17 มิ.ย. 2023 เวลา 13:06 • นิยาย เรื่องสั้น

ปริศนาฮันนีมูนอลวน

.
Murder Mystery 2019
.
เว็บไซต์ Rotten Tomatoes จัดหนังเรื่องนี้ไว้ในประเภทมะเขือเทศเน่า ด้วยคะแนนเพียง 43% เท่านั้น เนื่องจากหลายองค์ประกอบ ที่ทำให้นักวิจารณ์ในต่างประเทศลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เป็นหนังที่ไร้รสชาติและไร้การจดจำ
.
แต่ Murder Mystery 2019 หนังคอเมดี้ที่นำแสดงโดย
อดัม แซนเลอร์ และ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน กลับมาแรงแซง
ทุกเรื่อง และขึ้นแท่นเป็นหนังทำสถิติยอดเข้าชมสูงสุดในสัปดาห์เปิดตัวของ Netflix
การันตีด้วยยอดผู้ชมกว่า 30.9 ล้านแอ็กเคานต์ หลังจาก
ที่เข้าฉายไปได้เพียง 3 วันเท่านั้น!
.
เพราะตัวเลขที่พุ่งสูงสวนทางกับคะแนนจากนักวิจารณ์ ส่งผลให้จากบทวิจารณ์ในช่วงแรก ที่เน้นพูดถึงคุณภาพของหนังโดยตรง
เปลี่ยนมาเป็นบทวิจารณ์ที่วิเคราะห์ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงกลายเป็นม้ามืด กวาดผู้ชมทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
.
เรื่องเล่าของหนูนิจึงขอนำเสนอให้ผู้อ่านหาคำตอบด้วยตัวเอง สุภาพสตรีต้องทำใจหน่อยค่ะ เพราะหนังของอดัม แซนเลอร์ จะ...บ้างเป็นสัญลักษณ์ทุกเรื่อง แฮ่ะๆๆๆ
 
.
นิค สปิตซ์ ทำงานเป็นตำรวจพลตระเวณอยู่ในนิวยอร์ก เขา พยายามสอบเป็นนักสืบ แต่ก็ยังสอบเป็นนักสืบไม่ได้เสียที เพราะฝีมือการยิงปืนที่ไม่ได้เรื่องของเขา
.
นิคแต่งงานกับออเดรย์ซึ่งเป็นช่างทำผมในนิวยอร์กที่มีความใฝ่ฝันอยากไปยุโรป แล้าเธอยังชอบอ่านนิยายสืบสวนและสอบสวนมาก
ทั้งคู่แต่งงานกันมานานถึง 15 ปี โดยที่นิคโกหกภรรยามาตลอดว่าเขาเป็นนักสืบ
.
แต่เพราะทั้งคู่มีปัญหาการเงินมาก นิคเองก็เป็นคนขี้เหนียว(แถม ป.ม. แบบ dirtyอีกต่างหาก)จึงไม่เคยพาภรรยาไปฮันนีมูนที่ยุโรปตามที่เคยสัญญาสักครั้ง
ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ 15 นิคจับสัญญาณได้ว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งคุ่กำลังเสี่ยงอันตราย เขาจึงแถไปซื้อทัวร์ยุโรปราคาถูกๆแก้ลำไปก่อน
.
ความที่นิคซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ออเดรย์จึงแอบเข้าไปในชั้นเฟิร์สต์คลาสเพราะความอยากรู้อยากเห็น จึงทำให้ได้รู้จักกับ ชาร์ล คาเวนดิช ไฮโซสุดหล่อคางชั้นเดียว(ตามที่นิคค่อนแคะ)
เขาชักชวนออเดรย์ไปร่วมงานรวมญาติของเขาบนเรือยอชต์ของลุงที่เป็นมหาเศรษฐีสูงวัย มัลคอล์ม ควินซ์
 
.
เมื่อนิคมาตามออเดรย์กลับ คาเวนดิชก็ชักชวนนิคด้วย แต่นิคปฏิเสธโดยอ้างกับภรรยาว่า สัญชาตญาณของนักสืบทำให้คิดได้ว่า น่ามีเหตุที่ไม่ชอบมาพากล ทำให้ออเดรย์เสียดายโอกาสทองของชีวิต
.
แต่เมื่อลงจากเครื่องเพื่อต่อรถบัสที่มาลากา(ประเทศสเปน) ความที่เป็นทัวร์ซำเหมา
รถบัสที่จะนั่งจึงชุลมุลวุ่นวายลูกเด็กเล็กแดงเต็มไปหมดออ
เดรย์จึงเลือกที่จะไปกับรถเก๋งสุดหรูของคาเวนดิชที่จอดรออยู่โดยมีนิคตามมาด้วย
.
เรือยอชท์ชื่อเมดิเตอร์เรเนียนควีนส์มุ่งหน้าสู่โมนาโก มีเพียงสองสามีภรรยาสปิตซ์เท่านั้นที่ดูผิดที่ผิดทางและผิด
ยุค
โดยผู้เกี่ยวข้องบนเรือถ้าไม่นับกัปตันและลูกเรือประกอบด้วย
.
>>>ซูซี่ สาวน้อยวัย 23 ปี อดีตครูสอนสกี และ อดีตคนรักของคาเวนดิช ปัจจุบันเป็นเจ้าสาวของมัลคอล์ม ควินซ์ เศรษฐีสูงวัย
 
.
>>>โทบี้ ควินซ์ ลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีมัลคอล์ม ควินซ์ ที่เป็นเกย์
.
>>>นักแสดงสาว เกรซ บาลลาร์ด
.
>>>ผู้พันชาร์ล ยูเลนกา จากกองร้อยป้องกันนามิเบีย เขาต้องปิดตาไว้ข้างหนึ่ง ใช้มือปลอมข้างหนึ่งด้วย สิ่งที่เกิดกับเขา เป็นเพราะเขาช่วยชีวิตมัลคอล์ม ควินซ์ ไว้จากระเบิดที่มีผู้ขว้างใส่
.
>>>เซอร์โก เรดเจนโก ชายร่างใหญ่ที่ไม่เคยเห็นเขาพูด อดีตหน่วยรบพิเศษและเป็นองครักษ์ของผู้พัน
.
>>>มหาราชาวิกราม กอวินดัน จากมุมไบ
.
>>>ฮวน คาลอส นักขับรถสูตร 1 บุตรบุญธรรมของมัลคอล์ม ควินซ์
.
แทรก >>>รถสูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูลาวัน หรือ เอฟวัน เป็นการแข่งขันรถระดับสูงสุดจากความช่วยเหลือของสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ
คำว่า "สูตร" หมายถึงกฎกติกาที่ผู้เข้าแข่งขันและรถทุกคันต้องปฏิบัติตาม และแข่งด้วยความเร็วสูงถึง 360 กม/ชม. กับเครื่องยนต์สูงสุด 18,000 รอบ/นาที
.
>>>ชาร์ล คาเวนดิช หลานชายของมัลคอล์ม ควินซ์ ผู้เป็นคนชวนสองสามี-ภรรยามาร่วมงาน
 
.
เมื่อเรือไปถึงนอกชายฝั่งชองฝรั่งเศส มัลคอล์มได้นำกฤชโบราณเล่มยาวจากจีนออกมาให้ชมและพูดถึงพินัยกรรม โดยมีวาทะที่นำเขาไปสู่ความตายดังนี้
.
"คนเราเมื่อมีอายุมากๆ ไม่ใช่ว่าจะคิดถึงการประสบความสำเร็จ แต่คิดถึงความล้มเหลวและคนที่ทำให้คุณผิดหวัง
ต่างหาก เริ่มจาก
.
<<<ซูซี่ เจ้าสาวที่รักของผม ผู้มีชีวิตอีกยาวนาน
.
<<<เกรซ ผู้เจิดจรัสมากในจอเงิน
.
<<<ฮวน คาลอส บุตรบุญธรรมที่นำทีมแข่งรถสู่ชัยชนะ"
 
.
มัลคอล์มหยุดชะงักเมื่อเห็นสามีภรรยาสปิดซ์ แต่เมื่อรู้ว่า
ทั้งคู่ได้รับเชิญจากคาเวนดิช ผู้เป็นหลานชาย มัลคอล์มก็อนุญาตให้ทั้งคู่ร่วมรับฟัง เขาพูดต่อว่า
.
<<<"ชาร์ล คาเวนดิช หลานชายผู้บอกให้ผมระวังตัวเสมอ
.
<<<ผู้พันชาร์ล ยูเลนกา รักษาความปลอดภัยให้ผมหลายปี
.
<<<วิกราม ทรัพย์สมบัติในครอบครัวของเขา เกี่ยวพันกับผมมาตลอด
.
<<<โทไบแอส(โทบี้)ลูกชาย
 
.
ผมพูดถึงทุกคนในพินัยกรรม และคิดว่าพวกคุณคือปลิงที่ดูดกินเลือดของผม ดังนั้นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผมจึงยกให้ซูซี่ เพื่อวันข้างหน้าพวกคุณจะได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง"
.
เกรซก้าวเดืนออกจากห้องทันทีด้วยความโกรธ ท่ามกลางเสียงพึมพัมด้วยความแปลกใจของคนในห้อง คาเวนดิชต่อว่าลุงของเขาที่ฉีกหน้าทุกๆคนโดยที่ผู้เป็นลุงไม่ใส่ใจ
เขาหยิบปากกาเพื่อเซ็นต์ชื่อในพินัยกรรม ทันใดนั้นไฟก็ดับและมีเสียงปืนดังขึ้น
.
เมื่อไฟสว่างขึ้นมัลคอล์มนอนตายอยู่ที่พื้นโดยมีกฤชจีนเล่มนั้นปักที่หัวใจเขาตายสนิท ผู้พันยูเลนการับสารภาพว่าเขาเป็นผู้ยิงปืนเองเพราะเห็นเงาคนกำลังจะฆ่าคุณมัลคอล์ม
นิคสั่งให้ทุกคนอยู่ในความสงบเขาเป็นตำรวจ และห้ามแตะต้องศพแต่ไร้ผล
.
บางคนรีบเดินไปดูว่าพินัยกรรมเซ็นต์ชื่อหรือยังเมื่อพบว่ายังก็โล่งอก บางคนก็ไปค้นตัวศพว่ามีพินัยกรรมฉบับอื่นอีกหรือไม่ แสบสุดก็น่าจะเป็นผู้พันยูเลนก้าที่ดึงกฤชออกจากศพ
.
แต่พอนิคบอกว่าให้ทิ้งไว้อย่างนั้น ผู้พันก็เสียบมันกลับเข้าไปในศพเช่นเดิม ท่ามกลางความสยดสยองของหญิงสาวทั้งสามคน อ้อ!คนที่ 4 เป็นสาวน้อยแต่แก่มากข้าพเจ้านั่นเอง อิๆๆ
นิคสั่งให้กัปตันเรือปิดห้องที่เกิดเหตุและนำกุญแจมาไว้ที่เขา แต่ตอนนี้เขาหิวจึงขนอาหารไปกินที่ห้องโดยไม่ลืมสั่งเมียรักขนซอสและแยมไปด้วย
.
คืนนั้นนิคและออเดรย์ปรึกษากันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นิคปักใจว่าโทบี้ผู้เป็นลูกชายฆาตกรรมพ่อที่ทำให้เขาไม่ได้รับมรดก ประสบการณ์ที่ผ่านมาหากสามีโดนฆ่า ๙๐% เป็นฝีมือของภรรยา คดีนี้ไม่ซับซ้อนเลย แต่แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดและเสียงกรีดร้อง
.
2 สามีภรรยาสปิตซ์จึงรีบวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และพบว่าโทบี้ยิงตัวตายพร้อมทั้งเขียนจดหมายสารภาพผิด
ตำรวจฝรั่งเศสเจ้าของคดีคือ สารวัตรลอเรนซ์ เดอลาครัว จุดเด่นของเขาคือการพ่นควันบุหรี่เป็นวงได้อย่างน่าทึ่ง จนนิคต้องออกปากชม
.
คนแรกที่เดอลาครัวสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรคือสามี-ภรรยาสปิตซ์ ทั้งนี้เพราะเดอลาครัวตรวจสอบประวัติของนิค
แล้วพบว่านิคเป็นตำรวจพลตระเวณไม่ใช่นักสืบอย่างที่โกหกภรรยามาหลายปี นิคเป็นคนถังแตกและล้มเหลว
แต่นิคก็ต้องการพิสูจน์ว่า เขาและภรรยาเป็นผู้บริสุทธิ์
.
สองสามี-ภรรยาจึงออกไปหาข้อมูลจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน จากการพูดคุยกับผู้พันชาร์ล ยูเลนกา ทำให้ทั้ง 2 รู้ว่าตามกฎหมายของฝรั่งเศส ไม่ว่าพินัยกรรมจะระบุอย่างไร ทรัพย์สมบัติต้องแบ่งในหมู่ลูกหลานทุกคน
.
เมื่อกลับถึงห้องพักทั้ง 2 ก็ได้รับจดหมายที่ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร สอดมาทางช่องใต้ประตูให้คนทั้ง 2 ไปพบที่ห้องสวีท 802
เพื่อความปลอดภัย 2 สามี-ภรรยาจึงถือโคมไฟไปเพื่อป้องกันตัว ผู้ที่นัดให้คนทั้งคู่มาหาคือเซอร์โก เรดเจนโก ชายร่างใหญ่ที่ไม่เคยเห็นเขาพูด
.
เซอร์โกทนอัดอั้นต่อไปไม่ไหวจึงเล่าเรื่องราวของผู้พันชาร์ล ยูเลนกา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโคเปนเฮเกน ปี 1994
ขณะที่มหาเศรษฐีมัลคอล์มออกจากห้องจัดเลี้ยง ก็มีคนปาระเบิดใส่ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่ผู้พันเห็น เขาจึงเข้าป้องกันคุณมัลคอล์ม
 
.
ผู้พันสลบไป 9 เดือน เมื่อฟื้นเขาเสียตา 1 ข้าง แขนอีกข้าง และเขายังเสียคู่หมั้นสุดที่รักของเขาให้กับมัลคอล์มอีกด้วย
ถึงตอนอนนี้นิคอดพูดไม่ได้ว่า "มัลคอล์ม หาเมียเองไม่เป็นหรือไง"
.
คู่หมั้นของผู้พันที่ไปเป็นภรรยาของมัลคอล์มเป็นหญิงที่สวยที่สุดที่เซอร์โกเคยเห็น น่าเสียดายที่เธอตายตอนคลอดลูกเด็กก็ตายด้วย แม้เหตุการณ์จะผ่านมาหลายปีแล้วแต่ผู้พันก็ยังไม่ลืมเธอ
.
วันหนึ่งผู้พันมาหาเซอร์โกในสภาพที่เมามาย ผู้พันถามเขาว่าถ้าจะฆ่ามัลคอล์มต้องทำอย่างไร เซอร์โกตอบว่า "หาที่ห่างไกลเมือง สร้างความสับสนแล้วฆ่าเขา"
.
ทันใดก็มีเสียงเคาะประตู เมื่อเซอร์โกเดินไปเปิดเขาก็โดนยิง เป็นโชคดีของสองสามี-ภรรยา ที่เซอร์โกล้มลงและขวางประตูไว้ ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสปีนหนีออกมาทางหน้าต่าง และผ่านห้องของผู้พันที่กำลังใช้ไหมขัดฟัน
.
สองสามี-ภรรยามาโผล่อีกห้องหนึ่ง พวกเขาทำได้แค่ซ่อนตัวใต้เตียง เพราะมหาราชาวิกรามและเกรซทำท่าจะมีอะไรกัน แต่แล้วมหาราชาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าควรจะรู้จักกันให้มากกว่านี้ก่อน
.
เมื่อทั้งคู่ออกไปจากห้องแล้ว 2 สามี-ภรรยาจึงออกไปหาเบียร์ดื่มบ้าง ระหว่างนั้นทีวีกำลังเสนอข่าวเรื่องที่สองสามี-ภรรยาเป็นผู้ต้องสงสัย โดยสารวัตรเดอลาครัวพูด
สรุปเป็นภาษาอังกฤษในตอนท้ายว่า
.
"นิคเป็นทุกอย่าง ยกเว้นนักสืบ"
.
ทำให้ออเดรย์โกรธนิคมากที่ไม่ยอมพูดความจริงกับเธอ ในอดีตที่ผ่านมาทั้งคู่เคยประสบปัญหามากมาย แต่ก็ช่วยฟันฝ่าจนผ่านมาได้
ออเดรย์จึงเดินแยกไปและพบกับคาเวนดิชที่จะช่วยพาเธอหนี เขาเสียใจที่พาเธอมายุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายนี้
.
นิคซื้อมือถือใหม่ 2 เครื่อง เพื่อใช้เอง 1 เครื่อง กันไม่ให้สารวัตรเดอลาครัวตามกลิ่นของเขาได้ อีกเครื่องเขาแอบหย่อนในกระเป๋าของซูซี่
จากนั้นนิคก็ติดต่อไปหาเพื่อนตำรวจของเขาที่อเมริกาให้ทำการเชื่อมสายให้ด้วยเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของซูซี่ รวมทั้งขอให้ช่วยค้นหาข้อมูลบางอย่าง
.
คาเวนดิชจอดรถที่ห้องสมุด เขามีนัดกับทนายความเพื่อปรึกษาว่ายังพอมีทางได้อะไรบ้างจากการตายของลุง เพราะวันนี้จะมีการอ่านพินัยกรรมที่คฤหาสน์ควืนซ์
หลังจากรอคาเวนดิชอยู่ครู่ใหญ่ออเดรย์จึงไปตามคาเวนดิชที่ห้องสมุดและได้พบกับนิค
.
ทั้ง 2 ถูกไล่ล่าจากบุคคลที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็หนีออกจากห้องสมุดจนได้โดยการร่วมมือกันผลักชั้นหนังสือ และได้พบฮวน คาลอส ที่ตลาดรวมทั้งซูซี่ที่วิ่งหนีเข้าไปในฝูงชน แต่แล้วซูซี่ก็ถูกฆ่าโดยผู้สวมชุดดำสวมหน้ากาก
.
เพราะฝีมือยิงปืนที่ห่วยแตกของนิค ทำให้พลาดการจับคนร้าย นิคและคาลอสออกวิ่งตามคนร้าย นิคก็ยังดันหกล้มกลิ้งโค่โล่ไปอีก
เขาจึงทำได้เพียงคว้างสิ่งที่อยู่ใกล้มือไปโดนศีรษะคนร้าย คนร้ายจึงขี่รถจักรยานยนต์หนี
.
นิคโทรไปแจ้งสารวัตรเดอลาครัว ให้ติดตามเขาไปที่คฤหาสน์ควินซ์ คนร้ายคือคาเวนดิช
แต่แล้วเขากลับพบว่าคาเวนดิชตายเพราะถูกฆ่าด้วยยาพิษ สองสามี-ภรรยาจึงต้องเลียนแบบนักสืบดังในนิยาย เฮอร์คูล ปัวโรท์ และ เจน มาเปิ้ล เฉลยปริศนาฆาตกรรม
.
เนื่องจากเป็นวันเปิดอ่านพินัยกรรมคนที่เหลือจึงมากันครบ คือ
.
>>>นักแสดงสาว เกรซ บาลลาร์ด
.
>>>ฮวน คาลอส นักขับรถสูตร 1
.
>>>มหาราชาวิกราม กอวินดัน จากมุมไบ
.
และ >>>ผู้พันชาร์ล ยูเลนกา
 
.
นิคและออเดรย์ ตัดผู้ต้องสงสัยที่มีหลักฐานที่อยู่และพยานบุคคลจนหมด จึงพบว่าเหลือเขา 2 คนเท่านั้นที่น่าจะเป็นคนร้าย
สารวัตรเดอลาครัวจึงแจ้งให้รู้ว่ากฎหมายใหม่ของฝรั่งเศสยกเลิกการประหารไปแล้วเหลือเพียงจำคุก จึงถือว่าเป็นข่าวดีของทั้งคู่ นิคก็เลยนึกขึ้นได้ที่ผู้พันเคยบอกเขาว่า .
"ตามกฎหมายของฝรั่งเศส ไม่ว่าพินัยกรรมจะระบุอย่างไร ทรัพย์สมบัติต้องแบ่งในหมู่ลูกหลานทุกคน"
.
นิคสรุปว่าเกรซเป็นลูกสาวของมัลคอล์ม ที่เกิดจาก แมเดเลน เลอ บัตเตลีเยร์ อดีตคู่หมั้นของผู้พัน และเพราะความ
ที่นิคเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกรซ เขาจึงจำได้ว่าตอนเธอเข้าวงการใหม่ๆ ชื่อของเธอมี 3 พยางค์ เพิ่งมาเปลี่ยนเป็น 2 พยางค์ในภายหลัง
.
นิคอธิบายต่อไปว่าเกรซเกลี้ยกล่อมโทบี้ให้ฆ่าพ่อแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน เธอเป็นคนดับไฟตอนที่มัลคอล์มถูกฆ่า
จากนั้นเธอก็ฆ่าโทบี้ แต่เพราะนิคและออเดรย์สอบถามมากไปจึงต้องเก็บด้วย
.
เป็นโชคร้ายของเซอร์โก้ที่มาขวางทางปืนเขาจึงถูกยิงดาย เกรซยังพยายามฆ่านิคและออเดรย์ในห้องสมุดและที่ตลาด ส่วนการฆ่าคาเวนดิชเพราะเขารักซูซี่ไม่ใช่เธอ
.
เกรซยอมรับว่า แมเดเลน เลอ บัตเตลีเยร์ เป็นแม่ของเธอจริง ด้วยเหตุที่มัลคอล์มต้องการลูกชาย เมื่อแมเดเลนคลอดลูกสาวแล้วตาย
มัลคอล์มจึงยกลูกให้คนอื่น แล้วออกข่าวว่าตายทั้งแม่และลูก
 
.
แต่เมื่อนิคไม่มีหลักฐานมาเอาผิดเธอ เธอก็จะไปใช้เงินของเธอในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของมัลคอล์มเสียที
จู่ๆนิคก็นึกขึ้นได้ว่าเขาใช้จานขว้างไปถูกศีรษะคนร้ายจึงน่าจะมีบาดแผล เกรซไม่ยอมถอดหมวก สารวัตรเดอลาครัวจึงเป็นผู้ดึงหมวกของเธอและพบบาดแผลที่หน้าผาก
เกรซจึงจับออเดรย์เป็นตัวประกันโดยใช้ปืนขู่ นิคยิงเข้าที่ไหล่ของเกรซแม่นราวจับวางจึงช่วยออเดรย์ไว้ได้(ทั้งที่นิคตั้งใจยิงที่ขาของเกรซแท้ๆ)
.
เมื่อคดีเฉลยแล้วว่าคนร้ายเป็นใครต่างคนก็เตรียมแยกย้าย เกรซถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยดำเนินคดี
นิคและออเดรย์ ปลาบปลื้มกับความสำเร็จอย่างมาก จู่ๆมหาราชาวิกรามก็ถามขึ้นว่า
.
"ก็ในเมิ่อผมอยู่บนเตียงกับเกรซ แล้วใครเป็นคนที่ฆ่าเซอร์โก"
.
นิคและสารวัตรเดอลาครัวจึงรีบตามฮวน คาลอส ซึ่งกำลังจะรีบไปจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างคาลอสกับสารวัตร แล้วเป็นคาลอสที่สามารถจับสารวัตรเป็นตัวประกัน
.
คาลอสยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชักชวนให้เกรซมาร่วมมือกับเขาแล้วให้เธอไปเกลี้ยกล่อมโทบี้ให้ฆ่าพ่อตัวเอง จากนั้นก็เก็บเขาเสีย
คาลอสต้องการเก็บ 2 สามีภรรยา แต่เซอร์โกดันมาอยู่ผิดที่ผิดทางจึงถูกยิงตาย
.
เหตุการณ์ในห้องสมุดก็เป็นฝีมือเขา แม้แต่ตอนที่ไล่ตาม
เกรซในตลาดเขาก็เป็นผู้ขัดขาของนิคจนหกล้ม ทำให้ไล่ตามเกรซไม่ทัน นอกจากนี้เขายังเป็นผู้วางยาพิษคาเวนดิชอีกด้วย
.
คาลอสขับรถหนีโดยนำสารวัตรไปกับเขาด้วย เพื่อเป็นตัวประกัน สองสามี-ภรรยาจึงขับรถเฟอร์รารี่ที่บังเอิ้นบ้งเอิญเสียบกุญแจคาไว้จอดอยู่แถวนั้นพอดี (สงสัยรถของมหาราชา) ออเดรย์เป็นคนขับรถที่ใฝ่ฝันอยากได้มานานไล่ล่าคนร้าย
บทสรุปของเรื่องจบอย่างไม่คาดคิด ยังหาดูได้ทางยูทูบ พากษ์ไทย
.
สารวัตรเดอลาครัวทำหนังสือถึงต้นสังกัดของนิค ชมเชยความสามารถที่ช่วยทางการตำรวจฝรั่งเศส คลี่คลายคดีเหมาะสมที่จะเป็นนักสืบ
และชดเชยเวลาฮันนีมูนที่เหลือด้วยการให้นิคและออเดรย์นั่งชมวิวท่องไปกับรถไฟสาย Orient Express รถไฟหรูหรา 5 ดาว ที่โด่งดังจากนิยายสืบสวน Murder on the Orient Express(รถด่วนอันตราย) ของ อกาธา คริสตี้
.
หนูนิ
.
หมายเหตุ!
.
The Orient Express เป็นขบวนรถไฟสายที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 1883 วิ่งยาวระหว่างเมืองใหญ่ในยุโรป โดยวิ่งจาก
.
กรุงปารีส-ประเทศฝรั่งเศส —> เมืองกิอูรกุย (Giurgiu) -ประเทศโรมาเนีย —> มิวนิก-ประเทศเยอรมนี —> เมืองเวียนนา-ประเทศออสเตรีย —> เมืองเบลเกรด เมืองหลวงประเทศเซอร์เบีย —> ปลายทางสุดท้ายจบที่คอนสแตนติโนเปิล(หรือกรุงอิสตันบูล)-ประเทศตุรกี
.
ระยะทางรวมกว่า 2,000 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 68 ชั่วโมง
.
ซึ่งในยุคนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นการปฏิวัติการเดินทางโดยรถไฟเลยก็ว่าได้ เพราะมันถูกสร้างมาให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุด หรูหราที่สุด ปลอดภัยที่สุด ประหยัดเวลามากที่สุด และที่สำคัญยังแพงที่สุดด้วย(น่าจะเป็นหลักแสนต่อการเดินทางแค่ขาไป ไม่รวมเที่ยวกลับ เพราะเป็นขบวนรถไฟสำหรับเศรษฐี)
.
หลังจากที่ต้องหยุดให้บริการไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 The Orient Express ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
ในชื่อ ซิมพลอน โอเรียนท์ เอ็กเพรส (Simplon Orient Express) เปลี่ยนมาใช้เส้นทางที่ผ่านอุโมงค์ Simplon ลอดใต้เทือกเขาแอลป์ ผ่านประเทศอิตาลี ยูโกสลาเวีย บัลแกเรีย กรีซ ก่อนจะไปจบที่ตุรกีเช่นเดิม
โฆษณา