จากดักแด้...สู่ผีเสื้อ (ตอนที่จบ)
สู่ชีวิตที่ พรั่งพร้อมเหลือเฟือ
.
หลายปีก่อน หุยเคยฟังคลิปของ ดร.เกรก บราเดิน (Gregg Braden)
ท่านเป็นนักฟิสิกส์ที่หลงใหลในเรื่องพลังงาน Quantum
ครั้งหนึ่งท่านเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ไหนหุยจำไม่ได้
และท่านได้เล่าประสบการณ์ที่ท่านใช้สมาธิเยียวยา
ตั้งแต่นั้น ท่านสนใจใครรู้และศึกษาในเรื่องของจักรวาล
และพลังงานต่างๆ ที่เกิดจากความคิด อารมณ์และความรู้สึก
.
ท่านได้เดินทางไปหลายๆที่ในโลกนี้
เพื่อศึกษาศาสตร์การเยียวยาและอธิษฐานของศาสนาต่างๆ
และมีคลิปหลายคลิปที่เล่าเรื่องพลังของการอธิษฐานของศาสนาต่างๆ
และ "ปาฎิหารย์" ที่ท่านเห็นด้วยตาตนเอง
.
มีครั้งนึง ท่านได้พูดคุยกับพระทิเบตว่า
คลื่นความถี่ของจักรวาล ถ้าเทียบให้เราเข้าใจมันคือคลื่นอารมณ์ไหน
พระทิเบตตอบว่า "มันคือ ความเห็นอกเห็นใจ ความเมตตา และการขอบคุณ"
กล่าวคือ ถ้าเราต้องการส่งคำอธิษฐานไปที่จักรวาลหรือสื่อสารกับจักรวาล
เราต้องปรับคลื่นพลังงานในตัวเรา เป็นพลังงานแห่ง Grattitude หรือเมตตา
ต้องสัมผัสถึงอารมณ์นั้นอย่างเข้มข้น
แล้วส่งภาพชีวิตในฝันออกไปซ้ำๆๆๆ
.
และจิตของเราที่เกิดอารมณ์ต่างๆ
ก่อให้เกิดคลื่นพลังงานต่างๆ ตั้งแต่คลื่นความถี่ต่ำไปถึงสูง
วันๆอารมณ์ของเราขึ้นๆลงๆ จากความคิดบวกๆลบๆของเรา
ทำให้คลื่นความถี่ของเราวิ่งขึ้นวิ่งลงแกว่งไปมา
.
เวลาเราคิดลบ คลื่นความถี่ต่ำ ก็จะดูดเรื่องไม่ดีไม่ดีมาหาตัว
เวลาเราคิดบวก มีความสุข คลื่นความถี่สูง ก็จะดูดเรื่องดีๆมา
.
ดังนั้นการที่เราจะทำให้ชะตาชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ
เราต้องระมัดระวังความคิดของเราให้มาก
เพราะความคิด จะก่อให้เกิดอารมณ์
และอารมณ์ ทำให้เกิดคลื่นความถี่ที่ส่งออกไปในจักรวาล
ให้คุมความคิดดีให้คิดๆ รู้สึกดีๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซาบซึ้งขอบคุณบ่อยๆเมตตาบ่อยๆ
จะทำให้เราสื่อสารเป็นคลื่นความถี่เดียวกับจักรวาล Quantum
และทำให้เราสามารถ "เนรมิต" ชีวิตในฝันได้อย่างง่ายดาย
.
ซึ่งตรงกับที่หุยศึกษางานวิจัยและวิธีการของดร.โจ ดิสเพนซ่า
ว่า เมื่อเราสร้างคลื่นพลังงานในตัวเราจนถึงคลื่นความถี่ระดับแกมม่า
คลื่นความถี่สูง จิตจะเข้าถึงจักรวาล Quantum
และเราสามารถมีชีวิตดังเนรมิตร
.
จากประสบการณ์ส่วนตัว การที่หุยฝึกสมาธิหลากหลายวิธี
เพื่อศึกษาวิธีการ และสะสมเทคนิคที่จะทำให้หุย "หลุด"ออกจากพลังงานลบ
สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้
สามารถนำพาอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไปที่คลื่นความถี่สูงได้
และหุยก็เห็น "Miracle" หรือ ปาฎิหารย์หลายอย่าง
หุยมีชีวิตในฝัน มาหลายปีแล้ว
Zone ของชีวิต อยู่ในความสุขมากกว่าความทุกข์
และมีพลังงานบวกมากมายที่ช่วยให้หุยสามารถช่วยผู้คนได้
.
วิธีการที่หุยทำคือ
เมื่อหุยนั่งสมาธิ และพาตัวเองไปจุดแห่งการซาบซึ้งขอบคุณจนน้ำตาไหล
ตื้นตันเต็มไปด้วยความขอบคุณ
หุยจะจินตนาการชีวิตในฝัน
Lifestyle ที่เราอยากได้ ครอบครัว การงาน การเงิน
หุยพบว่า 5 ปีมานี้ สิ่งที่หุยได้รับในชีวิต
ใกล้เคียงกับแผนที่วางไว้ 80-90%
และเกิดความมหัศจรรย์มากบ้างน้อยบ้างในชีวิตทุกวัน
.
การศึกษาเทคนิคของดร.โจ ดิสเพนซ่า
ทำให้หุยเห็นทางลัด หรือ "ความเร็ว" ที่ทำให้หุยเข้าถึงพลังงานนี้ได้เร็วขึ้น
เพราะบางที การที่หุยทำงานกับคนพลังงานลบมากๆ
กว่าหุยจะล้างพลังงานลบออกจากตัวเองได้
หุยก็บาดเจ็บเหมือนกัน
.
การเรียนเทคนิตของดร.โจ ดิสเพนซ่า ผ่านทางอจ.สินี
ทำให้หุยเข้าใจว่า การใช้หลายเทคนิคควบคู่กัน
ทั้งเสียงดนตรี ที่ออกแบบมาเพื่อปลุกเร้าคลื่นสมอง
ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ
เสียงพูดนำสมาธิที่ทรงพลังของดร.โจ ที่ยากจะเลียนแบบ
หุยเชื่อว่า แต่ละคำ แต่ละโทนเสียงของดร.โจ
ได้ออกแบบมาเพื่อพูดกับสมองโดยตรง
การหายใจด้วยเทคนิคต่างๆ ทำให้เราควบคุมการหลั่งฮอร์โมนของร่างกาย
และการไหลเวียนของเลือดและไขสันหลัง
ภาพเคลื่อนไหวสามมิติ ที่ทำงานกับสมองผ่านประสาทตา
ทุกอย่างทำงานร่วมกัน
และเมื่อฝึกจนเข้ากันเป็นจังหวะที่สอดคล้องกัน
มันจะหยุดความคิดของเราที่วิ่งไปวิ่งมา
มันจะสร้างอารมณ์และคลื่นความถี่ที่ต้องการออกมา
และสามารถทำให้ฮอร์โมนและสารเคมีดีๆเหล่านี้
ไหลไปทั่วตัวอย่างรวดเร็ว
จนเกิดกระบวนการรักษา เยียวยา หรือสั่งให้ร่างกายทำอะไรก็ได้
หรือสื่อสารให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ราวปาฎิหารย์ค่ะ
ดีใจมากที่เข้าถึงความลัพธ์ที่สงสัยมานาน
ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และชีววิทยา
พระเจ้าท่านทรงรักมนุษย์
เราทุกคนคือพระเจ้า
แต่คนมากมาย เข้าไม่ถึงความเป็นพระเจ้าในตัวเอง
เพราะคนมากมาย ยังมีความทุกข์ที่สะสมในอดีตที่ไม่เยียวยา
บางคนควบคุมตัวเองให้หยุดคิดเรื่องไม่ดีไม่ได้
หลายคนยังเสพข่าวไม่ได้ ดูหนังที่มีพลังงานลบๆ
อารมณ์ความรู้สึกแกว่งไปแกว่งมาในโซนลบๆ
สร้างคลื่นความถี่ต่ำจนสื่อสารกับจักรวาล Quantum ไม่ได้
ถ้าใครติดตามหุยตลอด
จะทราบว่าหุยระมัดระวังเรื่องนี้มาก
ไม่ได้เป็นคนโลกสวยนะคะ
แต่ เป็นคนที่ใช้กฎแห่งแรงดึงดูดค่ะ
เป็นคนที่พาตัวเองไปในดินแดน Abundance แล้ว
มีชีวิตง่ายๆ สบายๆ และเบิกบานค่ะ
.
สรุปง่ายๆ สำหรับคนที่มีความทุกข์ใดๆ
1. เทคนิคต่างๆ ในการ ดึงความคิด หรือหยุดความคิดก่อนค่ะ มีหลายวิธีมาก เช่นการนั่งสมาธิ วิปัสสนา สวดมนต์ อธิษฐาน เล่นดนตรี ทำอย่างไรก็ได้ให้จิตจดจ่อ ให้อยู่ในสิ่งที่ทำ สมองจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาค่ะ
2. หลายๆครั้งความทุกข์จะวนเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามักหวนคิดความเจ็บปวดในอดีต โกรธ แค้น เกลียด เสียใจ ย้ำคิดย้ำทำ Move on ไม่ได้ อาจจะต้องฝึกเทคนิคการเยียวยาร่วมด้วย เพื่อที่จะสามารถให้อภัย และปล่อยวางความทุกข์ที่ยึดมั่นถือมั่นอยู่ได้
3. ฝึกที่จะให้อภัย รักและขอบคุณตัวเอง มีหลายเทคนิค หลายคนสอนเช่นกันค่ะ และฝึกซาบซึ้งขอบคุณทุกสิ่ง จนสัมผัสความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณอย่างเข้มข้น จนกระทั่งน้ำตาไหล
.
4. ฝึกการ Visualize หรือสร้าง Mind Movie ชีวิตที่ปรารถนา ในช่วงที่เราดึงอารมณ์ความรู้สึกไปที่ Gratitude หรือซาบซึ้งขอบคุณอย่างเข้มข้นแล้ว
5. ระมัดระวังความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของเรา ให้อยู่ใน Zone บวกและมีความสุข ให้ตลอดเวลา หรือมากที่สุด
แค่นี้ ก็รอดูชีวิตมหัศจรรย์ คำอธิษฐานเป็นจริงได้ค่ะ
หุยไม่ได้บอกนะคะ ว่า ทุกอย่างจะจบแค่นี้
หุยเชื่อว่า หุยยังมีสิ่งที่ต้องฝึกต่อ คือการยอมรับสัจจธรรมของชีวิต ว่าทุกสิ่งล้วนไม่มี ไม่มีเรา ไม่มีใคร ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่นกับชีวิตเรา หรือ คนที่เรารัก เพราะสุดท้าย เราทุกคนก็จะกลับไปในโลกแห่งพลังงาน
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
