24 มิ.ย. 2023 เวลา 13:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Shunsaku Sagami เศรษฐีหมื่นล้านที่อายุน้อยที่สุดในญี่ปุ่น

กับธุรกิจที่ใช้ AI เพื่อช่วยหาผู้สืบทอดธุรกิจขนาดเล็กที่ไปได้ดีแต่ไม่มีคนทำต่อ
การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ไม่ใหญ่มาก ต้องหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาด มีกระแสเงินสดดี หนี้สินต่ำ ยอดขายเพิ่มขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัวได้เพียงพอ
แต่ในญี่ปุ่นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแบบนี้กำลังประสบปัญหา เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตได้และมีกำไร แต่เจ้าของเริ่มแก่ตัว หมดแรง และหาคนมาสืบทอดทำธุรกิจต่อไปไม่ได้
นั่นเป็นปัญหาที่ ชุนซากุ ซากามิ (Shunsaku Sagami) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท “M&A Research Institute Holdings” วัย 32 ปี พยายามเข้ามาแก้ไข โดยบริษัทของเขาเป็นนายหน้าซื้อขายควบรวมกิจการ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำจับคู่ (Matching) ซื้อขายธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง มูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นไปกว่า 500% จากวันที่เข้าตลาดวันแรกในเดือนมิถุนายน 2022 (จาก 2,292 เยน -> 13,780 เยน : ตัวเลขวันที่ 21/06/2023) หรือภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีด้วยซ้ำ
ทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ราว ๆ 263,000 ล้านเยน หรือประมาณ​ 65,000 ล้านบาท ซากามิถือหุ้นบริษัทอยู่ 73% และนั่นก็ทำให้เขาเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน (เอาตัวเลขตรงก็เกือบ 50,000 ล้านบาท) ที่อายุน้อยที่สุดในญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่ทำให้หุ้นบริษัทของซากามิพุ่งขึ้นเหมือนจรวดนี้ก็มาจากความสามารถในการปิดดีลซื้อขายได้ไว โดยเฉลี่ยใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนต่อการซื้อขายธุรกิจหนึ่งครั้ง เร็วกว่าคู่แข่งในตลาดที่ปกติใช้เวลาราว ๆ 1 ปี ในปี 2022 ปิดการซื้อขายไปแล้ว 33 ครั้งและมี 426 ธุรกิจที่กำลังเจรจาต่อรองกันอยู่จากรายงานของบริษัทล่าสุด
โดยอุตสาหกรรมนายหน้าซื้อขายควบรวมกิจการนั้นถือว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น มีการซื้อขายเกิดขึ้นกว่า 4,304 ธุรกิจในปี 2022 (ซึ่งอันนี้รวมทั้งเล็กและใหญ่) ยกตัวอย่างดีลธุรกิจอันหนึ่งของ M&A Research Institute ในปีที่ผ่านมาคือการขายบริษัทไอทีรายได้ 200 ล้านเยน (50 ล้านบาท) ที่ไม่มีผู้สืบทอดตำแหน่งต่อให้กับคู่แข่งขนาดใหญ่ที่มีรายได้ 1,500 ล้านเยน (370 ล้านบาท) ที่กำลังขยายธุรกิจพอดี
ก่อนที่จะก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ งานแรกของซากามิอยู่ในอุตสาหกรรมโฆษณาและไม่เกี่ยวกับเรื่องการเงินเลย จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีโอกาสเข้ามาสู่โลกของธุรกิจนายหน้าซื้อขายควบรวมกิจการเพราะประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในปี 2015 เขาก่อตั้งบริษัทสื่อแฟชั่นแห่งหนึ่งชื่อว่า Alpaca ซึ่งต่อมาถูกอีกบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งซื้อไป ซึ่งเขาก็มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทนั้นด้วยแล้วก็มีส่วนช่วยควบรวมกิจการอีกหลาย ๆ แห่งในเวลาต่อมา
ระหว่างที่อยู่ที่นั้นเขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และอีกเรื่องหนึ่งที่กระตุ้นให้ซากามิออกมาก่อตั้งบริษัทนายหน้าซื้อขายควบรวมกิจการของตัวเองก็คือธุรกิจของคุณปู่ที่ต้องปิดตัวลงไปเพราะไม่มีคนมาดูแลต่อให้ สิ่งเหล่านี้เลยกลายเป็นเป้าหมายของซากามิที่จะรักษาธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) ให้คงอยู่ต่อไปในสังคมญี่ปุ่นให้ได้ ซึ่งถือว่าเป็น 99% ของธุรกิจในญี่ปุ่นเลย และ 2/3 ของธุรกิจเหล่านี้ หาคนมาสืบทอดธุรกิจต่อไม่ได้
M&A Research Institute นำเทคโนโลยีที่ AI มาใช้เพื่อการจับคู่ ช่วยค้นหาคนที่ต้องการซื้อที่มีศักยภาพกับธุรกิจที่เจ้าของพร้อมที่จะขายด้วย หลังจากดีลจบ ซื้อขายกันเสร็จ ถึงจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในตอนนั้น ระบบการกำหนดราคาที่เป็นมิตรต่อลูกค้าและการใช้ AI เข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทำให้ได้เปรียบคู่แข่งที่อยู่ในตลาด
1
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมภายในระยะเวลาแค่ไม่ถึง 5 ปีที่บริษัทก่อตั้งขึ้นมาถึงได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ไตรมาสที่ 4 ปี 2022 รายได้ 550 ล้านบาท แต่ที่น่าสนใจคือกำไรสุทธิกว่า 250 ล้านบาท หรือเกือบ 45% ซึ่งถือว่าเป็นอัตรากำไรที่ค่อนข้างดีมาก ๆ รายได้รวมทั้งปี 2022 ที่สิ้นสุดในเดือนกันยายนมีรายได้มากถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดียวกันกำไรก็เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า พนักงานก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 90 คนเมื่อสิ้นปีก่อน
ไม่หมดแค่นั้น หลังขายกิจการไปแล้ว ลูกค้าที่ใช้บริการของซากามิก็จะมีเงินก้อนใหญ่ หลายคนก็มักจะถามเขาว่า “แล้วจะเอาเงินที่ได้จากการไปทำอะไรต่อดี?” นั่นกลายเป็นก้าวต่อไปของ M&A Research Institute Holdings ที่จะคอยจัดการสินทรัพย์ของลูกค้าให้เพิ่มพูนมากขึ้นไปอีกด้วย
1
#aomMONEY #MoneyStorytelling #ลงทุน ##ShunsakuSagami #MAResearchInstituteHoldings #ชุนซากุซากามิ #เศรษฐีหมื่นล้านที่อายุน้อยที่สุดในญี่ปุ่น
โฆษณา