19 มิ.ย. 2023 เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์

รู้จักวิธีเก็บเงินล้าน ฉบับคนญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึงประเทศที่มีระเบียบวินัยอันดับต้น ๆ ของโลก เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนน่าจะนึกถึง “ญี่ปุ่น” อย่างแน่นอน เพราะใครที่เคยไปเที่ยวประเทศของเขา จะเห็นได้ว่าบ้านเมืองมีความสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมาก
และต่อให้คนที่ไม่เคยได้สัมผัสประสบการณ์ข้างต้นมาก่อน ก็รับรู้ได้เช่นกันว่าญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องนี้ผ่านข่าวสารต่าง ๆ อยู่ดี
จากเรื่องราวที่เล่ามา ทำให้แอดสนใจว่าคนญี่ปุ่นที่มีระเบียบขนาดนี้ มีการบริหารเงินกันอย่างไร ซึ่งก็พบว่า มีเทคนิคด้านการเงินหนึ่งที่พวกเขาใช้กันมาอย่างยาวนานนั่นชื่อว่า Kakeibo (คะเคโบะ) เทคนิคออมเงินแบบง่าย ๆ แต่ได้รับผลลัพธ์เกินคาดหมาย
Kakeibo เป็นทั้งเทคนิคการจัดทำงบประมาณและปรัชญาทางการเงิน ที่ช่วยให้ผู้คนใช้จ่ายอย่างมีสติ ประหยัดมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีและมีความเรียบง่าย ซึ่งถูกคิดค้นโดย ฮานิ โมโตโกะ นักข่าวหญิงชาวญี่ปุ่น ในปี 2447 หรือ 119 ปีที่แล้ว เพื่อต้องการให้เหล่าแม่บ้านจัดการเงินในครอบครัวได้ดีขึ้น
แล้วเทคนิคการบริหารเงินแบบ Kakeibo ทำอย่างไร ?
1. จดบันทึกรายได้ทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะมางานประจำ งานเสริม หรือเงินที่ได้รับจากธุรกิจส่วนตัวก็ตาม
1
2. จดบันทึกรายจ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน
3. ตั้งเป้าหมายการออมในแต่ละเดือน โดยต้องอยู่บนความเป็นไปได้ ซึ่งหลักการง่าย ๆ เลยคือ เงินออมสูงสุด = รายได้ - ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต หากเราตั้งเป้าออมเงินมากกว่าเงินออมสูงสุด ก็ควรตั้งใหม่
4. แบ่งประเภทค่าใช้จ่าย โดยแบ่งแยกย่อยเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
▶ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
เช่น ค่าเช่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าประกัน และค่าไฟค่าน้ำ
▶ ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ต้องการมีต้องการใช้
เช่น ช้อปปิง ทานอาหารมื้อพิเศษ เที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศ และเงินที่ใช้ไปกับงานอดิเรก
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่แยกไม่ออกระหว่าง “ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น” กับ “ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น” ให้แต่ละคนตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเอง ก่อนจ่ายเงิน
- เราสามารถอยู่ได้ โดยไม่มีของชิ้นนี้หรือไม่
- เราสามารถซื้อของชิ้นนี้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องการเงินหรือไม่
- เราจะใช้ของชิ้นนี้จริง ๆ ไม่ได้อยากซื้อเพราะลดราคาหรือไม่
- เรามีพื้นที่เพียงพอสำหรับของชิ้นนี้หรือไม่
- เราอยากซื้อของชิ้นนี้เพราะอะไร มีคนเชียร์หรือมันช่วยแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง
▶ ค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิงต่าง ๆ (เป็นการสนับสนุนงานศิลปะ)
เช่น หนังสือ ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ตั๋วคอนเสิร์ต บริการสตรีมมิงต่าง ๆ และค่าภาพยนตร์
▶ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึง
เช่น ค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมแซมบ้าน
5. สรุปผลและทบทวน
โดยเขียนคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ ประจำทุกสัปดาห์หรือเดือนก็ได้
- มีเงินออมกี่บาท (ที่เกิดขึ้นจริง)
- ต้องการมีเงินออมกี่บาท (ที่ต้องการ)
- ใช้เงินไปกี่บาท
- เราจะปรับปรุงการบริหารเงินของตัวเองอย่างไร
สำหรับข้อสุดท้ายอย่างการปรับปรุงการบริหารเงิน ไม่ได้หมายความว่า เราต้องหาวิธีลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น
แต่อาจหมายถึงการตัดสินใจใช้จ่ายมากขึ้นในสิ่งที่เราชอบจริง ๆ หรือหาวิธีป้องกันสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต เช่น การทำประกันสุขภาพลดค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น รวมไปถึงใช้จ่ายน้อยลงในการซื้อที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก
6. ทำซ้ำ
เมื่อทำครบทั้ง 5 ขั้นตอนแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ เพื่อทำให้เราเป็นคนมีวินัยการเงินในที่สุด
จากขั้นตอนทั้งหมดจะเห็นได้ว่าเทคนิคการบริหารเงินแบบ Kakeibo ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เรามีวินัยและความตั้งใจก็สามารถทำได้แล้ว Dime! ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เพื่อน ๆ ออมเงินสำเร็จตามที่หวังด้วยนะครับ
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
════════════════════    
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน     
════════════════════     
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่     
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest     
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance     
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance     
LINE -  https://lin.ee/4W7j4nG       
#การเงิน #การลงทุน #ออมเงิน #Dime #ไดม์  #Dimeออมได้ลงทุนดี
----- 
อ้างอิง
โฆษณา