วงการหนังละครไทยในวันที่ “ซี่รี่ย์จีน” ท้าชนเกาหลีเต็มตัว
อุตสาหกรรมละครและภาพยนตร์ เคยเป็นฟันเฟืองที่ก่อร่างถางทางจนทำให้วงการบันเทิงไทยสามารถเติบโตอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
โดยเฉพาะภาพยนตร์ยุคบุกเบิกที่ผลิตพระเอก-นางเอก ออกมาให้ประชาชนได้ติดตามรับชมผลงานผ่านทางจอเงินอย่างมากมาย เช่น “มิตร ชัยบัญชา” ,เพชรา เชาวราษฎร์ , ส.อาสนะจินดา ,พิศมัย วิไลศักดิ์ ฯลฯ
หลายคนเข้ามาเป็นนักแสดงและอยู่คู่วงการจนได้ชื่อว่าดาวค้างฟ้า
จากภาพยนตร์ความนิยมของคนไทยยังชื่นชอบละครหลังข่าว ที่ครั้งหนึ่งละครเรื่อง “คู่กรรม” ออนแอร์วันสุดท้ายเป็นตอนอวสาน กล่าวกันว่าถนนโล่งเพราะไม่มีใครออกจากบ้านเลย
ความนิยมในหนังและละครไทยที่พุ่งทะลุปรอท นานวันเข้าคนก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงนำละครเรื่องเดิมๆที่เคยได้รับความนิยมกลับมาสร้างใหม่ ไม่ว่าจะ คู่กรรม ,แผลเก่า, แม่นาคพระโขนง, บ้านทรายทอง ฯลฯ
เช่นเดียวกับภาพยนตร์ไทยที่ในยุคเทคโนโลยีการถ่ายทำก้าวหน้าไปมากแล้วแต่ส่วนใหญ่ก็ยังจะสร้างแต่หนังผีหรือหนังตลก ด้วยข้ออ้างของคนทำหนังว่านายทุนไม่อนุมัติงบประมาณให้สร้างภาพยนตร์ที่ขายไม่ได้กำไร เพราะนี่คือการทำลายวงการภาพยนตร์จนต่อไปจะไม่มีใครดูหนังไทยอีกเลย
เปรียบเหมือนเราทำการผลิตงานอะไรสักอย่างที่ควรจะถูกยกย่องว่ามีองค์ประกอบของศิลปะ แต่คนในวงการทั้งผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ นายทุน ทีมงานโปรดักชั่นถ่ายทำ ร่วมกันรุมเอาผลงานที่เคยขายได้ในอดีตมาฉาย
ประเด็นที่อยากชวนคุยคือ “ละคร" เนื่องจากในยุคทีวีดิจิทัลมีสถานีโทรทัศน์เพิ่มขึ้นมาหลายช่องทำให้ผู้จัดละครมีตัวเลือกในการขายหลากหลาย สามารถดูย้อนหลังผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงรูปแบบการผลิตลักษณะ “ซีรี่ย์" ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
มีละครหลายเรื่องที่เนื้อหาถูกตั้งคำถามว่าสนับสนุนการใช้ความรุนแรงหรือไม่ บางเรื่องเข้าข่ายใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงชัดเจน โดยล่าสุดละครเรื่อง “แค้น" มีประเด็นจริยธรรมหมิ่นเหม่ในสถาบันครอบครัว
เราจะไม่กล่าวถึง “ศีลธรรม" เพราะละครก็คือการนำเสนอเรื่องราวจากบทภาพยนตร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะควบคู่กับเสรีภาพในการสร้างสรรค์ สามารถค้นหาอ่านรีวิวเนื้อหาสั้นๆได้ตามเว็บไซต์ทั่วไป
“แค้น" ผลิตโดยบริษัท ทอง เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ของผู้จัด “แอน ทองประสม” เปิดตัวด้วยการนำ 3 นักแสดงชั้นนำที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย อย่าง แอฟ ทักษอร , แต้ว ณฐพร และนาย ณภัทร มาลงจอด้วยกันพร้อมคำนิยามNobody's happy if I'm not ออนแอร์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
ไม่ได้หมายความว่าการถ่ายทำละครเรื่อง “แค้น" ไม่ดี มุมกล้องไม่สวยหรือดาราระดับแถวหน้าแสดงไม่สมบทบาท การเดินบนเส้นเรื่องที่ส่องเข้าไปถึงกิเลสตัณหาของมนุษย์อาจจะได้ความแรง ง่ายต่อการสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ชมทางบ้าน
แต่ลองสังเกตุดูเทรนด์การรับชมของคนสมัยนี้ที่ก็มีทางเลือกผ่าน Net Flix มากมายเช่นกัน จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมซีรี่ย์จีน กำลังสู้กับซีรี่ย์เกาหลีที่เคยครองตลาดมานานเกือบ 20 ปีได้อย่างน่าสนใจ
ซึ่งทั้งจีนและเกาหลีสร้างซีรีย์แนวย้อนยุคแฟนตาซี, แนวรักวัยใสโรแมนติก หรือแนวสืบสวนสอบสวน ออกมาขายคนทั้งโลกให้ติดตามกันแบบไม่ต้องหลับต้องนอนกันแล้ว
ในขณะที่วงการบันเทิงไทยยังคงใช้พล็อตเดิมๆคือ ผู้หญิงตบตีแย่งผู้ชาย และถึงแม้จะพยายามฉีกไป “ซีรี่ย์วาย" ก็ยังอยู่แต่เรื่องรักๆใคร่ รักสามเส้าทะเลาะตบตีโวยวาย
โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากคนในสังคมจนเป็นทอล์ค ออฟเดอะ ทาวน์ สัปดาห์ที่แล้วก็คือนักร้องเสียงนุ่มถูกภรรยาจับได้ว่ามีชู้จนต้องหย่า
เรื่องชีวิตครอบครัวนักร้องศิลปินมีชู้ ทำให้ 2-3วันนั้นคนไทยลืมด่ากลุ่มฝั่งตรงข้ามการเมืองไปแบบฉับพลันทันที
ละครและภาพยนตร์ในโลกนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเปลี่ยนค่านิยม สร้างความหวังให้สังคมมามากมาย
อเมริกาสร้างหนังให้คนธรรมดาเป็นฮีโร่ ไม่ว่าจะช่วยกู้โลกบนอวกาศ อัจฉริยะเปลี่ยนโลก หรือ Base on true story มากมาย
สังคมเกาหลีผู้ชายนิยมใช้ความรุนแรงกับสตรีจึงสร้างซีรี่ย์ให้ผู้ชายมีความเป็นสุภาพบุรุษอบอุ่น เปลี่ยนค่านิยม
สังคมจีนมีคนจำนวนมากมายถูกกดขี่ มีซีรี่ย์แฟนตาซีจอมยุทธ์แฝงปรัชญาที่เป็นภาพจำต่อคนทั้งโลก
แล้วทำไมสังคมไทยถึงยังย่ำอยู่กับเรื่องแย่งผัวตบเมียกันไม่ไปไหนเลย
ภาพยนตร์หรือละครก็คือศาสตร์ศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ควรได้รับการผลิตด้วยความปราณีตตั้งใจ และมีคุณค่าควรเก็บให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่าสังคมไทยในยุคนี้เราเล่าเรื่องราวผ่านภาพเคลื่อนไหวหน้าจออย่างไร
แม้มันจะเป็นเพียงละครและภาพยนตร์ แต่ความบันเทิงในสังคมไทยก็ไม่ควรจะเป็นแบบทุกวันนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
