Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
19 มิ.ย. 2023 เวลา 13:48 • นิยาย เรื่องสั้น
เพลงรักลมสวาท (The Shepherd Girl 1964)
.
หนังmusicalของชอว์บราเดอร์สเรื่องนี้ภาษาจีนอ่านว่า "ซานเกอเลี่ยน" ยังหาชมได้ทางยูทูบ พากษ์ไทย ซับไทย ภาพคมชัด หนูนิดูเป็นสิบๆรอบแล้ว
ที่เล่าให้ท่านได้อ่านก็เพราะเมื่อไม่กี่ปีมานี้เพื่อนรุ่นน้องของลูกสาวไปเรียนที่จีน วันหยุดจึงไปเที่ยวที่ ภูเขาเฟิ่งหวงซาน ตามหนังเรื่องนี้ ซึ่ง....
.
หนังเรื่องนี้มีฉากสำคัญคือการร้องเพลงโต้เพื่อเลือกคู่ที่ภูเขาเฟิ่งหวงซาน น้องก็เที่ยวเพลินกว่าจะนึกได้ก็เหลือน้องอยู่คนเดียวคนอื่นไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ แถมทางลงจากเขาก็มีหลายทาง ทำไงดีล่ะเนี่ย
.
ทันใดนั้นก็มีอาเจ็กวัยกลางคนขี่มอเตอร์ไซด์เก่าบุโรทั่งผ่านมาน้องผู้หญิงจึงถามทาง เจ็กบอกว่านั่งรถเขาไปก็แล้วกันรีบๆหน่อยยังท้นรถเมล์เที่ยวสุดท้าย
น้องไม่มีทางเลือกก็ซ้อนรถที่พาลงจากเขา แล้วเจ็กที่แสน
ดีคนนั้นก็พาไปส่งที่ป้ายรถเมล์เที่ยวสุดท้ายให้ด้วย สร้างความประทับใจให้น้องมาจนทุกวันนี้
.
ความที่หนังเรื่องนี้นางเอกรับจ้างเลี้ยงแพะ(ชื่อภาษอังกฤษดันบอกว่าเลี้ยงแกะ) จึงทำให้หนูนิคิดไปถึงหญิงเลี้ยงแกะในเรื่อง บัญญัคิ ๑๐ ประการ (Ten Commandments)
.
เมื่อโมเสดได้เลือกเธอเป็นภรรยา เธอเป็นพี่สาวคนโตจากสาวๆสิบกว่าคน เธอได้กล่าวคำที่กินใจมากนั่นคือ
"ข้าอาจไม่ได้มีร่างกายบอบบางและสวยงาม แต่ก็ทนงานหนัก มือไม้แม้ไม่เรียวสวยและหยาบกระด้างแต่ก็ทำงานได้ทุกอย่าง ปากแม้ไม่อ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอม แต่ก็พูดความจริงเท่านั้น"
.
หนังเพลงรักฯเรื่องนี้นางเอกไม่มีแม่แล้วอยู่กับพ่อ 2 คน พ่อนางเอกชอบเล่นการพนันโดยเสียพนันมากกว่าชนะ
พอหมดเงินก็ยืมเจ้าของบ่อนซึ่งก็คือผู้ร้ายโดยใช้วิธีแปะโป้งไว้ก่อนและไม่ให้ลูกสาวรู้
.
หนังเริ่มต้นด้วยการฉายภาพของเกาะสุขสันต์ที่เป็นสถาน
ที่ของเรื่องราว เห็นภาพวิวทิวทัศน์ ทะเลและเรือของชาวประมง ภูเขา ต้นไม้ใบหญ้า การดำรงชีพของผู้คนบนเกาะ
.
แม้แต่การเลี้ยงฝูงเป็ด(อาชีพเก่าของหนูนิ) ควันไฟจากการหุงหาอาหาร โดยมีเพลงชาวเขา(ซานเกอ)ประกอบ ภาพสวยและเพลงเพราะ จนทำให้อยากไปมีชีวิตอยู่อย่างสุขสงบเช่นนี้
.
แสงอรุณส่องฟ้าจับเมฆา ตะวันแย้มแสงทองจ้าสาดส่อง นกเกาะไม้กู่เสียงร้อง เรียกพวกพ้องบินสู่ฟ้าไป เกาะน้อยร้อยพันธุ์พืชขจี
.
ป่าทึบไม้หลากสีงามล้ำ มีหมู่บ้านบนเกาะสุขสันต์ ทุกคนทุกครัววุ่นกับงาน ชาวประมงลงเรือฝ่าคลื่น ออกทะเลจับปลาเลี้ยงชืพ
.
เกาะเอ๋ยเกาะสุขสันต์ หญิงชายต่างร้องเพลงเป็น เปล่งสำเนียงเสียงเพลงชาวเขา ให้ดังก้องทั่วทุกแห่งหน
.
ทุกๆเช้านางเอกจะต้อนฝูงแพะไปกินหญ้าบนภูเขา และยืนอยู่แถวหน้าผาเพื่อมองดูทะเลเวิ้งว้างเห็นเรือสินค้าขวักไขว่ไปหมด
เมื่ออยู่ว่างๆนางเอกก็ร้องเพลง เห้เฮ ดังก้องไปทั่วบริเวณ เพราะขืนไม่ร้องเพลงเปลี่ยนเป็นพูดคนเดียวมีหวังใครๆต้องคิดว่าบ้าชัวร์
.
ส่วนพระเอกของเราก็พายเรือมาส่งสินค้าตามที่มีผู้ว่าจ้าง หรือไม่ก็รับลูกค้ามาขึ้นฝั่ง ลูกค้าประจำของพระเอกคือเถ้าแก่เลี่ยมฟันทอง ทุกครั้งที่ผ่านมาแถวนี้ก็จะได้ยินเสียงเพลงของนางเอก
.
2 หนุ่มสาวก็โต้เพลงกันตลอด จนต่างฝ่ายต่างนึกชอบแต่หน้าผากับทะเลมันห่างไกลไม่สามารถเห็นหน้ากันได้
ระหว่างเดินกลับบ้านนางเอกก็พบกับพรานเส็ง ผู้มีอาชีพ
ล่าสัตว์มาขายในหมู่บ้านที่นางเอกอยู่ และเขาก็ชอบนางเอกทันที
.
พระเอกเองก็ได้พบนางเอกที่ร้านของผู้ร้ายเช่นกัน ร้านนี้ขายทั้งชา เหล้า และเปิดบ่อนอีกต่างหาก พระเอกก็แอบชอบที่นางเอกเล่นงานเถ้าแก่เลี่ยมฟันทองจอมขี้หลีเสียเจ็บปวด
.
หลังจากนางเอกกลับไปแล้วก็มีแม่หม้ายจูเข้ามาธุระที่ร้านนี้และโดนผู้ร้ายซึ่งเป็นเจ้าของร้านแสดงกิริยาดูถูก พระเอกจึงส้่งสอนผู้ร้าย เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาเพื่อนสนิทที่เสียไป ผู้ร้ายก็ผูกใจเจ็บรอหาโอกาสที่จะเอาคืน
.
พระเอกเราเป็นคนโสดไม่มีภาระอะไรก็เลยช่วยส่งเงินให้เพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูลูกของเธอและเพื่อน แต่ผู้หญิงคนนี้ก็เกรงใจจึงย้ายมาอยู่ที่เกาะนี้แล้วก็มาเจอพระเอกเข้าอีก
.
คืนนั้นนางเอกก็ช่วยพ่อปั่นด้ายและร้องเพลงไปพลาง ก็มีเสียงชายหนุ่มมาร้องเพลงโต้ตอบ
แต่ไม่ใช่พระเอกแน่นอนเพราะเสียงน้องๆกาละมังแตก นางเอกก็ออกไปร้องเพลงด่า ส่วนพ่อนางเอกก็ถือไม้ไล่กลับไป
.
สักครู่ก็มีเสียงหล่อคุ้นๆหู นางเอกจึงร้องโต้ตอบและแอบย่องไปดูตัว พอเห็นเป็นเถ้าแก่เลี่ยมฟันทองก็ผิดหวัง
ส่วนเถ้าแก่เลี่ยมฟ้นทองได้จ้างพระเอกไปร้องเพลงจีบนางเอกโดยพื่แกใช้วิธีลิปซิ้ง แต่ความที่แกไม่มีพื้นฐานทางการร้องเพลงจึงแสดงพิรุธให้นางเอกจับได้
.
จุดเด่นของเพลงจีนในหนังก็คือ การร้องโต้ตอบนั้นจะเป็นปัญหาเชาว์เป็นการทดสอบสติปัญญาด้วย นี่คือเสน่ห์ของหนัง
พระเอกได้ร้องเพลงถามนางเอกว่า "อะไรเอ่ยคล้ายๆภูเขา
อยู่บนฟ้า อะไรเอ่ยคล้ายๆเมฆาอยู่บนดิน คนแบบไหนจึงเรียกว่าโง่"
.
นางเอกก็ร้องตอบว่า "บนฟ้ามีเมฆคล้ายภูเขา บนพื้นมีภูเขาคล้ายเมฆ ร้องแทนคนอื่นเรียกว่าโง่ ร้องให้ตนเองจึงฉลาด"
.
แล้วนางเอกก็เป็นฝ่ายถามว่า "จันทร์นั้นใหญ่แค่ไหน ท้องฟ้ามีดาวกี่ดวง ทะเลลึกแค่ไหน มีคนเท่าใดบนโลกนี้"
.
พระเอกก็ร้องตอบว่า "จันทร์นั้นใหญ่แค่ไหน ต้องถามเทพธิดาฉางเอ๋อ บนฟ้ามีดาวกี่ดวงเง็กเซียนฮ่องเต้ยังไม่รู้ ทะเลลึกแค่ไหนข้าไม่รู้ รู้เพียงว่ารักข้าลึกซึ้งกว่าทะเล"
.
ตอนนั้นนางเอกก็พบว่าพระเอกร้องเพลงแทนคนอื่น คำถามสุดท้ายนางจึงตอบเองว่า "คนบนโลกมี 2 ประเภท 1 ฉลาด 2 โง่ ร้องเพลงแทนคนอื่นว่าไม่ฉลาดแล้ว แกล้งทำเป็นร้องเพลงได้เรียกว่าโง่"
.
เมื่อมีโอกาสพบกันอีกเพราะพระเอกมาติดต่อธุระกับพ่อนางเอก เธอจึงไปดักรอถามชื่อ แซ่ และสถานะโสดหรือไม่ คำตอบที่ได้รับเป็นที่พอใจ นางเอกจึงนัดให้พระเอกไปพบที่เฟิ่งหวงซานคืนนี้
.
หมู่บ้านแห่งนี้ทุกๆปีที่ภูเขา เฟิ่งหวงซาน จะมีเทศกาล โต้เพลง เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้มีโอกาสพบกัน โต้เพลงถูกใจก็จับคู่แต่งงานเป็นคู่ชีวิต ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องร้องตอบ
.
ฉากนี้ชอว์ระดมตัวประกอบคับคั่งเผลอๆนักเรียนการแสดงทุกรุ่นมากันหมด นางเอกดังบางคนเล่นเรื่องนี้ยังเป็นตัวประกอบ สุดตี๋ สุดหมวย กันเป็นแถว มีการก่อกองไฟ การกระโดดไขว้ไปมา การควงคบเพลิง เพลงเพราะมาก
.
โชคดีที่เริ่องนี้ซับไทย ถ้าซับอังกฤษมีหวัง verb to เดามั่วแน่ แต่ถ้าซับจีนก็ จ บ อ่านว่า จบ
เพลงที่นางเอกและพระเอกโต้ตอบกันมีดังนี้
นางเอกถาม "อะไรเอ่ยกินแต่ต้นไม่กินราก อะไรเอ่ยกิน
ทั้งต้นกินทั้งราก ฟันอะไรเอ่ยขึ้นอยู่ในท้อง ท้องอะไรเอ่ย
มีนัยน์ตา"
.
พระเอกตอบ "เคียวเกี่ยวข้าวเกี่ยวต้นไม่เกี่ยวราก จอบจะฟันทั้งรากทั้งต้น โม่หินจะมีฟันอยู่ที่ท้อง โคมไฟที่ท้องจะมีดวงตา"
.
แล้วพระเอกก็ร้องต่อว่า "รักกับเจ้าช่างยากลำบาก อย่างกับปลาหลีฮื้อว่่ายข้ามทะเล อยู่น้ำลึกเกรงถูกนกโฉบ อยู่น้ำตื้นกลัวถูกแหจับ"
.
นางเอกก็ตอบว่า "มีใจจริงก็ต้องมีความมุ่งมั่น กลัวทำไมกับภูเขาสูงน้ำลึก เขาสูงเสียดฟ้านกยังบินข้าม ทะเลสุดหยั่งปลายังแหวกว่าย"
พระเอกก็ตอบว่า "เขาสูงน้ำลึกข้าไม่เคยกลัว กี่เขากี่น้ำก็ผ่านมาแล้ว กลัวแต่น้องเจ้าจะไม่มีใจ คนที่ชอบไม่ใช่ข้า"
.
นางเอกก็ตอบว่า "บอกรักด้วยปากไม่มีประโยชน์ ความรักนั้นอยู่ในหัวใจ ความในใจข้าเจ้าไม่เข้าใจ เพราะว่าเจ้านั้นทึ่มยิ่งกว่าวัว"
.
พระเอกก็มัวแต่อึ้งกิมกี่ นางเอกจึงร้องต่อ "มีวาสนาย่อมได้พานพบ มีบุญใจจึงสบสื่อถึง แม้วัวโง่ยังฟังเข้าใจ หากข้าร้องต่อไปคงต้องหน้าแดง"
.
แล้วนางเอกก็วิ่งออกไปอย่างเอียงอาย กองเชียร์จึงยุพระเอกให้ตามไป "นางชอบเจ้า ยังไม่รีบตามไปอีกหรือ" พระเอกจึงวิ่งตามนางเอกไป
.
นางเอกกับพระเอกก็กลายเป็นคู่รักหวานแหววเตรียมแต่งงานกัน
ส่วนผู้ร้ายเรื่องนี้ก็มักจะระรานแม่หม้ายจู เพราะเห็นว่าเป็นหญิงไม่มีทางสู้(ก็แหงอยู่แล้ว)
.
วันหนึ่งซึ่งเป็นวันซวยของพระเอกที่เผอิญหาบของไปส่งให้ลูกค้าของว่าที่พ่อตา และผ่านมาพบผู้ร้ายกำลังระรานแม่หม้ายจู
พระเอกจึงตะบันหน้ามันจนเสื้อตัวใหม่ของพระเอกขาด ทำให้ผู้ร้ายซึ่งเจ็บแค้นอยู่ยิ่งแค้นมากขึ้น
.
เมื่อมันกลับไปที่ร้านน้ำชาและเหล้าของมันก็พบว่านางเอกนั่งอยู่กับพ่อที่ร้านรอพระเอกที่ช่วยหาบของไปส่งให้
มันก็คิดอุบายออกทันทีตามประสาคนคดในข้องอในกระดูก เจ้าเล่ห์เพทุบาย อุบาทชาติชั่ว(ด่าหมดหรือยังนะ)
.
ไหนจะได้แก้แค้นพระเอกและข่มแม่หม้ายจูแล้วยังจะได้เงินจากเส็งเพราะมันไปรับปากว่าจะหาทางให้เส็งได้แต่งงานกับนางเอก มันจึงแกล้งร้องเป็นกลอนออกมาได้ความดังนี้
.
"เรื่องประหลาดเกิดขึ้นทุกปี ปีนี้ใหญ่เป็นพิเศษ ปกติใช้กะทะหุงข้าว ตอนนี้ใช้ข้าวหุงกะทะ ผู้หญิงดีๆไม่สนใจ กลับไพล่ไปชอบนางแพศยา
.
นางแพศยานั้นลีลามาก แต่งออกหน้าไม่มีใครเอา ได้แต่แอบลักลอบกิน ไอ้หมอนั่นก็ช่างต่ำช้า ข้างหนึ่งมั่วกับนางแพศยา
.
อีกข้างก็หลอกสาวให้แต่งงานด้วย คุณชายรองกับท่านพี่หลี่ ท่านว่ามันเลวหรือไม่"
.
พอนางเอกถามว่าเจ้าหมายถึงใคร ผู้ร้ายก็ยิ้มบอกว่า "ซิ่วซิ่วเจ้าเป็นคนฉลาด ยังจะให้ข้าบอกอีก นางแพศยาก็คือนางจูแปดผัว
เจ้าหนุ่มนั่นก็คือคนร้องเพลงเก่งๆ พวกมันเหมือนฟืนแห้งเจอไฟ ลักลอบยังไงก็ไม่พ้นตาข้า สงสารก็แต่แม่สาวน้อย
ที่นึกว่าตัวเองได้เจอคนดีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าถูกมันสวมเขา
ให้ เงียบๆเหงาๆโศกเศร้าอาดูร จากนี้ไปเจ้าจะอยู่อย่างไร"
.
แล้วผู้ร้ายก็ปั้นน้ำเป็นตัวใส่ร้ายพระเอกว่า เคยมีสัมพันธ์
กับแม่หม้ายคนนั้นยังส่งเสียเลี้ยงดูกันอยู่ ด้วยพิษรักแรง
หึงนางเอกจึงไปที่บ้านแม่หม้ายและให้บังเอิญพบว่า
แม่หม้ายกำลังปะชุนเสื้อที่ขาดของพระเอกอยู่ เพราะเธอมีอาชีพรับซ่่อมเสื้อผ้าอยู่ก่อนแล้ว
.
นางเอกก็หึงจนหน้ามืด แย่งเอาเสื้อพระเอกมาฉีกเป็นชิ้นๆโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น
และพาลโกรธเลิกรากับพระเอกโดยมีผู้ร้ายยืนยิ้มด้วยความสะใจ พระเอกพยายามตามง้อนางเอกที่กำลังนั่งเหม่อทั้งรักทั้งเกลียดทั้งคิดถึง
.
พระเอก: "วันก่อนเรายังรักกันมั่น ร้องเพลงโต้ตอบกันข้ามฝั่งภูเขา คิดไม่ถึงว่าเพียงข้ามคืน เจ้าจะฟังคนอื่นจนระแวงข้า"
.
นางเอก: "ลูกแปะก๊วยบนต้นแปะก๊วย ดอกแปะก๊วยไม่บานสู้ฟ้า บานครึ่งคืนบานก่อนเที่ยงคืน สลัดรักข้าเพียงแค่ครึ่งทาง"
.
พระเอก: "คนลืมคำแสบกว่าพริกแดง ดอกพริกคล้ายดั่งใบสด กินพริกมากปากย่อมปวดแสบ เชื่อข่าวลือเหมือนดั่งมีดแทง"
.
นางเอก: "ไม่ว่าข่าวลือจะจริงหรือเท็จ แต่ข้าเห็นเจ้าดีกับนาง คิดจะให้รักเราหวานดังก่อน ให้รอจนกว่าวันที่น้ำท่วมฟ้า"
.
พระเอกรีบตามไปปรับความเข้าใจกับนางเอกโดยมีเส็งอยู่ในเหตุการณ์และเกิดการต่อสู้กัน เส็งสู้พระเอกไม่ได้ แต่นางเอกก็ประชดพระเอกด้วยการเข้าข้างเส็ง ทำให้พระเอกเจ็บปวดมาก
.
แม่หม้ายจูหาโอกาสพบนางเอกและอธิบายความจริงที่ถูกผู้ร้ายกลั่นแกล้งใส่ความดูถูกว่า เธอมีหลายผัวทั้งที่ไม่จริง และไม่เคยมีสัมพันธ์กับพระเอกโดยเธอขอสาบาน
.
นางเอกจึงตามไปง้อพระเอกซึ่งกำลังร้องเพลงด้วยเสียงเศร้าสร้อยหมดอาลัยตายอยาก
แล้วทั้งสองก็กลับมามีความรักกันอีกครั้ง แต่....วันรุุ่งขึ้นก็มีประกาศว่ามีโจรสลัดอาละวาดในน่านน้ำแถบนั้น ห้ามออกเรือจนกว่าทางการจะส่งกำลังมาปราบปรามก่อน กลางคืนก็ให้ปิดประตูบ้านอย่างมิดชิด
.
ทางฝ่ายผู้ร้ายก็ทวงเงินค่าหนี้พนันที่พ่อนางเอกแปะโป้งเอาไว้ ไม่เช่นนั้นนางเอกต้องแต่งงานกับเส็ง เพราะเส็งรับอาสาใช้หนี้ให้แทน
พระเอกจึงต้องขอเวลา3วันหาเงินมาใช้หนี้ให้ โดยรับจ้างเถ้าแก่ฟันเลี่ยมทองออกเรือไปส่งสินค้า แม้จะเสี่ยงอันตรายจากโจรสลัด
.
กว่านางเอกจะรู้เรื่องนี้และมาห้ามเรือพระเอกก็ออกทะเล
ไปแล้ว นางเอกจึงร้องไห้ครำครวญอยู่ริมทะเล ได้แต่รอพระเอกกลับมาจนเวลาผ่านไป 3 วัน 3 คืน
ในวันที่4 เรือพระเอกก็แล่นกลับมา แต่พบว่ามีแต่เรือเปล่าใบเรือขาดรุ่งริ่ง ไม่มีพระเอก เป็นที่เข้าใจกันได้ว่า คงถูกพวกโจรสลัดปล้นเรือและพระเอกคงตายเสียแล้ว
.
ข่าวร้ายมาถึงดั่งสายฟ้าฟาด ใบร่วงหล่นชวนให้เศร้าหมอง ซิ่วซิ่วจึงได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ร้องไห้ตาบวมหัวใจสลาย
เดินท่องย้อนรอยความทรงจำ คิดถึงต้าหลงให้น้ำตาไหล แรกพบเราโต้เพลงกันที่นี่ มาอีกครั้งวันนี้ใจเศร้าหมอง
.
ภาพในอดีตยังจำติดตา วันนั้นนางขวางทางเขาที่นี่ ด้วยใจหมายปองอยากเป็นคู่ ใครจะรู้ว่าเขาไปไม่หวน
เฟิ่งหวงซานเอ๋ย สัมพันธ์สองเราเจ้าส่งเสริม วันนี้ต้าหลงเขาอยู่ไหน ซิ่วซิ่วร่ำไห้ถามสวรรค์
.
เดินเข้าศาลเจ้าพลันคุกเข่า คิดถึงคนรักแล้วต้องร้องไห้ ชาตินี้หากไม่อาจได้พบกันอีก ตายไปเป็นผีแล้วค่อยพบกัน
.
นางเอกจึงจำใจต้องแต่งงานกับเส็งเพื่อใช้หนี้แทนพ่อทั้งน้ำตา เมื่อทำพิธืเสร็จก็มีการส่งตัวเจ้าสาวไปบ้านเจ้าบ่าว
ซึ่งอยู่ไกลในหุบเขาโดยมีแม่หม้ายจูร่วมขบวนส่งเจ้าสาวด้วย(เฮ้อ!เป็นลางร้ายตั้งแต่ต้นเลยเส็งเอ้ย)
.
ความที่ระยะทางไกลมากจึงมีเวลาให้พระเอกที่เพิ่งกลับจากทะเลในสภาพบาดเจ็บเพราะโดนโจรสลัดปล้น แต่หลบหนีมาได้และมีคนช่วยชีวิตพามาส่งให้
พอถึงบ้านนางเอกและทราบเรื่องก็รีบวิ่งตามไปพร้อมตะโกนเรียกชื่อนางเอกไปตลอดทาง โดยมีชาวบ้านแห่ตามมาเป็นแถวเพื่อดูมวยคู่เอกฟรี ศึกชิงนาง
.
ไม่นานพระเอกก็ตามทันขบวนเกี้ยวเจ้าสาว ที่มีเส็งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินข้างๆเกี้ยวในชุดสุดหล่อ(หล่อแต่ชุด)
นางเอกพอได้ยินเสียงเรียกก็รีบออกมาจากเกี้ยวโผเข้ากอดพระเอกทันที พระเอกบอกกับเส็งว่านางเอกเป็นเมียเขาแล้ว เส็งก็เลยบอกว่า "ถ้าแกสู้ชนะก็เอาเธอไป"
.
แล้วทั้งคู่ก็เปิดศึกดวลกำปั้นกันแบบมวยวัดท่ามกลางจีนมุงดูแล้วได้อารมณ์ไปอีกแบบ
พระเอกได้ใช้ท่อนไม้เป็นอาวุธ ส่วนเส็งใช้เชือกมะนิลาเส้นใหญ่ที่หามเกี้ยวเจ้าสาว พระเอกใช้ไม้ตีเส็งจนล้มลุกคลุกคลานไม่มีทางสู้ ปากก็พร่ำพูดว่า "ซิ่วซิ่วเป็นของชั้น"
.
แต่เบื่องจากพระเอกบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วจึงล้มฮวบหมดสติ(เหมือนมวยบางคู่ที่ผู้แพ้หน้าสะอาด แต่ผู้ชนะหน้า
แตกยับเยิน) ขณะที่เส็งโผเผค่อยๆลุกขึ้นมายืนมองนาง
เอกที่โผเข้ากอดพระเอกร่ำร้องทั้งน้ำตา "ต้าหลง ฉันเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น"
.
เส็งก็หน้าสลด เพราะแม้ดูเหมือนจะชนะพระเอก แต่ก็แพ้
ใจที่แกร่งกว่ายอมต่อสู้เพื่อคนรักทั้งๆที่บาดเจ็บ ผุ้หญิงเขาก็ไม่รักเรา ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อต่อไป รอไว้เจอคนที่เรารักเขา แล้วเขาก็รักเราด้วยดีกว่า(คิดแทนเส็งอ่ะ)
.
คืดได้ดังนั้นเส็งผู้อกหักจึงเดินโซเซกลับบ้านในป่าด้วยความโทมนัส
ฝ่ายผู้ร้ายที่เป็นพ่อสื่อก็ถือโอกาสชักดาบเงินที่เส็งมอบให้เมื่อได้แต่งงานกับนางเอก แลกกับการใช้หนี้พนันของพ่อนางเอก
.
ดังนั้นพระเอกกับนางเอกจึงได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข เพราะเส็งสงเคราะห์ให้แท้ๆ
แล้วสองสามีภรรยาก็ช่วยกันทำมาหากินออกเรือไปด้วยกันตามประสาผัวหนุ่มเมียสาว ท่ามกลางรอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตาของข้าพเจ้า
.
หนูนิ
.
หมายเหตุ!สมัยก่อนแถวเยาวราช จะมีหญิงคนจีนมารับปะชุนเสื้อผ้าอยู่บนฟุตบาทริมถนนหลายเจ้า มีทั้งสาวและไม่สาว
ข้าพเจ้าเคยเอากระโปรงที่ถูกเกี่ยวขาดเป็นรอยไปซ่อม เธอหยิบด้ายหลากสีมาทาบแล้วนัดวันไปรับกลับ ปรากฎว่าการชุนผ้าของเธอทำได้เนี๊ยบและกลมกลืนกับสีผ้ามากทีเดียว
แต่สมัยนี้เสื้อผ้าราคาไม่แพงคงไม่มีใครซ่อมแล้ว อาชีพนี้ไม่ทราบยังเหลืออยู่หรือไม่
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย