24 มิ.ย. 2023 เวลา 02:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ลงทุนแบบลี้ลับ ไปกับ ‘กฎแรงดึงดูด’

ในโลกยุคปัจจุบัน ที่ #วิทยาศาสตร์ กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มี #AI ที่สามารถคิดและวิเคราะห์ จนทำสิ่งต่างๆ แทนเราได้ ไม่ว่าจะเป็นวิเคราะห์ข้อมูล การวาดภาพหรือสร้างรูปถ่าย หรือแม้กระทั่ง #ลงทุน แทนเรา 🤖
ถ้าให้นึกดูว่ามีอะไรที่ตอนนี้ AI ทำแทนเราไม่ได้บ้าง หลายคนอาจจะนึกไม่ออกแล้วใช่ไหมครับ
(เริ่มกลัวตกงานแล้วเหมือนกันนะเนี้ย) 🥹
หากพูดถึง #ความเชื่อ และ #วิทยาศาสตร์ หลายคนคงมองว่ามันเป็นเรื่องตรงข้ามกันใช่ไหมครับ
แต่…ความเชื่อนี่แหละที่มักเป็นจุดเริ่มต้นของวิทยาการ เทคโนโลยี หรือวิทยาศาสตร์… 🤔
นิยามของคำว่า วิทยาศาสตร์ คือ การเรียนรู้เรื่องราวรอบตัว และกระบวนการ #ค้นคว้า หาความรู้อย่างมีขั้นตอนครับ 🌍
เป็นการตามหาสิ่งใหม่ๆ บนโลกที่ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน หรือประดิษฐ์สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
🤓 แล้วถ้าคุณไม่เคยเห็น คุณก็ต้องเชื่อว่ามันมีก่อนใช่ไหมครับ ถึงจะเริ่มตามหามันจนเจอ….
เริ่มจากความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้ จะต้องเกิดขึ้นได้จริงๆ หรือมันต้องมีอยู่จริง อย่างเช่นความคิดที่ดูจะหลุดโลกในสมัยก่อน ที่มนุษย์เริ่มอยากบินเหมือนนก
ซึ่งใครจะคิดว่าเหล็กหนักเป็นตันๆ จะสามารถบินได้ แต่สุดท้ายก็เกิดเป็นเครื่องบิน ให้เราใช้อยู่ในปัจจุบัน ✈️
นั่นเพราะมีคนเคยเห็นผลลัพธ์ของความเชื่อเหล่านั้น หรือจริงๆ เสน่ห์ของมันอยู่ที่คำว่า #ปริศนา ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้กันแน่ ที่กลายเป็น #ความหวัง และ #ความท้าทาย มาคอยหล่อเลี้ยง ‘ความเชื่อ’
แล้ว #ความเชื่อ จะกลายเป็นจริงได้ก็ต้องเริ่มที่การกระทำครับ แต่ก็มีทฤษฎีหนึ่งที่แค่คิดก็เป็นจริงได้ นั้นก็คือ #กฎแรงดึงดูด ที่หลายคนคงเคยได้ยินกัน ที่เชื่อว่าจิตของมนุษย์ สามารถดึงดูดสิ่งที่คิด ให้เข้ามาในชีวิตได้ 😎
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การงาน การเงิน เสี่ยงโชค หรือแม้กระทั่งความรัก ที่ครั้งหนึ่ง ใครหลายๆ คนก็เคยลองใช้วิธีนี้เพื่อที่จะสมหวัง หรือแม้กระทั่งอาจจะเผลอใช้มัน ไปโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้…
อ่านถึงตรงนี้ คุณกำลังคิดถึงอะไรครับ? 🚨
คิดถึง #ความรัก ณ กาลครั้งนั้น หรือแค่กำลังสงสัยว่า ‘กฎแรงดึงดูด’ ที่เราพูดมาคืออะไร ถ้ามันดีขนาดนั้น ทำไมไม่มีใครใช้มันไปกับ #การลงทุน 🧐
🤘 มาเริ่มกันที่ ‘กฎแรงดึงดูด’ (Law of Attraction)
กฎแรงดึงดูด เป็นแนวคิดที่เชื่อว่าจิตของเรามีพลังที่จะสามารถดึงดูดสิ่งต่างๆ ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นความคิดที่ดี หรือไม่ดี หากเราคิดถึงสิ่งนั้นมากๆ มันก็จะกลายเป็นจริง หรือปรากฏขึ้นมาในชีวิต
เช่น หากคุณต้องการไปเที่ยวต่างประเทศมากๆ สมองคุณก็จะเริ่มคิดหาวิธีการต่างๆ รวมถึงข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและโฆษณาทัวร์ก็จะผ่านหูผ่านตามาให้คุณเลือกแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว 📱
 
หรือจะเป็นในบางครั้งที่คุณคิดถึงเพื่อนคนนึงมากๆ ก็อาจจะบังเอิญเดินเจอกันในสักสถานที่นึงก็ได้ และถ้าลองนึกดูดีๆ คุณอาจจะพบว่ามีเรื่องราวในลักษณะนี้เกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียวครับ
แล้วมันกลายมาเป็น ‘กฎ’ หรือ ‘ทฤษฎี’ อะไรแบบนี้ได้ยังไง 🤔
ย้อนกลับไป แนวคิดเรื่องกฎแรงดึงดูด ปรากฏขึ้นครั้งแรกในหนังสือของ Helena Blavatsky นักปรัชญาและนักเขียนชาวรัสเซีย เมื่อปี 2420 นู้นเลยครับ
ซึ่งหนังสือเล่มนั้นได้อธิบายถึงพลังจิตของมนุษย์ที่สามารถดึงดูดสิ่งต่างๆ ได้ หลังจากนั้นก็ถูกนำไปพัฒนาเป็นแนวคิดและงานเขียนต่างๆ มากมาย
จนกระทั่งปี 2549 มีการตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า ‘The Secret’ ของ Rhonda Byrne นักเขียนชาวออสเตรเลีย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘กฎแรงดึงดูด’ ที่สร้างความมหัศจรรย์ให้ชีวิตในด้านต่างๆ 😎
เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แนวคิดนี้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้ครับ เพราะหนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือขายดีที่จำหน่ายได้ถึง 19 ล้านเล่ม และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 40 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย
💓โดย ‘กฎแรงดึงดูด’ จะประกอบไปด้วยกฎ 3 ข้อ ได้แก่
1.เหมือนดึงดูดเหมือน (Like attracts like)
สิ่งที่เหมือนหรือคล้ายกันจะดึงดูดกันเอง เช่น หากคุณเป็นนักลงทุนสาย VI คุณก็จะดึงดูดนักลงทุนสาย VI เข้ามาครับ ไม่ว่าจะในรูปแบบของคนรู้จัก หรือ กลุ่มเพื่อนที่พูดคุยเรื่องการลงทุนอย่าง Jitta Wealth Official 😁
2.ธรรมชาติรังเกียจสูญญากาศ (Nature abhors a vacuum)
สมองของเรามีพื้นที่จำกัด แต่มักเสียพื้นที่ไปกับการคิดอะไรฟุ้งซ่านหรือคิดถึงสิ่งที่ไม่จำที่เปรียบเสมือนสูญญากาศครับ เช่นคุณอยากลงทุน แต่กลับเอาแต่คิดว่าจะเอากำไรไปซื้ออะไรดี (ทั้งที่ยังไม่มีกำไรด้วยซ้ำ)
คิดข้ามขั้นไปไกล แต่ลืมไปว่าต้องทำอะไรก่อนได้กำไร 🌟
3.ปัจจุบันสมบูรณ์แบบเสมอ (The present is always perfect)
เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปซื้อหุ้น หรือไปดูหุ้นตัวที่ราคาจะขึ้นในอนาคตได้ แม้จะต้องเจอกับคำว่า ‘รู้งี้’ อีกกี่ครั้ง สิ่งที่ควรทำคือ เรียนรู้และอยู่กับปัจจุบัน ดีกว่าไปมัวโศกเศร้ากับอดีต หรือกังวลกับอนาคตครับ 🙂
ซึ่งแต่ละคนก็มีการนำแนวคิดนี้มาตีความ และปรับใช้กับเรื่องต่างๆ ในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก และความสุข ❤️
แต่แปลกครับ ที่ไม่ค่อยเห็นใครพูดถึง หรือนำไปใช้กับการ ‘ลงทุน’ 💸
😘 กฎแรงดึงดูดใช้กับการลงทุนได้ แค่ต้องใช้ให้ถูกที่
เราเลยจะมาตีความและบอกเล่าการใช้แนวคิดที่ดูลี้ลับแต่จับต้องได้ อย่าง ‘กฎแรงดึงดูด’ ให้สามารถใช้กับการลงทุน ดึงหุ้นให้ขึ้น ดูดเงินให้เข้ากระเป๋ากัน
หลายคนอาจกำลังรู้สึกกังขาใช่ไหมครับ ว่าเราใช้กฎแรงดึงดูด ดึงหุ้นให้ขึ้นได้จริงเหรอ? 🤔
มองในแง่ของพลังจิต พลังจักรวาลหรืออะไรก็ตามแต่ ‘หุ้น’ ตัวนึงไม่ได้มีแค่เราที่ลงทุนครับ แม้ว่าเราจะมีความคิดที่ทรงพลังขนาดไหน ว่ายังไงมันก็ต้องขึ้น
แต่อย่าลืมว่า เราจะต้องสู้กับความกลัวของใครอีกหลายๆ คนที่กำลังคิดว่า หุ้นตัวนี้ราคามันต้องลงแน่ๆ และพร้อมจะขายทิ้งตลอดเวลา 😵‍💫
เพราะแม้ ‘กฎแรงดึงดูด’ จะมีผลจริงๆ ก็ต้องมาดูอีกว่า ฝั่งไหนจะชนะ ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ได้เลย
🫰ดึงหุ้นให้ถูก ดูดเงินเข้ากระเป๋า
ดังนั้นเราเลยต้องใช้แรงดึงดูดให้ถูกจุดครับ เปลี่ยนจากที่นั่งคิดแค่ว่าหุ้นตัวนั้นตัวนี้จะต้องขึ้น มาเป็น คิดว่าจะต้องซื้อหุ้น ที่มันจะต้องเติบโตในอนาคตให้ได้ 💪
พอเราคิดแบบนี้มากๆ จนกลายเป็นการ ‘โฟกัส’ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการต่างๆ ตามมาครับ ไม่ว่าจะเป็น การหาความรู้ ศึกษาข้อมูลแนวทาง และวิธีการต่างๆ ที่เหมาะสมมากมาย
แล้วจากนั้น ‘กฎแรงดึงดูด’ ก็จะทำงาน โดยการนำพาข่าวสาร รวมถึงหุ้นดีๆ ผ่านเข้ามาในสายตา ให้คุณเห็นและตัดสินใจคว้ามาลงทุน
จากที่คุณศึกษา และวิเคราะห์แล้วเป็นอย่างดี เมื่อคุณซื้อหุ้นมาลงทุน ก็จะทำให้คุณมีความมั่นใจมากเลยทีเดียวครับ
😊 #ความเชื่อก็สำคัญกับการลงทุน
ซึ่งความมั่นใจนี้เอง ที่จะทำให้ ‘กฎแรงดึงดูด’ ได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง และยังคงทำงานต่อไปเรื่อยๆ เพราะคุณเชื่อมั่นในหุ้นตัวนั้นนี่เองครับ
เมื่อคุณเชื่อมั่น และไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์แง่ลบอะไรก็ตามที่เข้ามา กระทบ คุณก็จะสามารถถือหุ้นตัวนั้น ผ่านวิกฤต รอจนมันเติบโตได้ในที่สุด
โดยที่คุณไม่รู้ตัว ‘กฎแรงดึงดูด’ ก็ยังคงทำงานอยู่ กลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเกื้อหนุ่นกันไปโดยปริยาย
สำหรับนักลงทุนสาย VI ที่เฟ้นหาหุ้นคุณค่ากันอย่างขะมักเขม้น อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ครับว่า ‘กฎแรงดึงดูด’ กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่
สุดท้ายนี้ ‘กฎแรงดึงดูด’ จะทำงานได้ ก็ต้องเริ่มจากความคิดของคุณเองก่อนครับ ทุ่มเทและโฟกัสกับสิ่งที่สนใจ ไม่ใช่แค่คิดเพียงชั่วครู่ แล้วปล่อยให้จางหายไปกับแสงแดดในยามเช้า 🌅
โฆษณา