของฮ่องกง ได้มองเห็นยุคสมัยของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเมื่อย้อนเอากลับมาดูในปี 2566 นี้ ผมยิ่งรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นเหมือนแคปซูลเวลาที่พาเรากลับไปในฮ่องกงยุค 80 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
จุดที่ผมชอบมากๆเลยก็คือการให้รายละเอียดของตัวละครที่ค่อยๆใส่เข้ามาโดยไม่ได้ยัดเยียด ทำให้เราเห็นความแตกต่างของเฟลอร์และคุณชายเฉินแล้วค่อยๆื ซึมซับว่าเธอเป็นหญิงแกร่งที่มีความมั่นคงในจิตใจ ในลักษณะของผู้หญิงแถวหน้า แม้จะเป็นเพียงนางโลม ในขณะที่คุณชาย 12 เต็มไปด้วยความโลเลแล้วไม่กล้าตัดสินใจ ฉากที่โดดเด่นมากๆก็คือการที่เฟลอร์ไปพบแม่ของคุณชาย 12 ด้วยตัวคนเดียวเพื่อขอความเห็นใจ แต่ก็ถูกตอบกลับมาแบบผู้ดีจนเจ็บแสบ
การจัดภาพในหลายๆครั้งที่เป็นฉากสำคัญๆเราจะเห็นเสมอว่าเฟอร์มักจะยืนอยู่มุมหน้ากล้องใกล้กับผู้ชมมากกว่าคุณชาย 12 ที่อยู่เบื้องหลังเฟลอร์ เหมือนกับว่าเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้หญิงแกร่ง และยิ่งเปรียบเทียบชัดเจนที่สุดกับการแสดงออกที่ทำให้เห็นว่าในหนังเรื่องนี้ผู้หญิงแต่ละคนมีบทบาทที่แกร่งกว่าผู้ชาย ทั้งอาฉู่ที่มองทุกอย่างด้วยความจริง มีความมั่นใจและมีบุคลิกเป็นผู้นำมากกว่าหยวน หรือแม่ของคุณชาย 12 ที่ซ่อนความลึกร้านเอาไว้ภายใต้มารยาทผู้ดี ในขณะที่พ่อของคุณชาย 12 มักจะเจ้าอารมณ์
เหมยเยี่ยนฟางกับเลสลี จางนั้นโดดเด่นมากๆ โดยเฉพาะเหมนเยี่ยนฟางที่แทบจะปรากฏตัวตลอดทั้งเรื่อง เธอสามารถที่จะโอบอุ้มหนังเอาไว้ได้ทั้งหมด ทั้งใบหน้าที่ดูลึกลับบุคลิกที่แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในความรัก และน่าสงสารในตอนที่เป็นผีสาวก็ดีไปหมด ซึ่งจริงๆแล้วสแตนลี กวนกับเฉินหลงซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างตั้งใจจะให้เจ้งอี้เจียนมารับบทคุณชาย 12
แต่เหมยเยี่ยนฟางยืนยันหนักแน่น แลกมาเพื่อที่จะให้โอกาสกับเลสลี จาง ซึ่งมันกลายเป็นว่า Rouge คืองานที่ดีที่สุดของคนทั้งคู่ เสียดายว่าทั้งสองก็เสียชีวิตในปีเดียวกัน ส่วนบทคู่รักยุค 1980 ได้วานจือเหลียงกับจูเปาอี้มารับไป
ตอนนี้ผมเห็นมีให้ดูทาง Iqiyi แบบสมาชิก VIP ซึ่งมีหนังฮ่องกง 70-80-90 เยอะมาก
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
