สุดขอบฟ้าที่ ปาลาเกอจง .. ดินแดนยูโทเปีย สวรรค์บนดิน
หมู่บ้านบาลาเป็นหมู่บ้านบนภูเขาสูงตระหง่านท่ามกลางหมู่เมฆ ณ ใจกลาง อุทยานแห่งชาติบาลาเกอจง แชงกรีลาแกรนด์แคนยอน ซึ่งก่อนหน้านี้แยกตัวจากโลกภายนอก
เราใช้บริการรถของอุทยานในการเดินทางขึ้นไปสู่ด้านบน ..
ระหว่างทางที่เชิงเขา มีแม่น้ำ Gangqu ที่ไหลเชี่ยวกราก ช่องเขาที่มีความพิเศษน่าพิศวง และบางช่วงเป็นหน้าผา
รถไต่ความสูงและโค้งหักศอก (จริงๆ) ขึ้นมาเรื่อยๆ .. ทิวทัศน์ของเขาสูงชันผ่านสายตาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หวนกลับไปคิดถึงตำนานทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของที่นี่ ผ่านการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมทางศาสนา ที่ทั้งหมดนี้ก่อเกิดเป็นอารมณ์ “แชงกรี-ลา” ที่มีความกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
เราผ่านพื้นที่หลายภูมิประเทศที่ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกัน .. ใครบางคนบอกว่า พื้นที่แห่งนี้มีภูมิประเทศที่เหมือนกับหุบเขาร้อนแห้งซาบาน่าเขตร้อนของแอฟริกา กลางภูเขามีป่าไม้เขียวขจี มีนกและสัตว์หายากนานาชนิด ดอกไม้แปลกตา และต้นไม้แปลกตา ที่หัวของภูเขามีธารน้ำแข็งและทะเลสาบที่กัดกร่อนของน้ำแข็ง มีดอกไม้และฝูงยาจีนหายากขึ้นปกคลุมภูเขา อัลไพน์ทาลัส และทุ่งหญ้าพุ่มเตี้ย
ความสูงที่ไต่ขึ้นไป คือดีกรีของความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นทีละนิด .. รถไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สูงขึ้นๆ มานานพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเราจะถึงจุดสูงสุดซะที
โค้งแล้ว โค้งเล่าที่เราผ่าน ทำให้คิดถึงคนที่ริเริ่มและสร้างทางสายนี้
.. .. เมื่อก่อนการคมนาคมที่นี่ไม่สะดวกมาก ไม่มีถนนมาเป็นเวลานาน .. ล่อและม้าเป็นวิธีเดียวในการขนส่ง ซึ่งชาวบ้านจะใช้เวลามากมายในการออกจากหมู่บ้านเพื่อซื้อของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิต ต้องขอบคุณความพยายามระยะยาวของชายที่ชื่อ Sinadingzhu สำหรับการฟื้นฟูบ้านเกิดของเขาในเทศมณฑลแชงกรีลา
เขาเคยกล่าวว่า .. การสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อหมู่บ้านบาลากับโลกภายนอกเป็นขั้นตอนแรกที่สมเหตุสมผล แต่การสร้างถนนบนภูเขาสูงชันไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งต้องทุบภูเขาทั้งลูกออก และถนนเพียงเส้นเดียวก็ใช้เงินนับสิบล้านหยวน
เมื่อเขาได้เงินมา .. ก็มีผู้พบเห็นซินาดิงจูไปทั่วภูเขา เขายุ่งอยู่กับการสร้างถนนลาดยางที่แกะสลักเข้าไปในภูเขาและวาดพิมพ์เขียวของอุทยานแห่งชาติของเขา
เขาบอกว่า .. "เมื่อเรายังเด็ก เมื่อคนรอบข้างถามถึงบ้านเกิดของเรา เรารู้สึกอายที่จะบอกพวกเขาว่าบ้านเกิดของเราคือหมู่บ้านบาลาที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขา .. แต่สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนไป เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าบ้านเกิดของพวกเขาคือบาลา หมู่บ้านหมู่บ้านแชงกรีล่าในอุทยานแห่งชาติ”
ทุกสิ่งในโลกเป็นสิ่งลวงตา … จิตวิญญาณของมนุษย์ก็สามารถทลายหินผาที่สูงส่งได้ การสร้างถนนที่พุ่งตรงเข้าหาหมู่เมฆคงเป็นหนึ่งในหลายอย่างที่ความแน่วแน่ของจิตมนุษย์สามารถเนรมิตให้สิ่งที่เราอาจจะมองว่าเกินความเป็นจริงที่จะทำให้สำเร็จ ได้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
Shambala Pagoda .. เจดีย์แชมบาลา
ณ จุดสูงสุดของถนนที่ความสูง 4250 เมตร เป็นที่ตั้งของ เจดีย์แชมบาล่า ณ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาหิมะ เกซง ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ .. ผู้ที่เชื่อว่า จิตวิญญาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกอย่างศักดิ์สิทธิ์ … อันเป็นความเชื่อของการอยู่รวมกันระหว่างมนุษย์ จิตวิญญาณ และธรรมชาติ
คำอธิบายเรื่อง เจดีย์แชมบาล่า .. ได้รับการสลักบนแผ่นศิลา ซึ่งอยู่เยื้องๆกับเจดีย์ที่เรียงตัวกันเป็นแนมตามความโค้งของถนน
ด้านหนึ่งของพื้นที่บริเวณนี้ เป็นท้องทุ่ง ซึ่งตรงกลางเป็นธงมนต์หลากสีที่ผู้คนนำมาพัน ผูก และติด ทับถมกันเป็นหมื่น เป็นพันผืน นานหลายสิบหรือหลายร้อยปี
ธงมนต์เหล่านี้ถูกนำมาผูก .. ไม่เพียงแต่เพื่อสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเชื่อว่ายามสายลมต้องธงมนต์จะนำพามนตราและเสียงอ้อนวอนสู่เบื้องบน … เป็นดาวนำทางของผู้คนไปยังแผ่นดินสุขาวดี
ยอดเขาหิมะขาวโพลนที่อยู่ใกล้ๆ … ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เราสามารถที่จะมองเห็น ภูเขารูปทรงพีรามิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นภูเขาธรรมชาติมีรูปร่างคล้ายเจดีย์ สูงตระหง่านใต้ท้องฟ้า ถัดมาคือ รูปปั้นลามะหมอบ และรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์และพระภิกษุสงฆ์
.. เป็นสถูปนกฟีนิกซ์ ที่พระพุทธเจ้าทำนายไว้ และเป็นเจดีย์ธรรมชาติที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ที่จารึกไว้ในพระไตรปิฏก ดึงดูดให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธามาสักการะ และอธิษฐานขอพรมากมาย
.. ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หากมายืน ณ จุดนี้ คุณก็จะได้เห็นธรรมชาติ และความงดงามในแบบที่คุณต้องการ แต่อย่าลืมมองทุกสิ่งด้วยสายตาของเด็กๆ ด้วยการเคลื่อนไปข้าๆ มองทุกอย่างด้วยความหวัง .. แล้วคุณจะได้รับพรของจักรวาล
Shangri La Canyon
แชงกลีล่าแคนย่อน หรือ ปาลาเกอจงแคนย่อน .. เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในมณฑลยูนนานและทั่วประเทศ มีความยาวราว 154 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามระดับประเทศ ตั้งอยู่ที่รอยต่อของมณฑลยูนนาน เสฉวน และทิเบต นอกจากนี้ ยังอยู่ที่พื้นที่แกนกลางของหงซานในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ "แม่น้ำสามสายขนาน" ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแชงกรี-ลา
ปัจจุบัน การชมโตรกเขาในพื้นที่นี้ ที่มักจะเป็น Snow Capped mountains ที่สวยงาม รูปทรงแปลก และลึกลับของช่องเขาในช่องเขา มีช่องเขาบนช่องเขาและโตรกที่มีลักษณะเปี่ยมเอกลักษณ์ทางธรณีวิทยา แบบที่เรียกว่า ธรณีสัณฐานแบบคาร์สต์นี้ สามารถทำได้ง่ายๆ ..
.. สะพานไม้ที่มีแผ่นเหล็กและหมุดเหล็กยึดเข้าด้วยกัน บนฐานรองรับที่แข็งแรง ให้ความมั่นใจว่า เราสามารถที่จะเดินทอดน่อง ชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างปลอดภัย เพียงแค่เตรียมใจ และกำลังขาให้พร้อมในการก้าวเดินในระยะทางราว 2 กม. (One way!)
เราเดินไปตามสะพานไม้ เดินหน้าต่อไปโดยไม่ลังเล .. การเดินทางที่ควรจะน่ากลัวและเหนื่อย แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพราะทิวทัศน์ที่เราเห็นนั้นสวยงามเป็นพิเศษ
ใครๆก็บอกว่า เมื่อเดินบนสะพานให้ลองตะโกนดังๆ แล้วคุณจะได้ยินเสียงสะท้อนกลับ .. เหตุผลก็คือที่ TongtianXia ซึ่งเป็นหุบเขาขนาดใหญ่ของแชงกรี-ล่า มีความยาวราว 4000 เมตร จากก้นหุบเขาถึงยอดหุบเขา หุบเขาเป็นรูปตัว U .. และระยะทางจากภูเขาสองลูกที่อยู่ตรงข้ามกันนั้นมีความใกล้เคียงกัน หน้าผาทั้ง 2 ด้านเป็นรูปม่าน ทั้งหมดมีความสูงราว 1 กม. พุ่งตรงขึ้นไปยังท้องฟ้า และเนื่องจากหุบเขาลึกและแคบ เวลาที่เราตะโกน เสียงจึงก้องตลอดเวลา
จุดชมวิว Balagezong ที่เรามองเห็นจากสะพานไม้ ใช้ภูมิทัศน์หุบเขาเป็นหลัก .. ด้วยตั้งอยู่ในพื้นที่พืชพันธุ์บนเทือกเขาสูง และช่องเขาในที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงนิเวศตามธรรมชาติมีรสชาติที่สูงกว่า ครอบคลุมกว่า ลึกลับกว่า มีภูมิประเทศและพืชพันธุ์ที่สมบูรณ์กว่าในพื้นที่อื่นๆ
ในช่วงที่เราเดินเที่ยว มีฝนตกลงมาปรอยๆ เหมือนละอองหมอก ไม่หนักหนาสาหัสแต่อย่างใด .. กลับทำให้ทิวทัศน์มีเสน่ห์มากมาย ด้วยสายหมอกขาวๆที่แผ่เข้ามาปกคลุมภูเขา และหุบเขาในแบบพาโนรามา ที่เราอาจจะไม่มีโอกาสเห็นหากมาในช่วงฤดูอื่น
ทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าเราขณะนี้ อลังการมาก .. แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของพื้นผิวโลกที่มีมานานนับล้านๆปี … แรงน้ำ แรงลม กระทำให้เกิดเป็นร่องหลืบ หุบโตรก เมื่อมีแสงสาดมากระทบ หรือเคลือบฉาบด้วยสายหมอก จึงสร้างความตะลึงพรึงเพริดด้วยความงดงามที่แปลกตา … นี่คือโลกธรรมชาติที่สุด มหัศจรรย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของหิมาลัย
ก่อนมาถึงที่นี่ ใครๆก็บอกว่าสวย .. แต่ไม่นึกว่าจะงดงามเหมือนที่เราเห็นด้วยตาในขณะนี้
ความสูงของเทือกเขานี้มิได้สำคัญเท่ากับรูปร่างที่แปลก มหัศจรรย์ และงดงาม … เหลือเชื่อจริงๆว่า ณ ความสูงขนาดนี้จะมีผู้คนผ่านไปมา อาศัยมาแล้วนับพันๆปีเหมือนแผ่นดินในตำนาน
ถ้าเหล่าเทพ คือ ความสูง … และด้วยความสูงขนาดนี้ ก็อาจจะทำให้ภูเขาที่รายล้อมที่นี่เป็นหนึ่งในเทพของจักรวาลที่มีจิตวิญญาณของตนเอง
ลึกลงไปในโตรกเขา ... คือ แม่น้ำธรรมชาติที่ไหลอ้อยอิ่ง หรือกราดเกรี้ยวไปตามซอกผา และให้ความงดงาม ความสุนทรียภาพ เมื่อเหลียวมองและเก็บภาพความทรงจำไว้ในเมมโมรี้ของกล้อง
ภูเขาที่รายล้อมที่ เป็นภูเขาที่โดดเด่น สแตนท์เอ้าท์ออกมาจากบรรยากาศรอบตัวเลยค่ะ … ไม่แพ้ภูเขาไหนๆในสวิตเซอร์แลนด์ หรือในแถบแอลป์ยุโรป .. แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยจะเห็นยอดเขา Gezong ซึ่งหากเห็นแล้ว ตามความเชื่อของคนทอเบตจะถือว่าโชคดีมาก
ตรงช่วงเกือบสุดทางเดินบนสะพาน เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นประเภท Zip Line ที่นักท่องเที่ยวสาย Adventure คุ้นเคย .. หากต้องการเล่น จะต้องจ่ายเงิน 120 หยวน สำหรับการเล่นราว 45 วินาที หลังจากการปล่อยผู้เล่นออกจากสถานี จนถึงปลายทางตรงทางเข้า
“โหพี่ .. ที่นั่งนิ่มสบายมาก อุปกรณ์ความปลอดภัยก็เยี่ยม”
“.. เวลาที่เหินฟ้าอยู่กลางอากาศ เหนือหุบเขาของโตรกผาสูง ไม่รู้สึกว่ามีความเสียวเลย .. smooth มากๆ”
.. น้องที่ไปร่วมแจมในกีฬาชนิดนี้ เล่าให้ฟังด้วยสายตาระยับ
ฉันเดินต่อไปยัง สะพานแก้ว เหนือความสูงหลายพันเมตร ..
สะพานแก้วของที่นี่มีพื้นที่ไม่กว้างขวางเท่าไหร่ และไม่ได้ยื่นออกไปในอากาศมากนัก
เดาเอาเองว่า ด้วยความสูงขนาดนี้ ภาวะลมแรงอาจจะเป็นความเสี่ยงที่มากกว่าที่อื่นๆในประเทศจีนที่เราได้ยิน และเห็นในภาพมาก่อนหน้านี้
ฉันเริ่มเดินกลับมาทางเดิม .. กลับมาแวะที่สถานี Zip Line ซึ่งมีลานกว้างๆให้ชมวิว
ฉันออกมายืนอยู่ ณ จุดที่มองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองที่อยู่ด้านล่างในหุบเขา … จุดเดียวกันนี้อาจจะเป็นจุดที่ครั้งหนึ่งหัวหน้าเผ่าที่เคยเป็นผู้ปกครองในดินแดนแถบนี้ ได้มายืนอยู่ในจุดเดียวกัน เพื่อมองลงไปยังความสุข สงบในหุบเขา และดินแดนยูโทเปียที่พระองค์ต้องการ
ฉันยืนอยู่บนเขาสูง ความรู้สึกเหมือนตัวเราเป็นเพียงจุดเล็กๆในจักรวาลที่กว้างใหญ่ … อยากขึ้นไปยืนบนที่สูงๆ เหยียดแขนชูไปบนฟ้า กางขาจนสุด แล้วตะโกนว่า … I am here, on top of the world … ก่อนเสียงจะถูกกลืนหายไปกับธรรมชาติที่งดงาม
สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในเมฆและหมอกยามนี้งดงามมากกว่าที่คำพูดไม่กี่คำจะบรรยายออกมาให้เห็นภาพตามที่ปรากฏในสายตา … อาจจะเป็นขอบฟ้าที่หายไป (Lost Horizon) ความงดงามที่ยิ่งกว่าภาพถ่ายใดๆจะถ่ายทอดออกมาอย่างหมดจด ยกเว้นจะต้องมาเห็นด้วยตาตนเอง
หมู่บ้าน Bala
หมู่บ้าน Bala เป็นหมู่บ้านของชาวทิเบต อันล้อมรอบด้วยภูเขาที่ว่ากันว่า เป็นจุดศูนย์กลางของภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นดอกบัวบาน ในดินแดนที่เงียบสงบ
ใครบางคนบอกว่า .. สไตล์เดิมของที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจะมีลักษณะเป็นบ้านไม้แบบทิเบตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของแชงกรีลา และถูกสร้างขึ้นตามภูมิประเทศของภูเขา ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างพื้นที่ลาดเอียงบนที่ราบสูงและเนินหุบเขา ซึ่งเอื้อต่อฝนและหิมะเพื่อลดแรงกดดันต่อบ้าน
.. ในขณะที่กล่องข้างบ้านเอื้อต่อการรวบรวมสิ่งของบนพื้นที่สูง .. ข้าวบาร์เลย์และเคี่ยวผลหม่อนทุกวัน บ้านทุกหลังเป็นโครงสร้างผสมผสาน อบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน มีความต้านทานแผ่นดินไหวที่แข็งแกร่ง และผนังทำจากดินเหนียว
ในอดีต ด้วยคามแร้นแค้นกันดารของภูเขสูง บรรพบุรุษของคนที่นี่มีภูมิปัญญาในการใช้ชีวิตที่พอเพียงเหมาะสมกับผืนแผ่นดินนี้และทรัพยากรที่มีเพียงน้อยนิดอย่างฉลาดและคุ้มค่า ไม่มีอะไรถูกทิ้งขว้างอย่างเปล่าประโยชน์ …
เจดีย์ ณ ใจกลางดอกบัว .. เชื่อกันว่า เป็นเจดีย์อายุ 1300 ปี นับตั้งแต่ผู้นำและชาวบ้านสมัยโบราณเดินทางมาถึงที่นี่ เป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตและกิจกรรมในชุมชน ..จะมีแค่สีเท่านั้นที่มีการลงฝีแปรงให้เจดีย์ยังคงสดใส เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง
ท้ายหมู่บ้าน .. มองเห็นสายรุ้งพระสูตรหลากสีสันรอบๆ ก้อนหิน Marnyi Stone แกว่งไกวไปตามสายลม ในระยะไกล
และในวันที่ฟ้าเปิด จนเป็นใจให้สามารถมองเห็นภูเขาหิมะ Balagezong ผ่านหมอกได้ลางๆ ทำให้หมู่บ้านดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
ว่ากันอีกว่า .. ชาวบ้านบาลายังคงใช้ภาษาทิเบตที่เก่าแก่ที่สุดพูดกันเมื่อกว่า 1,300 ปีก่อน และแตกต่างจากหมู่บ้านรอบๆ ภาษานี้เรียกว่าซากดึกดำบรรพ์ของภาษาถิ่นคังปาทิเบต
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
