15 มิ.ย. 2023 เวลา 03:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปหลัก “กุญแจ 5 ดอก” หาหุ้นดี ราคาเหมาะสม สไตล์ VI

หากเราอยากเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ประสบความสำเร็จ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ที่จะต้องมีความรู้ในการวิเคราะห์กิจการของบริษัททั้งในเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ
ซึ่งถ้าหากใครที่อยากเรียนรู้หลักการลงทุน สำหรับการเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ “หลักการกุญแจ 5 ดอก” ของคุณ J. Dennis Jean-Jacques นักลงทุนมากประสบการณ์จากสหรัฐอเมริกา
โดยคุณ J. Dennis Jean-Jacques เคยทำงานร่วมกับคุณ Peter Lynch อดีตผู้จัดการกองทุนระดับตำนานที่ Fidelity ก่อนที่จะมาก่อตั้งบริษัท Ocean Park Investments
Ocean Park Investments ทำธุรกิจกองทุนบริหารความเสี่ยง หรือ Hedge Fund ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ซึ่งมีนโยบายการลงทุน ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีสินทรัพย์และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง
ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2016 ถึงปี 2021 กองทุนแห่งนี้สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 11.9% ต่อปี
แล้วหลักการกุญแจ 5 ดอก ของคุณ J. Dennis Jean-Jacques น่าสนใจอย่างไร ?
BillionMoney จะมาสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
หลักการกุญแจ 5 ดอกนี้ ประกอบไปด้วย
1
1. บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดี ที่เราควรจะลงทุนหรือไม่
2
กุญแจดอกที่ 1 คือ การตรวจสอบว่า เรารู้จักและมีความเข้าใจ ในธุรกิจของบริษัทที่เราจะนำเงินไปลงทุน เป็นอย่างดีหรือไม่
1
โดยเราสามารถศึกษาบริษัทที่เราสนใจได้จาก
- การอ่านรายงานประจำปีของบริษัท เพื่อให้เราเข้าใจว่า บริษัททำธุรกิจอะไร อยู่ในอุตสาหกรรมประเภทไหน มีลักษณะการดำเนินงานอย่างไร และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทิศทางไหน
- การตรวจสอบงบการเงินของบริษัท ย้อนหลังไปหลาย ๆ ปีว่า ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
- ตรวจสอบประวัติของผู้บริหารของบริษัทว่า เป็นใครมาจากไหน มีประสบการณ์ทำอะไรมาบ้าง และเป็นผู้บริหารที่มีคุณธรรม มีธรรมาภิบาลดีหรือไม่
2. หามูลค่าที่เหมาะสมของบริษัท
กุญแจดอกที่ 2 ก็คือ การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่เราอยากจะนำเงินไปลงทุน
โดยวิธีในการประเมินมูลค่าที่แท้จริง ก็มีอยู่หลายวิธี เช่น
- ประเมินมูลค่าด้วย P/E
- ประเมินมูลค่าด้วยเงินปันผล
- ประเมินมูลค่าด้วยวิธีกำไรของเจ้าของ
- ประเมินมูลค่าด้วยการคิดลดกระแสเงินสด
โดยเราสามารถนำวิธีการประเมินมูลค่าเหล่านี้ มาใช้เพื่อช่วยในการคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทได้
3. ราคาหุ้นในปัจจุบันของบริษัท ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือไม่
2
กุญแจดอกที่ 3 ก็คือ การตรวจสอบดูว่า บริษัทที่เราสนใจจะซื้อหุ้นเพื่อลงทุนนั้น ราคากำลังอยู่ในจุดที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือไม่
โดยมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ก็คือสิ่งที่เราหามาได้จากขั้นตอนของกุญแจดอกที่ 2
ถ้าหากราคาซื้อขายในปัจจุบันของหุ้นตัวนั้น แพงกว่ามูลค่าที่แท้จริง เราก็ยังไม่ควรซื้อหุ้นตัวนั้น เพราะราคาหุ้นถือว่าแพงเกินไป
4. บริษัทมีปัจจัยอะไรที่จะเป็นตัวเร่ง ให้ราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเร็วขึ้น
1
จากหลักการของกุญแจทั้ง 3 ดอกที่กล่าวมานั้น เมื่อเราเข้าใจในคุณภาพของกิจการของบริษัทเป็นอย่างดีแล้ว
และถ้าหากบริษัทนั้น กำลังซื้อขายกันอยู่ในระดับราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่
แน่นอนว่า สิ่งที่เราควรทำต่อไปก็คือ นำเงินไปลงทุนซื้อและถือหุ้นตัวนั้นไว้ จนกว่าราคาของหุ้นจะกลับไปสู่มูลค่าที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า ราคาของหุ้นจะกลับไปสู่มูลค่าที่แท้จริงเมื่อไร
ดังนั้น เราจึงต้องมีหลักการของกุญแจดอกที่ 4 ซึ่งก็คือ การตรวจสอบดูว่า บริษัทมีปัจจัยอะไรบ้าง ที่จะเป็นตัวเร่งให้ราคากลับไปสู่มูลค่าที่แท้จริงได้เร็วขึ้น
ซึ่งตัวเร่งจะมีอยู่ 2 แบบ คือ
- ตัวเร่งที่เกิดขึ้นภายในของบริษัท เช่น บริษัทอาจจะมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัท สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด
1
- ตัวเร่งจากภายนอกของบริษัท เช่น บริษัทอาจจะได้รับประโยชน์มาจากนโยบายของภาครัฐ ที่ช่วยเอื้ออำนวยให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจได้ง่ายขึ้น ส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัท ให้สามารถเติบโตได้เร็วขึ้น
1
การที่บริษัทมีตัวเร่ง จะเป็นตัวช่วยให้ราคาหุ้นของบริษัท ขยับเข้าไปสู่มูลค่าที่แท้จริงได้เร็วขึ้น
ในขณะที่หากบริษัทที่เรานำเงินไปลงทุนไม่มีตัวเร่ง เราอาจจะต้องใช้เวลาในการรอราคาหุ้น ปรับเข้าสู่มูลค่าที่แท้จริงนานขึ้น
5. มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยในการซื้อหุ้น
กุญแจดอกสุดท้าย ก็คือ การมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย
หรือ Margin of Safety ซึ่งก็คือ ส่วนต่างระหว่างราคาและมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้น
เช่น เราคำนวณแล้วว่า หุ้นของบริษัท A มีมูลค่าที่แท้จริง เท่ากับ 10 บาทต่อหุ้น
แต่ปัจจุบัน หุ้น A กำลังซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น
ถ้าเรานำเงินไปลงทุนซื้อหุ้น A ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น และถือไว้จนวันที่ราคากลับเข้าสู่มูลค่าที่แท้จริง เราก็จะได้รับผลตอบแทนถึง 100%
หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็ถือว่า เราจะมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยถึง 100% ด้วยเช่นกัน เพราะเราซื้อหุ้นมาในราคาที่ถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง ถึงหนึ่งเท่าตัว
1
การมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยสูง ๆ จะเป็นตัวช่วยปกป้องการลงทุนของเรา ไม่ให้เราซื้อหุ้นมาในราคาที่แพงเกินไป
และต่อให้เราประเมินมูลค่าที่แท้จริงผิดพลาด การมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย ก็จะช่วยให้เราไม่ขาดทุนมากจนเกินไป
โดยเราสามารถนำหลักการข้อนี้ ไปใช้โดยการกำหนดตัวเลขส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยขั้นต่ำ ก่อนที่จะซื้อหุ้นตัวไหนก็ตาม เช่น 50% หรือ 60% เป็นต้น
2
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราคงเข้าใจหลักการกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า กันแล้ว
โดยสรุปแล้ว หลักการนี้ก็จะครอบคลุมตั้งแต่การเริ่มต้นหาบริษัทที่มีกิจการที่ดี แล้วคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น และจึงเข้าซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวในราคาที่เหมาะสม..
1
References
-หนังสือ คัมภีร์ VI ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (2015) โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ และมนตรี นิพิฐวิทยา
-หนังสือ The 5 Keys to Value Investing (2002) โดย J. Dennis Jean-Jacques
โฆษณา