Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MONEY LAB
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
22 มิ.ย. 2023 เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไม ราคาหุ้นขึ้นลง ได้เกิน Ceiling และ Floor ?
ในช่วงนี้ สิ่งที่ถูกพูดถึงเกี่ยวกับตลาดหุ้น ตามสื่อต่าง ๆ
ก็คงประมาณว่า “หุ้นขึ้นแรงวิ่งชน Ceiling หรือหุ้นตกหนักจนติด Floor”
ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการกำหนด Ceiling และ Floor ของราคาเสนอซื้อและเสนอขายของหลักทรัพย์ในระหว่างวัน ให้สามารถเปลี่ยนแปลงสูงสุดและต่ำสุด ได้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า
โดยราคาสูงสุดที่หุ้นสามารถขึ้นไปได้ เราจะเรียกว่า Ceiling ส่วนระดับต่ำสุดที่ราคาหุ้นสามารถลงไปได้ เราจะเรียกว่า Floor
แต่รู้ไหมว่า ก็มีเหตุการณ์ ที่ทำให้หุ้นเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลง ได้มากกว่า 30% ได้เช่นกัน
หลายคนอาจสงสัย ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
BillionMoney จะมาอธิบายให้เข้าใจ แบบง่าย ๆ
โดยวัตถุประสงค์ที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนด Ceiling และ Floor ก็เพื่อ
- ลดความผันผวนของตลาดหุ้น อีกทั้งช่วยให้นักลงทุนมีเวลาศึกษาข้อมูลและย่อยข้อมูล ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อขายหุ้นตัวนั้นอีกด้วย
- ป้องกันการทำราคาหุ้น จากคนบางคนหรือบางกลุ่ม
ที่บิดเบือนไปจากพื้นฐานความเป็นจริงของหุ้น
ยกตัวอย่าง หุ้น A ที่มีราคาปิดในวันทำการก่อนหน้าที่ 10 บาท
การเปลี่ยนแปลงในระหว่างวันของราคาหุ้น A จะเป็นดังนี้
- สามารถเพิ่มขึ้นสูงสุด (Ceiling) ได้ไม่เกิน
10 + (10 * 30%) = 13 บาท
- และสามารถลดลงต่ำสุด (Floor) ได้ไม่ต่ำกว่า
10 - (10 * 30%) = 7 บาท
ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่ผันผวนมาก
ทางตลาดหลักทรัพย์อาจจะขอความร่วมมือให้บริษัทจดทะเบียน ต้องชี้แจงข้อมูลว่า มีเหตุการณ์อะไรที่บริษัทยังไม่ได้แจ้งต่อนักลงทุนและสาธารณชนหรือไม่
1
อย่างไรก็ตาม มาตรการ Ceiling และ Floor จะมีข้อยกเว้นในบางกรณี อย่างเช่น
- หุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก
โดยราคาซื้อขายสูงสุดหรือต่ำสุด สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น หรือลดลง ได้ไม่เกิน 300% ของราคาเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท
- หุ้นที่มีการประกาศขึ้นเครื่องหมายในวันแรก
ยกตัวอย่าง เครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่ได้รับเงินปันผล, XR หรือวันที่ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่, XA หรือวันที่ไม่ได้สิทธิทุกประเภทตามที่บริษัทประกาศ
นั่นก็เพราะว่า ราคาซื้อขายสูงสุด หรือต่ำสุด จะต้องถูกคำนวณจากราคาที่หักสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากหุ้นนั้น ๆ นั่นเอง
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นบางประเทศก็ไม่ได้มีมาตรการ Ceiling และ Floor เหมือนอย่างตลาดหุ้นไทย อย่างเช่น ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาก็ไม่มีการกำหนด Ceiling และ Floor เป็นต้น
1
ซึ่งข้อดี หลายคนมองว่า ถ้าตอนที่หุ้นขึ้น มีโอกาสสร้างกำไรมหาศาล
แต่ต้องอย่าลืมว่า ในทางกลับกัน ราคาหุ้นก็สามารถตกลงอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนขาดทุนหนักได้เช่นกัน..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในช่วงวิกฤติล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างรุนแรงนั้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการปรับเปลี่ยนช่วงราคา Ceiling และ Floor ชั่วคราว ให้เหลือเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 15% ของราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า
1
โดยมาตรการนี้ นำมาใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 ก่อนที่จะยกเลิกเกณฑ์ชั่วคราวดังกล่าว
และกลับมาใช้ Ceiling กับ Floor ได้ไม่เกิน 30% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน..
References
-
https://investory.set.or.th/news/details/61d0424e-de25-49f9-b6b1-8f2580f3a2bc
-
https://www.setinvestnow.com/th/glossary/ceiling-&-floor
-
https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/pros-and-cons-of-foreign-stocks
หุ้น
การลงทุน
6 บันทึก
17
2
6
17
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย