27 มิ.ย. 2023 เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

WARREN BUFFETT เห็นโอกาสอะไรใน “อินเดีย”

ทำไมเวลานี้อินเดียถึงเป็นประเทศ ที่น่าสนใจลงทุน ?
โดยเฉพาะมุมมองของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลก ที่มองเห็นโอกาสบางอย่างต่อการลงทุนในอินเดีย จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง เรามาดูกัน
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2560 อ้างอิงจาก The Economic Times วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยพูดถึงภาพรวมของประเทศอินเดียเอาไว้ว่า
นี่คือหนึ่งในประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่ และมูลค่าสูง ตัวเขาเองก็พร้อมที่จะเข้าลงทุนในบริษัทอินเดีย ที่มีมูลค่าที่ดีโดยทันทีหากมีบริษัทไหนประกาศขาย
แต่ด้วยกำแพงทางกฎหมายของอินเดีย ที่มีการกำหนดเปอร์เซ็นต์ผู้ถือหุ้นต่างชาติเอาไว้ และไม่อนุญาตให้ผู้ลงทุนต่างชาติถือหุ้นได้แบบ 100% ซึ่งขัดกับความต้องการของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ณ เวลานั้น ก็ทำให้การลงทุนต่าง ๆ ไม่ได้เกิดขึ้น
แถม วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองก็เคยคาดการณ์เอาไว้ว่า รายได้เฉลี่ยต่อบุคคลของอินเดียจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ และปัจจัยเชิงประชากร ที่มีจำนวนกว่าพันล้านคน รวมถึงการเติบโตของชนชั้นกลางในประเทศอินเดียที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นด้วย
1
ซึ่งในแง่ของการเติบโตของชนชั้นกลางนั้น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้มองไปที่เรื่องของปริมาณเพียงอย่างเดียว แต่เล็งเห็นถึงคุณภาพของบุคลากรในชนชั้นกลาง ที่ถูกปลูกฝังเรื่องการศึกษา ในรูปแบบของ STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) ให้กับเยาวชนมาอย่างยาวนาน
1
อินเดียจะมีอนาคตที่ยอดเยี่ยม จากพลังสมองของผู้คน
วอร์เรน บัฟเฟตต์
1
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวเอาไว้ โดยเฉพาะกับ บุคลากรจากสถาบัน IIT (Indian Institutes of Technology) ที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะครั้งหนึ่ง บิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft เคยตอบคำถามของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เอาไว้ว่า ถ้าตัวเขาสามารถจ้างวิศวกรได้เพียงสถาบันเดียว เขาจะเลือกสถาบันไหน และคำตอบที่ได้ ก็คือ IIT นั่นเอง
1
ด้วยคุณภาพของชนชั้นกลางในอินเดียที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่าประชากรในเจเนอเรชันนี้ จะช่วยทำให้ประเทศอินเดียเติบโตได้ ทั้งคุณภาพชีวิต และสภาพเศรษฐกิจในอนาคต
แล้วสถานการณ์ของอินเดีย ณ ปัจจุบัน เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปัจจุบัน ตามการรายงานของ The Guardian เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา อินเดีย กลายเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด แซงหน้าประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1.42 พันล้านคน
นอกจากนี้ ตามการรายงานของ Hindustan Times เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2566 ก็ได้มีการรายงานถึง “ค่าอายุมัธยฐาน” หรืออายุกึ่งกลางโดยเฉลี่ยของประชากรอินเดีย ที่อ้างอิงข้อมูลจาก World Population Prospects (WPP) ว่าประชากรอินเดีย มีค่าเฉลี่ยของอายุอยู่ที่ 28.2 ปี เท่านั้น ซึ่งถือเป็นช่วงวัยแรงงานที่พร้อมช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดีย ให้เติบโตต่อไปได้ในระยะยาวเช่นกัน
นอกเหนือจากนี้ อินเดียเองก็ยังมี นโยบายการรณรงค์เพื่อพึ่งพาตนเองที่เรียกว่า “อาตมนิรภัร ภารัต (Atmanirbhar Bharat)” ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ตามการประกาศของทางรัฐบาลอินเดีย โดยมีเป้าหมายให้ประเทศ และพลเมืองอินเดียเป็นอิสระ และพึ่งพาตนเองได้ในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้าน 5 เสาหลัก ซึ่งได้แก่
1
  • 1.
    เศรษฐกิจ (Economy)
  • 2.
    โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
  • 3.
    เทคโนโลยี ด้านระบบต่าง ๆ (Systems)
  • 4.
    ประชากรศาสตร์ (Demography)
  • 5.
    อุปสงค์ความต้องการ (Demand)
1
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง จึงทำให้อินเดีย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความน่าสนใจต่อการลงทุนระยะยาว
1
ซึ่งถ้าหากใครที่กำลังสนใจจะลงทุนกับประเทศอินเดีย โอกาสของคุณมาถึงแล้วกับกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-INDIA-A) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco India Equity Fund - Class A (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเงินทุนระยะยาว โดยลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน หรือตราสารที่คล้ายคลึงกันของบริษัทอินเดีย กองทุนหลักจะลงทุนในตราสารทุน และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนที่ออกโดยบริษัทอินเดียอย่างน้อย 70% ของ NAV (หลังหักสินทรัพย์สภาพคล่อง) ระดับความเสี่ยงกองทุน…
นอกจากนี้ยังมีชนิด SSF สำหรับผู้ที่กำลังมองหากองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี อย่าง กองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม (KT­-INDIA-­SSF) อีกด้วย
*ข้อมูลของกองทุนล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-INDIA-A) ได้ที่ : http://bitly.ws/Iit4
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนเปิดเคแทม อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม (KT­-INDIA-­SSF) ได้ที่ : http://bitly.ws/tpP7
ลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย
ดาวน์โหลด :
สอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร. 02-686-6100 กด 9
คำเตือน :
ปัจจัยความเสี่ยง ที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) / ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country Risk) เป็นต้น
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
References :
โฆษณา