27 มิ.ย. 2023 เวลา 16:28 • กีฬา

สรุปการประชุม "แยกไทยลีกออกจากสมาคม" แบบเข้าใจง่าย

นี่คือการประชุมที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าฟุตบอลไทยไปตลอดกาล เกิดอะไรขึ้นบ้างที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในวันนี้ ผมจะไปอธิบายอย่างเข้าใจง่ายครับ
1
วันนี้สมาคมฟุตบอล เชิญ "ผู้มีอำนาจตัดสินใจ" ของ16 สโมสรไทยลีก เข้ามาคุยกัน เกี่ยวกับฤดูกาลหน้า (2566-67) ที่กำลังจะมาถึง
1
ภายในห้องประชุม ประกอบด้วยคนของสมาคมฯ นำโดย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม และ กรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานไทยลีก โดยวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมไม่ได้มาด้วย
1
ผู้มีอำนาจตัดสินใจของ 16 ทีมมากันทั้งหมด นำโดย เนวิน ชิดชอบ (บุรีรัมย์), นวลพรรณ ล่ำซำ (ท่าเรือ), ปวีณ ภิรมย์ภักดี (บีจี), ธิติกร อาจวาริน (ชลบุรี), มิตติ ติยะไพรัช (เชียงราย), ธนวัชร์ นิติกาญจนา (ราชบุรี), รณฤทธิ์ ซื่อวาจา (เมืองทอง) ฯลฯ
2
นอกจากนั้นในห้องประชุม ยังมี นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของแพลนบี มีเดีย ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอล เข้าร่วมประชุมด้วย
เอาเป็นว่า นี่เป็นการรวมตัวกันของคนระดับบิ๊กของวงการฟุตบอลไทย จำนวนมากที่สุด เท่าที่พอจะนึกออกเลยทีเดียว
1
สิ่งแรกที่คุยกันในวันนี้ คือสมาคมยอมรับว่า ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้ มีผู้ขอซื้อลิขสิทธิ์ยื่นข้อเสนอเข้ามา 3 เจ้า แต่มี 2 เจ้าที่สมาคมรับเงื่อนไขไม่ได้ ทำให้เหลือเจ้าเดียวเท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์ โดยยื่นเข้ามาในราคา "50 ล้านบาท ต่อปี"
นี่เป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อมาก เพราะค่าลิขสิทธิ์มันลดลงอย่างน่าตกใจ
ในปี 2560-2563 สัญญาไทยลีก มีราคาปีละ 1,050 ล้านบาท (ทรูวิชั่นส์)
ปี 2564 ราคาร่วงลงมา เหลือปีละ 800 ล้านบาท (AIS)
ปี 2565 ราคาร่วงลงมาอีกครั้ง เหลือ 350 ล้านบาท (AIS)
ทุกคนยอมรับได้ว่ากระแสบอลไทยไม่ได้เปรี้ยงเหมือนยุคทอง แล้วยิ่งมีโควิดอีก ค่าลิขสิทธิ์คงยากจะถึงพันล้านเหมือนเดิม
1
แต่ประเด็นคือ ในปี 2566 โควิดก็ผ่านมาสักระยะแล้ว มันควรมีค่าลิขสิทธิ์ที่กระเตื้องขึ้น ในระดับ 500 ล้านบาทก็ยังดี
1
แต่คำตอบที่ได้รับคือ 50 ล้านบาท มันตลกไปหน่อยไหม ค่าตัวชนาธิป สรงกระสินธิ์ที่บีจี ซื้อมาจากคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ คนเดียวก็ 70 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ถามว่ามันจะไปแบ่งจัดสรรกันพอได้ไง
2
เอาล่ะ แน่นอน ตัวเลข 50 ล้านบ่งบอกถึง มูลค่าของไทยลีก ที่ลดลงจนใจหาย
1
แต่ดราม่าหลักๆ ของวันนี้ ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ การประชุมวันนี้ มีจุดประสงค์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือคุยกันเรื่องการ "แยกลีก T1 มาทำเอง"
1
ก่อนอื่นเลย ผมอยากเล่าแบบนี้ครับ ว่ารายได้ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะมีทั้งหมด 4 ทางด้วยกัน
1- ได้เงินสนับสนุนจาก FIFA และ AFC
2- เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ผ่านทาง กกท.
3- เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ โดยสมาคมฯ ให้แพลนบี มีเดีย เป็นคนจัดสรรหาโฆษณา ซึ่งแต่ละปี แพลนบี ทำตามเป้า 400 ล้านบาทได้ตลอด
1
4- เงินจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ทั้งไทยลีก และ ทีมชาติ
1
เงินจากข้อ 1 นั้น FIFA ระบุว่าเมื่อคุณได้เงินจากเรา ต้องนำไปใช้ให้ตรงจุดประสงค์ เช่น เงินสร้างที่ทำการสมาคมใหม่ จำนวน 70 ล้านบาท นี่ก็ได้มาจาก FIFA โดยตรงนะครับ
3
ส่วนเงินข้อ 2 3 และ 4 นั้น สมาคมจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ครับ ซึ่งวิธีการของสมาคมคือเอาเงินมารวมกัน แล้วกระจายให้ทุกๆ ฝ่ายอย่างเหมาะสม
1
สมาคมนั้น เป็นองค์กรใหญ่ ที่ต้องดูแลหลายอย่าง เช่น ทีมชาติทุกชุด, สโมสร T1 T2 และ T3, ค่าจ้างกรรมการ, ฟุตบอลชายหาด, ฟุตซอล, ยูธลีก, ฟุตบอลหญิง, การพัฒนาบอล Grassroots ฯลฯ
2
สมาคมมีเรื่องต้องใช้จ่ายเยอะมากในแต่ละปี แต่ปัญหาคือพอรายได้ลดลง โดยเฉพาะจากโควิด แต่ค่าใช้จ่าย Fixed Cost ยังคงมีอยู่ ทำให้สมาคมต้องหาหนทาง "ตัดรายจ่าย" บางส่วนออก และส่วนที่พวกเขาเลือกจะตัด คือเงินสนับสนุน 16 ทีมในไทยลีก
4
ในฤดูกาล 2565-66 เคยสัญญาว่าจะให้ทีมละ 10 ล้านบาท ก็ไม่สามารถจ่ายได้ครบ เพราะไม่เหลืองบประมาณเพียงพออีกแล้ว
2
นี่คือจุดสำคัญครับ เพราะมันทำให้สโมสรใน T1 ไม่พอใจ เนื่องจากรายได้หลักของสมาคมทุกวันนี้ มาจากค่าลิขสิทธิ์ของไทยลีกชัดๆ แต่สมาคมกลับกระจายเงินไปให้ส่วนอื่นๆ โดยไม่แคร์สโมสร T1 ที่เป็นคนหาเงินมาเลย
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มีการประชุมกันในวันนี้ครับ โดยสโมสรใหญ่ จำนวนหนึ่งนำโดย บุรีรัมย์, ท่าเรือ และ บีจี ปทุม ได้ "เสนอหลักการ" ขึ้นมาให้สมาคมฯ พิจารณา
1
หลักการนั้น คือการ "แยก T1 ออกไปเป็นเอกเทศ แล้วมีนิติบุคคลจัดการเอง" โมเดลเหมือนพรีเมียร์ลีกอังกฤษเป๊ะเลย
2
วิธีการคือแบบนี้ครับ ถ้าไอเดียการแยกตัวของทีม T1 เกิดขึ้นจริง ต่อไปทั้ง 16 ทีมจะออกไปตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาแห่งหนึ่ง ผมสมมติชื่อละกัน ว่าเป็น บริษัท ภูมิใจบอลไทย จำกัด
9
บริษัท ภูมิใจบอลไทย จะเป็นคนหาโฆษณาเองทั้งหมด ติดต่อหาผู้ถ่ายทอดสดเอง โดยไม่ต้องให้แพลนบี และสมาคม เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องเงินอีกเลย จากนั้นเมื่อได้เงินเท่าไหร่ ก็จะแบ่งให้ 16 ทีมก่อนเป็น Main Priority แล้วถ้าเงินเหลือ ก็จะเอามาแบ่งให้หน่วยงานอื่นๆ ตามความเหมาะสม
4
ในปัจจุบัน เงินทุกบาทจะเข้าไปที่สมาคมก่อน พวกเขาก็จะดูแลอย่างอื่น โดยเฉพาะทีมชาติไทยทุกชุด แต่มักจะคิดถึง T1 เป็นกลุ่มท้ายๆ
ซึ่งถ้าไอเดียการแยกทีม T1 เกิดขึ้นได้จริงๆ บริษัทใหม่ก็จะดูแล T1 ก่อน ให้ความสำคัญกับบอลลีกสูงสุด ที่เป็นเหมือนปิรามิดของฟุตบอลไทย
1
วันนี้เป็นขั้นตอนรับหลักการครับ โดยให้ 16 ทีมในไทยลีก ร่วมกันโหวตว่า เห็นด้วยกับการแยกไปเป็นเอกเทศหรือไม่ คำตอบคือ มีคนเห็นด้วย 11 สโมสร และยังไม่ตัดสินใจ 5 สโมสรครับ
3
กลุ่มที่เห็นด้วย เช่น บุรีรัมย์, ท่าเรือ, บีจี ส่วนที่ยังไม่ตัดสินใจ เช่น เชียงราย, ทรู แบงค็อก, เมืองทอง เป็นต้น
1
ทีนี้ ผมจะลองแจกแจงข้อดี-ข้อเสีย ของการแยกลีกนะครับ ทุกท่านลองพิจารณาดูว่า อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน
1
-------------------
[ ข้อดีของการแยกลีก ]
1
ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ คือ ทำให้ปีรามิดสูงสุดของบอลไทยมีความแข็งแกร่ง สโมสร T1 จะอยู่รอดแน่นอน ซึ่งเมื่อสโมสรอยู่รอด ก็มีทรัพยากรป้อนให้ทีมชาติชุดใหญ่ได้
1
โมเดลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เราเห็นมาแล้วว่ามันใช้ได้ผล การดูแลสโมสรแค่ไม่ถึง 20 ทีม มัน Lean มันคล่องตัว ไม่ต้องผ่านขั้นตอนซับซ้อน สมมุติ อยากจะใช้ VAR, อยากจะใช้ Goal Line ก็สามารถโหวตกันภายใน 16 ทีมได้เลย
นอกจากนั้น เราต้องยอมรับว่า สมาคมฯ ตอนนี้ ไม่สามารถเจรจาหาค่าลิขสิทธิ์ได้สูงกว่านี้อีกแล้ว มีแต่จะได้เงินต่ำลงทุกปี ถ้าหาก ให้บริษัทใหม่ อย่าง ภูมิใจบอลไทย ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านธุรกิจมากมาย อาจเรียกค่าลิขสิทธิ์ให้ T1 ได้เยอะมากกว่านี้ก็ได้
3
-------------------
[ ข้อเสียของการแยกลีก ]
นั่นคือข้อดีครับ ส่วนข้อเสียคือ ณ เวลานี้ สมาคมใช้กลวิธี "กระจายรายได้" ทำให้วงการฟุตบอลภาคส่วนอื่นๆ ก็พอจะโตได้อยู่ เช่น มีการอบรมโค้ชมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นต้น
2
ถ้าหากสโมสร T1 แยกลีกออกไปโกยเงินกันเอง รายได้สมาคมก็จะหายไปราวๆ ครึ่งหนึ่ง และสมาคมก็ต้องลด Budget อย่างอื่นๆ กันไป
1
รวมถึงฟุตบอลรากหญ้าก็น่ากังวลใจ คือปัจจุบันนี้พอ T1 หาเงินมาได้ สมาคมก็กระจายไปให้ T2, T3 แต่ถ้า T1 จัดการเงินของตัวเอง แล้วจะเหลืองบให้ T2, T3 มากแค่ไหนเชียว
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ คือทีมเล็กๆ ที่ไม่มีทุนคอยแบ็กอัพ จะล้มหายตายไปอีกหลายสโมสรมาก จะเหลือแค่ทีมที่พร้อมทางการเงินเท่านั้น ที่จะอยู่รอดได้
-------------------
[ บทสรุปในวันนี้ ผมขอไล่เรียงแบบนี้ครับ ]
1) เราได้รู้ว่า บอลไทยไม่เป็นที่สนใจเท่าอดีตอีกแล้ว มูลค่าของบอลไทยลีก ที่เคยสูงถึง 1,050 ล้านบาทต่อไป ตอนนี้ร่วงมาเหลือ 50 ล้านบาท หายไปพันล้าน
2) แต่เราไม่รู้ว่า ที่ร่วงลงมาเหลือ 50 ล้านบาท เพราะความสามารถของสมาคมฯ ที่ดีลมาได้เท่านี้ หรือว่า คุณภาพของบอลไทยมันได้แค่นี้จริงๆ ฟองสบู่แตกแล้วหรือเปล่า?
3) เมื่อดูแนวโน้มแล้วว่า สมาคมฯ คงทำให้ธุรกิจโตยาก ทำให้หลายๆ สโมสร รวมตัวกันเพื่อเสนอโมเดล แยก T1 ออกมาเลย ตัดขาดจากทั้งสมาคม และ แพลนบี ขอหาสปอนเซอร์กันเอง จบๆ ไป
2
4) 11 จาก 16 สโมสร คิดตรงกันว่า แต่ละปีมารอวัดดวงว่า สถานีโทรทัศน์จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์กี่บาท แล้วต้องมาลุ้นว่าสมาคมฯ จะแบ่งให้กี่บาท แบบนี้มันไม่เวิร์กหรอก แยกๆ ไปเองเลยง่ายกว่า
2
5) แต่มีข้อกังวลหลายอย่างเช่น สมมุติตั้งบริษัทใหม่ ภูมิใจบอลไทย แล้วคุณจะแบ่งรายได้ให้ 16 สโมสรเท่ากันไหม หรือว่าจะมีบางทีมที่ได้เงินมากกว่า จะยึดกฎ Equal Share ที่ทั้ง 16 ทีม มีรายได้และมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันหรือไม่ สุดท้ายจะมีสโมสรไหนถูกทรีตเป็นพิเศษหรือเปล่า
6) ในมุมของสมาคม บอกว่า "ลองดูโมเดลนี้ได้" ถ้าหากเสียงส่วนใหญ่ของทีมไทยลีกอยากจะทำแบบนั้น คือไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหน สมาคมก็จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป
การประชุมสิ้นสุดลง โดยฝั่งสโมสรจะ Brainstrom กันว่า ถ้าแยกลีกจริงๆ จะจัดสรรเงินอย่างไร คุณธิติกร อาจวาริน ตัวแทนจากชลบุรี ระบุว่า ควรจะมี Parachute Payments ดูแลทีมที่ตกชั้นเหมือนฟุตบอลอังกฤษ คือก็จะเป็นการลงดีเทลกันแล้ว
ขณะที่ฝั่งสมาคมฯ ก็จะไปดูข้อกฎหมายว่า สามารถแยกลีกไปเปิดบริษัทได้จริงๆ หรือไม่ ไม่ติดอะไรใช่ไหม
ข้อสรุปที่ชัดเจนกว่านี้ จะมีขึ้นวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ครับ ในการประชุมสภากรรมการของสมาคมฟุตบอลครับ
2
สุดท้าย ถ้าถามความเห็นของผม ก็เข้าใจสโมสร T1 เหมือนกัน เหมือนคุณเป็นคนทำงานหนักอยู่คนเดียว แต่ต้องจ่ายเงินอุ้มชูคนทั้งบ้าน ไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกไม่ยุติธรรม และอยากแยกมาจัดการเรื่องเงินเอง
5
นอกจากนั้น ถ้าผมเป็นสโมสรผมก็คงไม่พอใจทักษะในการเจรจาธุรกิจของสมาคมเหมือนกันว่า คุณดีลลิขสิทธิ์ 1 ปี มาได้ 50 ล้านบาทเนี่ยนะ ถ้ามันจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนั้น เดี๋ยวเราทำของเราเองดีกว่า
1
แต่ใช่ครับ ผมก็เข้าใจในความกังวลของหลายคนเหมือนกัน ว่าวางเงื่อนไขไม่รัดกุมพอ แล้วรายได้ไปกระจุกอยู่แค่ 2-3 ทีมแบบบอลสเปน บอลรากหญ้าที่เหนื่อยอยู่แล้ว จะยิ่งพังทลายได้เลย
เรามาติดตามกันในวันที่ 3 กรกฎาคมต่อนะครับ ว่าการแยกไปเปิดบริษัทตัวเอง ของทีม T1 จะบรรลุผลหรือไม่ ส่วนในโพสต์นี้ ใครคิดเห็นอย่างไร เสนอความเห็นได้อย่างอิสระเลยครับผม
4
โฆษณา