2 ก.ค. 2023 เวลา 03:13 • นิยาย เรื่องสั้น
The Ghost House

#เรื่องผีมีอยู่ว่า #TheGhostRadio

เรื่อง: สองแฝด/ เล่าโดย: คุณซีน
คลิกฟัง 👉 https://youtu.be/mnMp3iS5vd8
“อยากกินไหม เปิดประตูให้พี่สิ” คำที่เชิญชวนเด็กหญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้ชะตาชีวิตจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอเอง!!!
เรื่องราวเริ่มจาก 15 ปีที่แล้ว ช่วงป.4 หนูมีพ่อเลี้ยง แม่ น้องสาวที่อยู่ด้วยกัน พ่อเลี้ยงมักมารับที่โรงเรียนเสมอ ระหว่างทางกลับบ้านพ่อเลี้ยงชอบแวะไปสังสรรค์กับเพื่อน และแม่ของหนูกับน้องก็มักจะรออยู่แล้ว
พอใกล้ถึงบ้านเพื่อน หนูขอพ่อแวะซื้อของเล่น ที่ร้านระหว่างทางและบอกว่าจะเดินไปบ้านเพื่อนพ่อเอง ด้วยความชินและมาบ่อยพ่อเลี้ยงเลยอนุญาต ในเวลาช่วงนั้นก็เริ่มมืดแล้ว ซึ่งในซอยมีหมู่บ้านที่มักมีการเผาถ่านอยู่เป็นประจำ
หนูก็เดินมาเรื่อย ๆ เจอบ้านหลังหนึ่ง มีคุณยายกำลังเผาถ่านเดินมาทักหนูว่า “อย่ากลับดึกนะ เดี๋ยวจะมีคนตาม” .. หนูรีบตอบ “อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ พ่ออยู่แค่ตรงนี้” พูดจบหนูก็เดินออกมาพร้อมกับได้ของเล่น และเดินกลับไปบ้านเพื่อนพ่อเลี้ยง
ก่อนจะถึงทางเข้าบ้านเพื่อนพ่อ มีกอไผ่อยู่ 2 กอ มีลักษณะคล้ายเพิง ด้านล่างเผาถ่านอยู่ ถัดไปมีตุ่มกับตุ่ม ระดับสายตาหนูมองเห็นผู้ชาย 2 คน ยืนอยู่บนปากโอ่ง 1 คน ด้านล่าง 1 คน ใส่ผ้าขาวม้า วิธีใส่เหมือนกำลังจะอาบน้ำ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เดินอ้อมเข้าบ้านไปหาพ่อเลี้ยงกับแม่ และเล่นของเล่น
ในจังหวะนั้น แฟนของเพื่อนพ่อได้หยิบอัลบั้มรูปเก่า ๆ ออกมา ในอัลบั้ม เรียงรูปเป็น 2 ชั้น เปิดดูกันไปเรื่อย ๆ จนหนูไปสะดุดที่รูปภาพหน้าหนึ่ง เป็นรูปอุบัติเหตุ รูปด้านบนเป็นรูปรถขับชน รูปด้านล่างซีนเห็นเป็นภาพผ้าคลุมสีขาวคลุมร่างคนอยู่บนถนนหนูถามพ่อเขาเป็นใคร ภรรยาของเพื่อนพ่อเลี้ยงบอก 2 รูปนี้ เป็นรูปลูกชายฝาแฝดเขาที่เสียชีวิตไปแล้วพร้อมกัน วันและเวลาเดียวกัน “แต่คนละที่” เพื่อนพ่อก็คุยเล่นกันต่อรำลึกความหลังกันสนุกสนาน
เปิดดูไปเรื่อย ๆ แล้วหนูตกใจอีกครั้ง พร้อมพูดออกมา “นี่ไง พี่ 2 คนนี้ไงที่หนูเห็น” ในรูปเห็นชาย 2 คน ใส่ผ้าขาวม้า คนนึงอยู่บนปากโอ่ง อีกคนอยู่ด้านล่าง กำลังจะอาบน้ำ แม่รีบตีมือหนูและถาม “มึงพูดอะไร” .. หนูก็ย้ำ “นี่ไง”
พ่อแม่หันมองหน้ากัน หนูกลัวแม่จะบอกว่าโกหก เลยวิ่งออกไปหาผู้ชาย 2 ที่กำลังอาบน้ำอยู่ตรงตุ่ม และจับมือบอก“นี่ไง” เนี้ยพี่เขาอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกตอนจับมือ เหมือนมือคนมาก น้องสาวหนูวิ่งมาถาม “พี่ซีนคุยกับใคร?”
พ่อเลี้ยง แม่ น้อง และเพื่อนพ่อ ต่างไม่มีใครเห็นด้วย แต่พอหนูหันกลับมามอง พี่ชาย 2 คนนั้นหายไปแล้ว หนูตกใจ พ่อแม่พูดไม่ออก ด้วยความเป็นเด็กมาก หนูวิ่งไปร้องไห้กับแม่แบบกลัวสุดขีด แม่หนูขอตัวพาซีนกลับบ้าน และได้พาหนูไปวัดแห่งหนึ่ง เพื่อรดน้ำมนต์ ปัดเป่าให้ลูกดีขึ้น และหลวงพ่อให้พระมา เพื่อให้หนูติดตัวไว้
กลับมาถึงบ้าน หนูเข้านอนและเริ่มหลับ หนูฝันถึงผู้ชาย 2 คน ที่เห็นมาตลอด บ่อยจนตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่คน และฝันต่อเนื่องถึงผู้ชาย 2 คนเดิมมายืนอยู่ในบ้าน บ้านหนูเป็นบ้านทรงไทยยกสูง บันไดเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้สไตล์บ้านเรือนไทย
ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงปลายบันไดถือขนมอยู่ แล้วก็ถามหนูเชิงชักชวน “อยากกินไหม เปิดประตูให้พี่สิ” ด้วยความเป็นเด็กของหนู เลยเปิดประตูให้เขาขึ้นมา และบอก“พี่ขึ้นมาก่อนสิ” คนหนึ่งขึ้นมา แต่อีกคนยืนหัวเราะเสียงดังสยดสยองแล้วพูดว่า “มึงมาอยู่กับกู” หนูตกใจตื่น และร้องไห้เพราะกลัวเหตุการณ์ในความฝัน
แม่เลยต้องพาไปหาคุณตา ทางบ้านคุณตาเป็นคนจีน ได้พาไปหาซินแส หาใครต่อใครเพื่อแก้เหตุการณ์ที่หนูเจอก็ยังไม่หายไป
จนไปหาร่างทรงคนหนึ่ง ร่างทรงถามทันที
“ไปพูดอะไรหรือเก็บอะไรมาหรือเปล่า?" หนูก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เดินผ่านบ้านคุณยายหลังหนึ่งได้ ก่อนไปบ้านเพื่อนพ่อ ซีนนึกถึงประโยคการสนทนากับคุณยาย ตอนนั้น หลังจากที่คุณยายเตือน อย่ากลับดึกนะ เดี๋ยวมีคนตาม หนูเดินออกมาจากคุณยาย เผลอพูดประโยคหนึ่ง “แล้วมายุ่งกับกูทำไม ไม่รู้จักกัน” ซีนพูดกับตัวเอง
ก่อนทางเข้าบ้านเพื่อนพ่อ ที่มีเพิงเผาถ่านอยู่ มีตุ๊กตาคล้าย ๆ ดินเผา ลักษณะตุ๊กตาดินเผาเป็นผู้หญิงนั่งพับเพียบ หนูเก็บมาเล่น ร่างทรงบอกหนู “มึงไปหาของดำมา 7 อย่าง” ซึ่งก่อนหน้าที่ซีนยังนึกเหตุการณ์นี้ไม่ออก ร่างทรงบอกให้ไปทำบุญ 7 วัด และท่องคาถาชินบัญชร พอรู้เลยให้หาของดำมา 7 อย่าง เพื่อไปเซ่นตรงที่เก็บตุ๊กตา เพราะเป็นทาง 3 แพร่ง ตากับแม่พาหนูไปทำ และเริ่มสบายใจขึ้น แต่เรื่องราวยังไม่จบ
ปกติแล้ว ผี 2 แฝดที่มาหลอกหนูเห็นแค่ในฝัน ครั้งนี้ มาให้หนูเห็นเป็นตัว ๆ เลย เหตุการณ์หนูยืนคุยกับแม่อยู่ ข้างหลังแม่ หนูเห็นผีตัวนั้นยืนชี้หน้าและบอก มึงต้องมาอยู่กับกู หนูไม่รู้จะทำยังไง กลับไปวัดพระก็ทัก “มึงชะตาขาดแล้ว“ หนูและครอบครัวทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป หนูร้องไห้หนักทุกวันเพราะเจอหนักขึ้น สภาพร่างกายจิตใจก็ไม่ไหวแล้ว
หนูตัดพ้อบอกแม่ “ถ้าหนูไม่อยู่แม่ดูแลตัวเองดี ๆ นะ” พูดไปเพราะคิดว่า ไม่มีทางรอดต้องตายแน่ ๆ หลังจากพูดจบ หนูเดินออกจากบ้านโดยที่ไม่บอกใครเลย มาที่สะพานข้างบ้านนั่งกอดเข่าร้องไห้
มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินมาหาหนู ช่วงเวลาเริ่มมืดแล้ว พระเรียก "ไอ้หนู" หนูหงายหน้าเห็นว่าเป็นพระ ก็รีบพนมมือไหว้ พระท่านใช้ไม้ คล้าย ๆ ไม้ตะพดเคาะที่หัวเบา ๆ 2 ครั้ง และเริ่มสวดบางอย่าง และพูดว่า "เด็กคนนี้เราขอ บิณฑบาตแล้วกันนะถือว่าเราขอ” พูดจบหันมาบออกหนู “ ไอ้หนูเก็บอันนี้ไว้นะ ”พระปล่อยตะกรุดใส่มือหนู“ พระบอกต่อว่าเก็บไว้ตั้งแต่นี้จนถึงวันเกิดของมึง
หนูถามพระ "ท่านจะไปไหน?"
พระบอก "จะไปธุดงค์ที่วัดนี้" ซึ่งเป็นวัดที่พระบอกหนูว่า "ชะตาขาด" และพระท่านก็เดินจากไป หนูไม่ทันมองว่าไปทางไหน เพราะมัวแต่มองตะกรุดที่พระท่านให้มา
หนูรีบวิ่งกลับเข้าบ้านบอกแม่ว่า ได้ตะกรุดมา หลังจากที่ได้รับมา หนูก็ไม่เจอผีอีกเลย หนูเล่าเหตุการณ์เจอพระธุดงค์ให้แม่ฟัง และได้รีบกลับไปที่วัดนั้น เพื่อไปหาหลวงตา และขอพบพระธุดงค์มาที่วัดนี้ หลวงตาบอก "ในวัดนี้ไม่มีพระรูปอื่นนอกจากหลวงตา"
หนูก็เถียงกลับว่า "หนูพึ่งไปเจอมา ท่านบอกจะมาจำวัดที่นี่ หลวงพ่อยืนยัน ก็มีกูอยู่แค่รูปเดียว" หนูจะพูดต่อ แม่ห้ามไว้ “อย่าเถียง เดี๋ยวบาป“ หนูกับแม่เดินคุยกับหลวงตา จนเดินไปเจอโกศอันหนึ่ง ในรูปคือพระธุดงค์ที่ให้ตะกรุดหนู ในรูปพระธุดงค์ มรณภาพไป 12 ปีแล้ว หนูบอกหลวงตาว่านี้คือพระคนเดียวกันที่หนูอยากเจอ หลวงตาบอกหนู ท่านมรณภาพไป 12 ปีทำไมยังไม่ไปไหนพร้อมกับร้องไห้ออกมา หลวงตาพยายามสื่อว่า น่าจะมาปกปักรักษาดูแลลูกหลาน
สรุป คุณยายที่ทักซีนคือใคร ไม่มีใครทราบ ที่ซีนเจอคุณยาย เป็นเพิงเคยมีคุณยายอยู่ และได้ออกจากหมู่บ้านไปนานแล้ว เป็นคนจร เมื่อตอนที่ซีนได้จับมือกับแฝดคนหนึ่ง เชื่อว่าซีนได้เปิดประตูที่ 3 เปิดเซ็นซ์ซีนขึ้นมาซึ่งเกี่ยวพันแค่ทำให้ซีนเจอผีตั้งแต่ตอนนั้น ย้อนไป ผีที่จะมาเอาชีวิตซีน เป็นคนที่ทำงานกับพ่อซีน เคยเลี้ยงดูซีน เลยสรุปกันว่า น่าจะเกี่ยวพันกันด้วยอดีตชาติ
เล่าไว้วันที่ 18 มีนาคม 2566
โฆษณา