19 มิ.ย. 2023 เวลา 03:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

THE FLASH ดีซีซ้ำรอย ส่อแววเจ๊ง

ทำไมทำหนังให้ได้เงินมันยากเย็นนัก ผู้บริหารดีซีคงบ่นกันอย่างนี้ เมื่อ The Flash หนังแห่งความหวังทำได้เพิยงเปิดตัวด้วยรายได้อันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ แต่ทว่าต่ำกว่าคาดไปมาก คือได้เงินมาเพียง 55 ล้านเหรียญใน 3 วันแรกสำหรับตลาดอเมริกาเหนือและไปปิดที่ 64 ล้านเหรียญ แต่ยังทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศในต่างประเทศด้วยรายได้ 75 ล้านดอลลาร์จาก 78 ตลาด ทำให้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 139 ล้านดอลลาร์ ถือว่าน่าผิดหวังมากกับหนังทุนเกิน 200 ล้านดอลลาร์และมีค่าการตลาดอีกอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์
The Flash ดูจะใกล้เคียงสอดคล้องกับ Black Adam ที่ใช้ทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วด้วยรายได้ 67 ล้านดอลลาร์ และไปไม่ถึง 400 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก จากหนังหวังถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศกลายเป็นถล่มกระเป๋านายทุนไปได้ ผู้บริหารของ Warner Bros. ทำงานอย่างหนักเพื่อโน้มน้าวสาธารณชนเชื่อว่า The Flash คือ “หนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างมา”
แต่เสียงวิจารณ์ที่ได้จากผู้ชมค่อนข้างจืดชืด ได้เรทจากผู้ชมแค่ B ชี้ให้เห็นว่าคนดูหนังไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับการยกย่องจากวอเนอร์ ทำให้เห็นชะตากรรมที่ย่ำแย่เพราะหากไม่มีคะแนนจากผู้ชมในเชิงบวกหรือการบอกต่อแบบปากต่อปาก ยากที่ The Flash จะฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัว “Indiana Jones and the Dial of Destiny” ในวันที่ 30 มิ.ย. “Mission : Impossible – Dead Reckoning Part One” เข้าฉาย 12 ก.ค. และ “Oppenheimer” ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ฉาย 21 ก.ค.
"นี่เป็นการเปิดตัวสามวันที่อ่อนแอสำหรับหนังซูเปอร์ฮีโร่” เดวิด เอ. กรอส ผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาด้านภาพยนตร์ Franchise Entertainment Research กล่าว “มีการเปิดตัวที่คล้ายกันแบบนี้เป็นจำนวนมาก แล้วค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น ” เขากล่าวเสริม โดยอ้างถึง “Ant-Man” ในปี 2015 ซึ่งเปิดตัวไป 57 ล้านเหรียญและจบด้วย 519 ล้านเหรียญทั่วโลก เช่นเดียวกับ “Aquaman” ในปี 2018 ที่เปิดตัวไป 67.4 ล้านเหรียญ และจบที่ 1.15 พันล้านเหรียญทั่วโลก แต่เขาย้ำว่า“แต่เราจะไม่เห็นจากหนังเรื่องนี้”
นักวิเคราะห์เชื่อว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้ชมไม่ต้อนรับ The Flash ประการหนึ่งคือการที่ The Flash ลงจอขนาดใหญ่โดยปราศจากการส่งเสริมการขายแบบเดิมๆ ดาราไม่ได้ช่วยโปรโมทหนัง แถมยังมีข่าวไม่ดีเสียอีก นั่นเป็นเพราะเอซร่า มิลเลอร์กลายเป็นบุคคลที่มีปัญหาทางคดีความเรื่องการทำร้ายร่างกาย แม้เขาจะขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่ผิด และไปรักษาปัญหาสุขภาพจิตแล้วก็ตาม เขาได้ปรากฏตัวในรอบปฐมทัศน์ของหนัง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมให้สัมภาษณ์สื่อ หรือในการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ แต่อย่างใด
อีกประการหนึ่งคือ The Flash ยังเป็นทีวีซีรีส์ที่ได้รับความนิยม ที่ยังออกฉายอยู่ด้วย อีกทั้งตัวหนังทีวีก็ทำออกมาดี จึงเป็นเรื่องยากที่จะดึงคนมาเข้าโรงหนังทั้งที่เปิดสตรีมมิ่งก็ได้ดูซูเปอร์ฮีโร่คนนี้เช่นกัน
The Flash เป็นหนังดีซีเรื่องที่สองจากทั้งหมดสี่เรื่องที่จะออกฉายในปี 2023 ซึ่งวอเนอร์และดีซีต้องทำใจว่าน่าจะซ้ำรอย Shazam! ภาค 2 อีก 2 เรื่องที่รอฉายคือ “Blue Beetle” นำแสดงโดย Xolo Maridueña ในบทเด็กชายที่มีสัมพันธ์กับมนุษย์ต่างดาว เข้าฉาย 18 ส.ค. และ Aquaman and the Lost Kingdom” มีกำหนดฉาย 20 ธ.ค.
โฆษณา