16 มิ.ย. 2023 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ETF ทางเลือกการลงทุน สำหรับคนไม่อยากลงทุนในกองทุนไทย

“ทำอย่างไรดี อยากลงทุนแบบกองทุนรวมที่กระจายในหลากหลายสินทรัพย์หรือหุ้น แต่ไม่อยากลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย” มีเพื่อน ๆ คนไหนคิดแบบนี้กันบ้างไหม
2
เพราะถ้าคำตอบของเพื่อน ๆ คือเห็นด้วย แอดจะบอกว่ามีอีกทางเลือกหนึ่งที่คล้ายคลึงกับกองทุนรวม คือการลงทุนใน ETF
โดย ETF ย่อมาจากคำว่า Exchange Traded Fund ซึ่งมีความหมายตรงตัวคือ กองทุนที่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ไม่ต่างจากหุ้นตัวหนึ่ง และมีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามสิ่งที่อ้างอิง เช่น ดัชนีหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่น ๆ
รู้หรือไม่ว่าแม้ ETF อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่ที่ต่างประเทศกองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยมมาสักพักแล้ว
คำถามที่น่าคิดต่อมาคือ ทำไมคนที่ต่างประเทศถึงให้ความสนใจกับ ETF กัน
คำตอบเพราะ ETF เป็นทางเลือกการลงทุนที่ผสมผสานระหว่างความเป็นหุ้นและกองทุนรวมนั่นเอง ทำให้กองทุนประเภทนี้มีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้
1. ใช้เงินลงทุนน้อย แต่ก็ยังกระจายความเสี่ยงได้ดี
ETF มีข้อดีกว่าหุ้นตรงที่มีเงินก้อนเล็กก็สามารถกระจายการลงทุนในหุ้นได้หลายหลักสิบตัวแล้ว และมีผู้บริหารกองทุนที่คอยปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง
1
2. ค่าธรรมเนียมต่ำ
สำหรับ ETF มีแค่ค่าธรรมเนียมการซื้อขายเท่านั้น (ค่าธรรมเนียมจัดการคิดรวมในช่วงห่างระหว่างราคาซื้อขายไปแล้ว) ต่างจากกองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมหลากหลายประเภท เช่น ค่าจัดการ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ถูกคิดเป็นรายปี ทำให้ ETF มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
และด้วยความที่ ETF เปรียบเสมือนกองทุนรวมอิงดัชนี ที่เป็นการลงทุนแบบ Passive จึงทำให้ค่าธรรมเนียมลดลงไปอีก
3. รู้ราคาซื้อ-ขายแบบเรียลไทม์ และสะดวกในการซื้อ-ขาย
จุดนี้นับว่าเป็นจุดที่ได้เปรียบกองทุนรวมมากที่สุด เพราะปกติต่อให้เรากดซื้อ-ขายกองทุนรวมในเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ทำการ แต่สุดท้ายราคาที่เราจะได้มันคือ ราคา ณ สิ้นวันทำการ ทำให้เราต้องรอลุ้นราคาอีกที ทั้ง ๆ ที่จังหวะกดปุ่มอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีแล้ว
กลับกัน ETF เราสามารถรู้ราคาแบบเรียลไทม์ จะซื้อ-ขายเมื่อไรก็ได้ราคานั้นเลย ไม่ต้องลุ้นให้เสียเวลา หรือเสียโอกาส
และ ETF ยังมีความสะดวกในการซื้อ-ขาย จะขายแล้วเอาซื้ออีก ETF ก็ได้ แต่กองทุนรวมต้องใช้เวลารอในการสับเปลี่ยน หรือการขายออกก็ตาม
แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนใน ETF ได้มาจากส่วนไหนบ้าง ?
คำตอบเหมือนกับกองทุนและหุ้นเลย โดยมาจาก 2 ส่วน คือ
- กำไรส่วนต่างจากราคาซื้อขาย
- เงินปันผล
ปัจจุบัน ETF มีนโยบายการลงทุนให้เลือกมากมาย น่าจะบอกได้ว่าตอบโจทย์หลายคนอย่างแน่นอน โดยจะยกตัวอย่าง ETF ที่ลงทุนในหุ้นแต่ละกลุ่ม เผื่อใครสนใจกองทุนหุ้นกัน
ETF ที่ลงทุนในธีม AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ iShares U.S. Technology ETF (IYW) และ Fidelity MSCI Information Technology Index ETF (FTEC)
ETF ที่ลงทุนในธีม Cloud Computing ได้แก่ WisdomTree Cloud Computing Fund (WCLD) และ Fidelity Cloud Computing ETF (FCLD)
ETF ที่ลงทุนในธีม เซมิคอนดักเตอร์ ได้แก่ VanEck Semiconductor ETF (SMH) และ iShares Semiconductor ETF (SOXX)
ETF ที่ลงทุนในธีมกระแส K-Pop ได้แก่ KPOP and Korean Entertainment ETF (KPOP)
และมีลงทุนในธีมอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ, บริการสุขภาพ, หุ่นยนต์, เกมและอีสปอร์ต, เทคโนโลยีการเงิน จีโนมิกส์ พลังงานสะอาด หรือกัญชาเองก็ตาม
จากเรื่องราวทั้งหมดนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ETF กลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกัน
1
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ผู้ลงทุนสามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุน บทวิเคราะห์ หรือการเสนอขายแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
════════════════════    
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน     
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่     
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest     
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance     
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance     
LINE -  https://lin.ee/4W7j4nG       
#การเงิน #การลงทุน #กองทุนรวม #ETF #Dime #ไดม์  #Dimeออมได้ลงทุนดี
----- 
อ้างอิง 
โฆษณา