20 มิ.ย. 2023 เวลา 12:00 • ธุรกิจ

ViaBus แอปดูตำแหน่งรถโดยสารไทย แบบเรียลไทม์

ที่เกิดขึ้นเพราะ ผู้ก่อตั้งเคย “ตกรถ”
“รถเมล์” คือ ระบบขนส่งสาธารณะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากในแต่ละวัน แต่ขณะเดียวกัน ผู้ใช้บริการเหล่านี้ ต่างก็เจอประสบการณ์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น..
- การยืนรอรถเมล์เป็นเวลานาน
และไม่สามารถคาดเดาเวลาได้ว่า รถจะมาถึงเมื่อไร ?
- การตกรถเมล์เที่ยวประจำ
และต้องมานั่งกังวลว่า รถรอบต่อไปจะมาอีกกี่นาที ?
- การไม่คุ้นชินกับเส้นทางเดินรถ (บางสาย)
จนสับสนว่า ตนเองจะต้องลงป้ายไหน ?
เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้ ต้องเคยสร้างความหนักใจให้กับผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ อยู่ไม่น้อย
แต่รู้ไหมว่า ? มีบริษัทหนึ่งที่เข้าใจหัวอกของผู้โดยสาร และได้เปลี่ยนปัญหาเหล่านี้ให้กลายเป็นธุรกิจ
ซึ่งธุรกิจที่กำลังพูดถึงนั้นก็คือ “ViaBus”
สตาร์ตอัปสัญชาติไทย ผู้พัฒนาแอปติดตามระบบขนส่งสาธารณะไทย แบบเรียลไทม์
2
แล้วเรื่องราวของ ViaBus น่าสนใจอย่างไร ?
และธุรกิจนี้มีโมเดลรายได้แบบไหน ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ ViaBus เกิดขึ้นในปี 2015 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
เมื่อคุณอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ ViaBus เกิด “ตกรถ” Chula Pop Bus หรือรถโดยสารรับ-ส่งสาธารณะภายในจุฬาฯ ทำให้วันนั้นเขาไปเข้าร่วมทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยสาย
2
แต่การมาสายครั้งนั้นก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะมันทำให้คุณอินทัชเกิดคำถามในใจว่า “ถ้าเราสามารถรู้ตำแหน่งรถโดยสาร และพอจะคาดการณ์เวลาล่วงหน้าได้ว่า รถจะมาถึงเมื่อไรได้ ก็คงดี”
1
จากนั้น คุณอินทัช พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน (คุณธนัทเศรษฐ์ หอวัฒนพันธ์ และคุณธนิษฐ์ ซึ้งหทัยพร) ก็นำความสงสัยมาต่อยอด เกิดเป็นแอปที่ชื่อว่า “Chula Pop Bus”
1
โดยแอปนี้จะมีหน้าที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารภายในจุฬาฯ ติดตามตำแหน่งและเส้นทางการเดินรถได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้โดยสารสามารถกะเวลา และเที่ยวรถที่กำลังจะมาจอด ณ ป้ายจุดรับ-ส่ง ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
และด้วยคุณสมบัติของแอปที่ออกแบบมาตอบโจทย์ Pain Point ของผู้ใช้งานอย่างตรงจุด จึงทำให้มียอดดาวน์โหลดแอปนี้ไปใช้งานถึง 4,000 คน ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน
แถมผ่านไปเพียง 1 ปี ยอดการดาวน์โหลดก็เพิ่มขึ้นอีกเป็น 40,000 คน ถือเป็นการเติบโตที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของคุณอินทัชและเพื่อน ๆ ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะในปี 2018 พวกเขาได้ขยายแนวคิดนี้ ไปสู่การพัฒนาแอปใหม่ ที่มีชื่อว่า “ViaBus”
ซึ่งแอป ViaBus จะไม่ได้รองรับการใช้งานอยู่แค่ในพื้นที่จุฬาฯ เท่านั้น แต่ได้ขยายฐานผู้ใช้งาน ไปสู่ผู้โดยสารในระบบขนส่งรถเมล์สาธารณะของไทย อีกด้วย
โดยตัวแอป ViaBus จะมีฟีเชอร์คอยบอกข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น
- ข้อมูลแผนที่ แนะนำวิธีการเดินทาง และระบบค้นหาป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด
- ระบบข้อมูลแสดงผลว่า รถเมล์ที่เรากำลังโดยสาร วิ่งผ่านเส้นทางไหนบ้าง
- แสดงพิกัดการวิ่งรถแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถกะเวลาที่รถจะมาถึงป้ายได้
- ข้อมูลแสดงรถที่สามารถรองรับผู้พิการที่ใช้รถวีลแชร์
 
- ข้อมูลแบ่งประเภทรถโดยสาร ทั้งแบบธรรมดาและแบบแอร์
 
- ระบบแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ รองรับการใช้งานกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
มากไปกว่านั้น ในปัจจุบัน ViaBus ยังได้ขยายเครือข่ายการเดินทางไปยังขนส่งโดยสารประเภทอื่น ๆ
1
เช่น รถสองแถว, รถมินิบัส, รถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถไฟ, เรือด่วน, เรือข้ามฟาก และรถตู้ระหว่างจังหวัด โดยมีบริการครอบคลุมกว่า 70 จังหวัด
1
ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกการขนส่ง มีความสะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้ระบบการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นไปอีกทาง
แล้วการใช้งานแอป ViaBus ต้องเสียค่าบริการหรือไม่ ?
ด้วยความที่ ViaBus ได้นิยามตนเองว่าเป็น “คู่หูในการเดินทาง”
ดังนั้นการใช้งานตัวแอป จึงไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
เมื่อ ViaBus เปิดให้ใช้บริการฟรี แล้วจะนำเงินจากไหน มาลงทุนพัฒนาแอป ?
คำตอบคือ ได้รับเงินอุดหนุนจากภาคเอกชนและภาครัฐ รวมถึงการสนับสนุนผ่านระบบ ViaBus Fan จากผู้ใช้งานแอปที่อยากซัปพอร์ตการพัฒนาระบบการใช้งานต่อไป
1
อย่างไรก็ตาม ViaBus ไม่ได้หวังพึ่งรายได้จากเงินอุดหนุนเท่านั้น เพราะปัจจุบัน ViaBus ยังได้พัฒนาโมเดลธุรกิจไปสู่รูปแบบ B2B โดยจะให้บริการด้านระบบกับคู่ค้า ที่สนใจใช้บริการซอฟต์แวร์ติดตามการขนส่งผู้โดยสาร
อย่างเช่น การไปร่วมมือกับโรงเรียนเอกชนที่ให้นักเรียน, ผู้ปกครอง และบุคลากร สามารถติดตามตำแหน่ง Shuttle Van ดูตารางเวลารถ และเช็กที่ว่างในรถโดยสารรับ-ส่งของโรงเรียนได้
1
หรือการจับมือกับคอนโดมิเนียม อำนวยความสะดวกให้ผู้พักอาศัย สามารถกดดู Shuttle Van หรือ Shuttle Boat ที่จะมารอรับ-ส่ง ผู้พักอาศัย
และด้วยนวัตกรรมของ ViaBus ที่ช่วยเปลี่ยนมุมมองต่อการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ พร้อมกับสร้างอิมแพกต์ให้กับผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะหลาย ๆ คนในประเทศ
จึงทำให้ 3 ผู้ก่อตั้ง ViaBus ทั้งคุณอินทัช คุณธนัทเศรษฐ์ และคุณธนิษฐ์ ติดอันดับหนึ่งในผู้สร้างนวัตกรรมแห่งปี 2021 ที่อายุไม่เกิน 30 ปี จากนิตยสาร Forbes อีกด้วย
2
มากไปกว่านั้น ผลลัพธ์จากสิ่งที่ ViaBus ทำ มันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวธุรกิจและคู่ค้าเท่านั้น
แต่ยังสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ต่อระบบขนส่งสาธารณะของไทย ให้พัฒนาไปอีกขั้น..
3
สุดท้ายนี้ ปิดท้ายด้วยคำกล่าวจากคุณ Gustavo Petro อดีตนายกเทศมนตรีเมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย
“ประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ใช่ประเทศที่คนจน มีรถยนต์ส่วนตัว แต่เป็นประเทศที่คนรวย ใช้ระบบขนส่งสาธารณะต่างหาก”
6
โฆษณา