#เพราะติดในกรอบชีวิตที่เครียดและจริงจังอยู่เสมอ
อยากเอาบทความดีๆ จากเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา
มาฝากค่ะ..... จากใจหมอเด็กคนหนึ่งจะบอกว่า.... มาตาลดา ไม่ใช่แค่ละคร แต่เป็นบทเรียนทางจิตวิทยาเด็กและครอบครัวฉบับครัวเรือน....
ดูเถอะ แล้วทำความเข้าใจตัวละครแต่ละตัว เราอาจจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น มองลูก ภรรยา หรือสามีในอีกมุมที่เราไม่เคยมอง โดยเฉพาะมองเห็นและเข้าใจตัวเองมากขึ้น เราจะเข้าใจคนอื่นง่ายขึ้นค่ะ ......
เมื่อไหร่ที่มนุษย์คนหนึ่ง รัก มองเห็น เข้าใจ และยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตน เมื่อนั้น เราจะพร้อมที่จะเข้าใจและยอมรับคนอื่นมากขึ้นค่ะ....
ในฐานะป้าที่มีหลานชายสองคน หลานสาวหนึ่งคน กับสองครอบครัว หลานแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันค่ะ ในบ้านเดียวกัน เลี้ยงมาเหมือนๆกัน แต่เติบโตแตกต่าง นิสัย ความชอบไปคนละทางในแบบเขา....แต่ไม่มีใครเป็นในแบบที่ใจใครต้องการทัั้งหมด.... เราต่างหาก รักเขาในแบบที่เขาเป็นจริงหรือเปล่า......
พ่อแม่ก็เหมือนกัลยาณิตรของลูกนะ การที่เขามีนิสัยติดตัวมาบางอย่างในแบบที่เราอาจต้องหนักใจ ไม่ได้แปลว่าเราต้องมองว่าเขาเป็นปัญหา แค่เขาแตกต่าง
เรามีหน้าที่กล่อมเกลาเลี้ยงดูให้อุปนิสัยเหล่านั้นไม่ทำร้ายตัวเขาเอง ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น แล้วให้เขาเติบโตในแบบเขาอย่างไม่ทำร้ายตัวเองและคนอื่น
ทำยังไงให้เขารักและภาคภูมิใจในตัวเขาเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง นี่คือหน้าที่ของพ่อแม่
เราเป็นเพียงกัลยาณมิตรของลูกนะ
พ่อแม่เป็นกัลยาณมิตรที่มีต้นทุนคือความรัก...
เหนื่อยลงทุน 12 ปีแรกนะ หลังจากนั้นทำอะไรไม่ได้มากแล้ว เราหวังให้เขาเป็นแบบที่เราต้องการไม่ได้ เขาคือเขา.....เราลงทุนไม่ใช่เพื่อบังคับให้เป็นตามที่เราต้องการ แต่เป็นการประคับประคองให้เติบโต... ถ้ามันตรงใจเราก็เหมือนเราได้โบนัส....
ลูกสองคน บางอย่างอาจทำเหมือนกันได้ทำด้วยกันได้ บางอย่างอาจต้องแยกถ้าอีกคนไม่ใช่หรือไม่ชอบ อย่าต้องให้ใครอีกคนต้องกดดันไม่เป็นตัวเอง เพื่อเหตุผลของคนอื่นจนสูญเสียตัวเองไป...มันอึดอัดนะ
แค่พอเข้าโรงเรียน เพื่อนเขาก็สารพัดรูปแบบแล้วค่ะ พี่น้องเพื่อนคนละกลุ่ม เรื่องคนละแบบ จะไปนั่งสั่งคบใครไม่คบใครก็ไม่ได้....
ไม่ง่ายเนอะ การให้เด็กเลือกคบเพื่อน แบะเอาตัวรอดจากการถูกรังแก และไม่ไปรังแกคนอื่น และให้เกียรติเพื่อนทุกคนเหมือนกัน.... เด็กประถมยุคนี้ไม่ธรรมดา บางครั้งฟังก็โอ้วววว.....แม่เจ้า หลานต้องรอด 😅🤣
เราผู้ใหญ่อาจเหนื่อยขึ้นเรื่องการบริหารเวลาเพื่อให้เขาให้เหมาะ .... อดทนหน่อยนะ ทนหนักหน่อยสัก 12 ปี.... วัยรุ่น ค่อยรับมือกันอีกรอบ ตอนนี้ปูดีๆ จะได้ไม่หนักมากตอนนั้น เราเฝ้าลูกไม่ได้ตลอด เลี้ยงวันนี้เพื่อลดความเสี่ยงวันข้างหน้า....
อิสระภายใต้กรอบกติกาที่พอดี....
มันมีอยู่แต่ละบ้านต้องหาเองค่ะ
แอบหยอดไปนิดหนึ่งว่า.... สามีภรรยา ก็เป็นเหมือนกัลยาณมิตรกัน ให้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างรักใคร่ เกื้อกูล หวังดีต่อกัน.......
นี่คือคำพูดที่คุยกับน้องในวันนี้ค่ะ ตอนเช้า ก่อนออกมาทำงาน.... เรามักจะคุยกันเป็นระยะ... หลังๆก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่แม่เริ่มสะดุด.... เอาไงดีพี่ เลี้ยงลูกให้เป็นคนที่มีคุณภาพ มีคุณค่า มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีความสุข.....ไม่ง่ายเลยค่ะ.....
ป้าก็หัวจะปวด....
แรกเกิดเรื่องนึง เก้าเดือน ขวบปี ขวบกว่า สองขวบ สามขวบ สี่ขวบ ห้าขวบ หกขวบ จนโตกว่านั้น ....
เรื่องซ้ำกันที่ไหน สองคนคูณสอง สามคน คูณสาม + ลูกเพื่อน + คนไข้ 😅🤣.... บุญแล้วไม่มีลูกเอง....
เป็นพ่อเป็นแม่เองไม่ง่ายหรอก .....แค่จะเอาลูกมาเลี้ยงที่รพ.ยังไงให้สนุกก็ยากแล้ว.... คงครึกครื้นน่าดู 😅
ลองอ่านบทความดีๆ สำหรับเด็ก และพ่อแม่.. นั่นคือครอบครัวดูนะคะ....
.
‘เป็นหนึ่ง’ ศัลยแพทย์หัวใจที่มีความรู้ความสามารถ แต่เขากลับไปไม่เป็นในวันที่ต้องมาวาดรูประบายสี
ไม่ใช่เพราะไม่เก่งศิลปะ แต่เพราะชีวิตที่ผ่านมาเป็นหนึ่งถูกตัดสินและไม่เคยได้รับการยอมรับจากพ่อ คนสำคัญที่เป็นหนึ่งรักมาก
พ่อของเป็นหนึ่งเป็นคนเครียด จริงจัง ต้องการความเพอร์เฟ็คของลูกชาย ต้องสอบได้ที่ 1 ต้องเรียนแพทย์ เน้นผลลัพธ์โดยไม่สนใจว่าลูกชายจะรู้สึกอย่างไร พ่อคอยชี้นำและขีดเส้นการใช้ชีวิตให้เป็นหนึ่งเสมอตั้งแต่เด็ก
เช่น พ่อคิดว่าการเล่นสนุกหรือวาดรูปแบบเด็กๆ ไร้สาระและไม่มีประโยชน์ ถ้าจะก็ต้องทำให้ดี เล่นหรือวาดอะไรต้องมีประโยชน์ ทุกอย่างทำเพื่อเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จ
.
จนเป็นหนึ่งได้ไปร่วมงานวันเกิดของ ‘พ่อเกรซ’ พ่อของ ‘มาตาลดา’
เขาทำอะไรไม่ถูก เมื่อพ่อเกรซบอกให้คนที่ไปร่วมงานทำกิจกรรมวาดรูประบายสี “จะระบายยังไงแบบไหนก็ได้ ขอให้สนุกมีความสุข ไม่ต้องแคร์อะไรหรือใคร” พ่อเกรซบอก
เขาไม่เคยได้รับอิสระในการทำอะไรใดๆ ในชีวิต ทุกอย่างพ่อจะต้องบอกว่ามัน ถูกหรือผิด ดีหรือแย่ ไม่เคยทำอะไรสนุกหรือมีความสุข
พ่อเกรซเมื่อเห็นเป็นหนึ่งนิ่งไป ก็ดูจะเข้าใจความคิดของเขา
“ระบายสีน่ะ มันไม่มีถูกไม่มีผิดหรอกนะ มันมีแค่สุขหรือไม่สุข ระหว่างที่เราระบายเท่านั้นแหละ .. มันจะเป็นรูปภาพของเรา ไม่ต้องเปรียบเทียบกับอะไร ไม่ต้องเครียด” พ่อเกรซพูดกับเป็นหนึ่ง
.
‘พ่อเกรซ’ และ ‘เป็นหนึ่ง’ เป็นตัวละครเอกจากเรื่อง มาตาลดา ละครที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ ซึ่งหมอได้ติดตามและรู้สึกว่ามีประเด็นน่าสนใจ มาประยุกต์ใช้เพื่อแบ่งปันสู่คนอ่านเพจ
.
พ่อแม่ที่พาลูกๆ มาปรึกษาหมอนั้น บางคนมี ‘กรอบ’ ที่ตัวเองตีเอาไว้ให้เด็กเดินและทำตาม แต่บางครั้งกรอบที่ตีไว้ก็ ‘แคบเกินไป’ จนทำลายจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ของ รวมถึงความมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเอง
ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาได้มากที่สุดในช่วงที่ยังเป็นเด็ก เพราะเด็กเป็นช่วงชีวิตที่เรามีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ดี
มีงานวิจัยหนึ่งที่พูดถึงอารมณ์พื้นฐานของเด็กส่วนใหญ่ และก็พบว่าเด็กส่วนใหญ่แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไรก็ตาม อารมณ์ความรู้สึกพื้นฐานที่มีก็คือ ‘ความสุข’
.
บรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข เอื้อต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ในทางกลับการ บรรยากาศที่เด็กมีความวิตกกังวลหรือกลัวมากเกินไป ทำให้เด็กเกิดความเครียดและเรียนรู้ไม่ได้ดี
แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จะตามใจและปล่อยให้เด็กทำอะไรก็ทำได้หมด การกระทำหรือคำพูดใดๆ ก็ไม่ควรจะมีอิสระจนกระทั่งมีผลกระทบทางลบต่อคนอื่นหรือตัวเอง ขอบเขตเป็นเรื่องจำเป็นที่เด็กควรจะต้องเรียนรู้
.
แต่ขอบเขตนั้นควรจะเหมาะสม ไม่ควรจะไปจำกัดเด็กในทุกเรื่อง จนกลายเป็นคนปราศจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเรื่องศิลปะ การเล่น ไม่ควรกำหนดหรือตีกรอบ ควรให้เป็นความคิดอิสระของเด็ก
มีคำพูดหนึ่งที่บอกว่า "เด็กทุกคนมีความเป็นศิลปิน แต่ปัญหาอยู่ที่ ความเป็นศิลปินนั้นจะคงอยู่อย่างไรเมื่อเขาโตขึ้น" บ่อยครั้งที่ความเป็นศิลปินของเด็กส่วนหนึ่ง ถูกทำลายไปด้วยการกระทำของผู้ใหญ่เสียเอง
.
ขอบเขตนั้นแคบไปก็ไม่ดี กว้างไปก็ไม่เหมาะ ควรให้เด็กมีพื้นที่อิสระในการใช้ความคิดและจินตนาการในขอบเขตที่เหมาะสม ไม่แคบหรือกว้างจนเกินพอดี เพื่อเด็กจะเติบโตมาอย่างมีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงมีความมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเองอย่างเหมาะสม
.
หมายเหตุ: ในการเขียนบทความนี้ หมอไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องกับละคร เพียงแต่ได้รับชมและประทับใจ จึงขอเขียนแบ่งปันข้อคิดที่ได้สู่ผู้อ่านค่ะ
#หมอมินบานเย็น
#มาตาลดา
ขอบคุณภาพ และบทความจากเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา ค่ะ
ขอบคุณภาพจากเพจครอบครัวละคร 3
ป้าเข้าใจมาตานะ..... บางทีป้าก็เหมือนหนูนี่แหละ 😁😀😂
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
