เอ็มบัปเป้ ประกาศ "ไม่ต่อสัญญา" กับเปแอสเช ทำไมมันคือข่าวใหญ่มากๆ ในวงการฟุตบอล?
เราปฏิเสธไม่ได้ ว่าเอ็มบัปเป้คือหนึ่งในนักเตะที่เก่งกาจที่สุดในโลก แถมยังมีมูลค่าการตลาดมหาศาล ใครได้ตัวไปจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดทันที
เรื่องราวเป็นอย่างไร ทำไมเอ็มบัปเป้ไม่อยากอยู่ปารีสอีกแล้ว หรือเป็นแค่ "เกม" ของเขาเท่านั้น เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรกนะครับ
ย้อนกลับไปในซัมเมอร์ 2022 เอ็มบัปเป้ ณ เวลานั้น หมดสัญญากับเปแอสเชแล้ว จึงย้ายทีมได้อิสระตามกฎบอสแมน และเขาก็ตอบตกลงปากเปล่ากับฟลอเรนติโน่ เปเรซ ว่าจะย้ายไปเรอัล มาดริด
แต่สุดท้ายเรอัล มาดริดก็ต้องอกหัก เพราะเอ็มบัปเป้ขอแคนเซิลกะทันหัน ทั้งๆ ที่สัญญากันไปแล้ว สาเหตุหลักคือฝั่งเปแอสเชไม่ยอมถอย ยื่นข้อเสนอแบบเต็มแม็กซ์ สัปดาห์ละ 1.3 ล้านยูโร ให้พิจารณา
ด้วยตัวเงินมหาศาลขนาดนั้น ทำให้เอ็มบัปเป้ตอบรับข้อเสนอของปารีส เขาเซ็นสัญญา 2 ปี (สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2024) และมีอ็อปชั่นพิเศษ ต่อสัญญาได้อีก 1 ปี (สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2025)
เรื่องนี้ทำให้เรอัล มาดริดโกรธแค้นมาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ โมโหเหมือนจะไม่เผาผีกับเอ็มบัปเป้ ที่ไม่รักษาสัจจะที่ให้กัน
หลังจากต่อสัญญากับเปแอสเช เวลาผ่านไป 1 ปี ชีวิตของเอ็มบัปเป้ ก็ไม่ได้ดีขึ้นหรือแย่ลง
ผลงานกับสโมสรก็ได้แชมป์ลีกเอิงเหมือนเดิม ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตกรอบเหมือนเดิม และเขาก็ไม่มีโอกาสไปถึงบัลลงดอร์ตามเดิม
จุดนี้ ทำให้เอ็มบัปเป้ต้องตัดสินใจแล้ว ว่าจะปล่อยให้ชีวิตเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ? เขาอายุ 25 ปีแล้ว ยังไม่ใกล้เคียงกับการได้บัลลงดอร์เลยด้วยซ้ำ
วันที่ 12 มิถุนายน 2023 สองวันหลังจบเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศที่อิสตันบูล เอ็มบัปเป้ได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ แจ้งให้เปแอสเชได้รับทราบว่า หลังสิ้นสุดสัญญา ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2024 เขาจะไม่ใช้อ็อปชั่นต่อสัญญาออกไปอีกแล้ว
ความหมายคือ ขอเล่นอีก 1 ปี แล้วจะย้ายออกไปทันทีตามกฎบอสแมน
ถ้าเราคิดดูในมุมของเอ็มบัปเป้ ก็จะพอเข้าใจได้ เพราะเขาไม่มีความท้าทายใดๆ ในลีกเอิงเหลืออีกแล้ว อยู่เปแอสเชต่อ ยังไงก็ได้แชมป์ ที่ผ่านมา ได้แชมป์ลีกเอิง 5 สมัย ดาวซัลโวอีก 5 สมัยซ้อน คือไปจนสุดเพดาน ที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้แล้ว
การอยู่ลีกเอิง มันทำให้เขาบินสูงกว่านี้ไม่ได้ คิดดูว่าคู่แข่งในเจเนเรชั่นเดียวกันอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ คว้าแชมป์ยุโรปไปแล้ว (และอาจได้บัลลงดอร์ในปีนี้) ในขณะที่เอ็มบัปเป้ยังไม่ได้เลยสักครั้ง มันน่าเจ็บแค้นขนาดไหน
เอ็มบัปเป้อาจจะมีเหตุผลของตัวเอง แต่ในมุมของเปแอสเช ก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งเสียลีโอเนล เมสซี่ และเตรียมจะปล่อยเนย์มาร์ออกไปจากทีม ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ สโมสรต้องการคีย์แมนเบอร์หนึ่งอย่างเอ็มบัปเป้ให้อยู่กับทีมต่อ เป็นแกนหลักไปอีกหลายๆ ปี
เปแอสเชไม่คาดคิดว่า การเปย์เงินมหาศาลก็แล้ว การให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในทีมก็แล้ว ยังรั้งเอ็มบัปเป้ไม่อยู่อีก
สำหรับเอ็มบัปเป้ เขาได้เปรียบอย่างมากในการเจรจาครั้งนี้ เพราะเจ้าตัวไม่ต้องรีบร้อนอะไรเลย ถ้าเปแอสเชคิดจะขาย ก็ย้ายเลยทันทีก็ได้ แต่ถ้าเปแอสเชไม่อยากขาย ก็พร้อมจะลงเล่นอีก 1 ปีที่เหลือ ให้หมดสัญญากันไป แล้วจะได้ย้ายไปแบบฟรีๆ
เอ็มบัปเป้ เคยกล่าวตอนไปรับรางวัล UNFP นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง ว่า "ผมยังมีสัญญาเหลืออีก 1 ปี และผมจะลงเล่นต่อที่ปารีสในซีซั่นหน้า" เป็นการคอนเฟิร์มว่า ไม่ได้เร่งร้อนจะย้ายอะไรขนาดนั้น
ตอนนี้ การตัดสินใจจึงถูกโยนกลับไปให้ เปแอสเช ว่าจะเอายังไง โดยพวกเขามี 3 ทางเลือก
- ทางแรก คือรีบขายทันทีตอนนี้เลย ต่อให้เหลือสัญญาอีกแค่ 1 ปี แต่เอ็มบัปเป้ ก็น่าจะขายได้ในเรต 150-200 ล้านยูโร
- ทางที่สอง ใช้เอ็มบัปเป้เต็มๆ ไปอีก 1 ปี ลุ้นแชมป์ยุโรปให้ได้ก่อน ระหว่างนี้ก็ควานหาผู้เล่นใหม่มาแทนที่ แล้วพอจบซีซั่น ค่อยปล่อยให้เอ็มบัปเป้ย้ายฟรี
- ทางที่สาม เจรจาหว่านล้อมให้เอ็มบัปเป้อยู่ต่อให้ได้ แต่คราวนี้อาจต้องเสียค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก 1 เท่าตัว
กระแสจากแฟนบอลเปแอสเชที่ฝรั่งเศส ส่วนใหญ่จะเห็นในทิศทางตรงกันว่า "ถ้าหมดใจก็ไปเถอะ"
แฟนบอลไม่ชอบที่เอ็มบัปเป้จะทำตัวถือแต้มต่อใส่สโมสรขนาดนี้ ถ้าหากจะกดดันกันขนาดนั้น ก็ย้ายทีมไปเลยดีกว่า สโมสรจะได้เอาเงินค่าตัวที่ได้มา เล่นแร่แปรธาตุ หานักเตะใหม่ๆ มาเสริมทัพ
เอ็มบัปเป้ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่า สโมสรเห็นเขาสำคัญที่สุด แต่ถ้าขนาดนั้นยังไม่พอ ก็จบกันตรงนี้ก็ได้
ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งของเปแอสเช ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เลกิ๊ปว่า "ประตูเปิดอยู่ พร้อมให้เอ็มบัปเป้เดินออกไปได้ เราจะสร้างเปแอสเชยุคใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะเน้นความเป็นทีม มากกว่าความสามารถเฉพาะตัว และถ้าแผนการสร้างทีมใหม่ จะเกิดขึ้นโดยไม่มีเขาอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไร"
ณ เวลานี้ บรรยากาศระหว่างเปแอสเช กับ เอ็มบัปเป้ เต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างมาก เราเดาไม่ได้จริงๆ ว่าจะออกมาในทิศทางไหน
คำถามสเต็ปต่อมา คือ ถ้าเอ็มบัปเป้คิดจะย้ายในซัมเมอร์นี้ เขาจะย้ายไปทีมไหน
คำตอบนั้นชัดเจนที่สุดมาตั้งแต่แรก นั่นคือ เรอัล มาดริด
เรอัล มาดริด คือทีมที่เอ็มบัปเป้ชอบ เขามีคริสเตียโน่ โรนัลโด้เป็นขวัญใจตั้งแต่เด็ก คือมันก็สมเหตุสมผล ถ้าเอ็มบัปเป้จะย้ายไปเล่นที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนรู้ดีว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ชื่นชอบเอ็มบัปเป้ที่สุดแล้ว อยากได้ตัวมาร่วมงานกันสักครั้ง และอย่าลืมว่าจังหวะทุกอย่างลงตัวพอดี ที่ตำแหน่งเบอร์ 9 ของทีม ว่างอยู่ หลังจากที่คาริม เบนเซม่า ย้ายไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบีย
การได้เอ็มบัปเป้มาครอบครองล่ะก็ จิ๊กซอว์ทั้งหมดจะสมบูรณ์ทันที แนวรุกที่มี วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้ เติมด้วยเอ็มบัปเป้ จะกลายเป็นสุดยอดสายสปีด ที่ไม่มีกองหลังทีมไหนเอาอยู่
เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ร่ำรวยมากพอ ตัวเลข 150 ล้านยูโร พวกเขาจ่ายได้ ต่อให้เพิ่งเสียเงินซื้อจู๊ด เบลลิงแฮมมาร้อยล้าน แต่ถ้าให้จ่ายอีก เพื่อซื้อเอ็มบัปเป้ ก็ยังจ่ายไหว
แต่ปัญหาสำคัญที่สุดของฝั่งเรอัล มาดริด ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่อง "ความระแวง"
คำอธิบายคือ เรอัล มาดริด เคยยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวเอ็มบัปเป้ถึง 3 ครั้ง ในปี 2017,2021 และ 2022 แต่ก็ไม่สำเร็จแม้แต่หนเดียว ครั้งล่าสุดก็โดนแคนเซิลกลางอากาศ
ดังนั้นมาคราวนี้ ฝั่งเรอัล มาดริด ก็ยังวางใจไม่ได้เลย ว่าเอ็มบัปเป้จะมาไม้ไหน อยากย้ายจริงๆ ไหม หรือว่าแค่ทำท่าทางทะเลาะกันกับเปแอสเช แล้วพอเรอัล มาดริด ยื่นข้อเสนอเข้าไป สองฝ่ายนั้นก็คืนดีกันได้ แล้วต่อสัญญาไปอีก
ลองนึกภาพว่า A กับ B เป็นแฟนกัน แต่ทะเลาะกันรุนแรง แล้ว C ที่แอบชอบ A มาตลอด เห็นว่าเขาจะเลิกกันแน่ๆ เลยเข้าไปพร้อมรอเสียบ พูดประมาณว่า "เรารอ A อยู่เสมอนะ"
แต่ถ้าจริงๆ แล้ว A ไม่ได้อยากเลิกกับ B ล่ะ ที่ผ่านมาแค่งอนกันเฉยๆ รอให้อีกฝ่ายมาง้อ เอาดอกไม้มาให้ แบบนี้คนที่เจ๋อ อย่าง C ถ้าแหลมเข้าไป ก็กลายเป็นหมาเลยนะครับ
ดังนั้น ในสถานการณ์ตอนนี้ เรอัล มาดริด จึงออกตัวมากไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะโดนเอ็มบัปเป้ปั่นหัวอีกหรือเปล่า
ไอ้อยากได้ไหม คำตอบนั้นชัดเจนว่าอยากได้แน่ เรอัล มาดริด ไร้แชมป์ทุกรายการในซีซั่นที่แล้ว แถมเสียเบนเซม่า ยิ่งทำให้พลังเกมรุกลดฮวบ ถ้าได้เอ็มบัปเป้มา ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน
แต่ความอยากได้ ก็ต้องระวังมากๆ เพราะเรอัล มาดริด หน้าแหกมาแล้ว 3 รอบ ถ้าหากโดนนักเตะคนเดิม ฉีกหน้าเป็นรอบที่ 4 มันก็เกินจะรับไหวแล้ว หมดศักดิ์ศรีคำว่าราชันชุดขาวพอดีกัน
บทสรุปของเรื่องนี้ คือเราเดาใจเอ็มบัปเป้ไม่ได้เลยว่าคิดอะไรอยู่ เขาเบื่อเปแอสเชแล้วจริงๆ หรือแค่เล่นเกมอะไรสักอย่าง
ภาพที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จะเป็นเปแอสเช, เรอัล มาดริด หรือทีมอื่นๆ ที่ไม่ใช่สองทีมนี้ เอ็บบัปเป้จะไปอยู่ไหน เราต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
#NEXTDESTINATION
- 43
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
